ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 991 ไม่พอใจที่ไปพังเรื่องงานแต่งของคุณใช่ไหม?
นิสัยเขาดีมาตลอดไม่ใช่หรือ? เมื่อก่อนตอนอยู่ต่อหน้าเธอท่าทีดูอ่อนโยนมาก แต่ทำไมตอนนี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน? และแทบจะดูรุนแรงมากกว่าน้องชายสุดแปลกของเธอไปแล้ว
ตอนนี้แสงดาวแทบไม่กล้าออกเสียงใดๆ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที คู่คู่สามีภรรยาตระกูลโชคสกุลที่อยู่ในบ้านพักหลังด้านนอกที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันนั้น ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากโรงเก็บรถยนต์และเสียงตะโกนโหวกเหวกของลูกชาย เขาทั้งสองจึงเดินเข้ามา
“คุณพระ ริช ริชลูกเป็นอะไรไป? ริช!!!”
พอเข้ามาถึง เมื่อเห็นภาพอันน่าเวทนาต่อหน้า คู่คู่สามีภรรยาตระกูลโชคสกุลที่ก็รีบดิ่งเข้าไปด้วยสีหน้าตกตะลึง โดยเฉพาะคุณนายเซิ่นที่ตรงดิ่งเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าของคุณชายม็อกโก
“นายคือใคร? นายทำอะไรลูกชายของชั้น? ห๊า?”
“นั่นน่ะสิ! นายเป็นใครกันแน่?!!” คุณท่านตระกูลโชคสกุลแผดเสียงถามด้วยความตกใจและอารมณ์โมโห
คุณชายม็อกโกถึงได้หยุดชะงักขาลง จากนั้นได้หยิบบัตรทหารออกมา
คู่สามีภรรยา: “……”
ผ่านไปเพียงเสี้ยววินาที เมื่อทั้งสองได้เห็นชื่อและยศตำแหน่งอย่างชัดเจนแล้ว ใบหน้าของทั้งสองนั้นก็ซีดขาวไปอย่างทันที สีหน้าแสดงออกถึงความหวาดผวาอย่างสุดขีด
“นาย……นายเป็นคนของตระกูลเทวเทพแห่งเมืองหลวง งั้นนาย……มาที่นี่เพื่ออะไร?ลูกชายชั้นเขาทำอะไรผิดรึ?”
“ใช่ เขาได้ทำความผิดฐานค้าของเถื่อน!”
คุณชายม็อกโกตอบออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
วาริชที่ยังฟุบอยู่บนพื้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น รีบลุกขึ้นมาด้วยความโมโหจนแทบจะลืมความเจ็บปวดบนร่างกาย: “ผมค้าของเถื่อนตรงไหนกัน? เป็นถึงนายทหาร ไม่ควร……ไม่ควรที่จะใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!!”
“ผมใส่ร้ายป้ายสี? คุณกล้าที่จะยืนยันอะไหล่รถยนต์ทั้งหมดที่อยู่ในโกดังรถแห่งนี้ ได้มาจากการซื้อขายที่ถูกต้องงั้นหรือ?”
“ผม——”
“แล้วยังมีอีกเรื่อง การดัดแปลงเครื่องยนต์ เดิมก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว โกดังของคุณมีอะไหล่เพียบพร้อมขนาดนี้ และคุณก็ประกอบอาชีพนี้มาอย่างยาวนาน ผมมีสิทธิ์ที่จะสงสัยว่าคุณอาจใช้ธุรกิจนี้ทำเรื่องผลประโยชน์ทางตลาดมืดก็เป็นได้”
ไม่มีใครคาดคิดว่า ท่านพันเอกผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของเมืองหลวง จะมายุ่งเรื่อง “เล็กน้อย” แบบนี้ตั้งแต่เช้าตรู่
ธุรกิจประกอบรถยนต์ตลาดมืด?
แสงดาวฟังอย่างงวยงง
แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดแทรก ในความคิดของเธอนั้น ไม่ว่าอย่างไร ต้องเป็นคนเช่นเขาที่จะสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ ประชาชนคนธรรมดาอย่างเธอคงจะทำอะไรไม่ได้
คู่สามีภรรยาเซิ่นเมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว เริ่มหาทุกวิถีทางในการร้องขอความเมตตา
พวกเขาร่ำไห้อย่างเสียใจ หวังว่าคุณชายม็อกโกจะให้เปิดใจฟังพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขารับปากคุณชายม็อกโก ว่าจะทำลายสิ่งของที่อยู่ในโกดังให้สิ้นซาก และไม่ให้ วาริชยุ่งกับของพวกนี้อีก
ทำลายให้สิ้นซาก?!
แสงดาวที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อได้ยินเช่นนั้น กวาดสายตามองไปที่อะไหล่ที่ราคาสูงลิ่วพวกนั้น เธอรู้สึกเจ็บแปลบในใจ
“ได้ ผมจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง ถ้ายังได้ยินชื่อเขาในตลาดมืด……”
“ไม่แน่นอน ท่านพันเอกม็อกโกวางใจได้ พวกเราจะรีบส่งตัวเขาออกไปต่างประเทศเพื่อไปศึกษาต่อ จะไม่ให้เขามายุ่งเกี่ยวกับของพวกนี้อีกอย่างเด็ดขาด”
คู่คู่สามีภรรยาตระกูลโชคสกุลทั้งสองย้ำเพื่อยืนยันอีกครั้ง
เมื่อคุณชายม็อกโกได้ยินเช่นนั้น ถึงได้ยอม
“ยังยืนอยู่ที่นี่ทำไมกัน? ทำไมยังไม่รีบออกไป?” เขาส่งสายตาไปที่หญิงที่อยู่ตะลึงอยู่ข้างๆ เขาถามพร้อมอดกลั้นความโกรธไว้ในใจ
แสงดาวกะพริบๆตา เหมือนเพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมา
“ได้ๆ จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
เธอก้มลงหยิบรองเท้าส้นสูงที่อยู่บนพื้น แล้วรีบวิ่งออกไป
เวลาผ่านไปสิบกว่านาที เมื่อเขาทั้งสองนั่งอยู่บนรถจิ๊บสีดำของคุณชายม็อกโก แสงดาวนั่งใส่รองเท้าอยู่บนรถ พร้อมอดใจไม่ได้ที่จะถามคำถามว่า: “วันนี้คุณตั้งใจจะมาจับเขาจริงเหรอ?”
“ทำไม? คุณไม่เชื่อเหรอ?”
สีหน้าของคุณชายม็อกโกยังดูไม่ดีเท่าไหร่นัก เขาตอบเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง
สีหน้าของแสงดาวถอดสีไปทันที: “ไม่ใช่แบบนั้น……”
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่เชื่อ
เพียงแต่ว่า วินาทีที่เธอเห็นเขาเข้ามาในโกดังเสมือนมีฟ้าลงมาโปรด สวรรค์รู้ว่าเธอนั้นคาดหวังมากเพียงใด ที่จะให้เขานั้นมาเพื่อช่วยเธอ
แต่น่าเสียดาย ว่าเรื่องแบบนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
แสงดาวสวมรองเท้าอย่างเก้กังจนเสร็จ
“คุณส่งฉันไปที่ท่ารถประจำทางก็พอ ฉันจะกลับเมือง A” ท่าทีของเธอนั้นได้กลับไปเหงาหงอยอีกครั้ง ท่าทีดูเหมือนไม่สบายใจ
คุณชายม็อกโกขมวดคิ้ว
ตัวเขาเองก็คิดไว้เช่นนั้นเหมือนกัน ที่คิดว่าจะรีบส่งเธอกลับเมือง A ไป
แต่ว่าหลังจากที่เขาได้ยินเธอพูดคำนั้นออกมาจริงๆ พร้อมน้ำเสียงที่แสดงอารมณ์อยากจะจากเขาไปในทันทีแล้วนั้น เขากลับไม่ได้รู้สึกดีใจขนาดนั้น
“คุณไม่พอใจที่ผมไปพังเรื่องงานแต่งของคุณใช่ไหม?”
“อะไรนะ?” แสงดาวหันหน้ามามองเขาแต่ไม่ได้อธิบายอะไร
“ฐานะและชาติตระกูลช่างเหมาะสมกับตระกูลหิรัญชาของพวกคุณมาก ดูจากนิสัยใจคอของพวกคุณก็คล้ายคลึงกันมาก แต่กลับถูกผมทำพังลง คุณไม่โทษผมเลยเหรอ?”
คุณชายม็อกโกได้พูดย้ำขึ้นมาอีกครั้ง
แต่รอบนี้ ไม่รู้ว่าในใจเขานั้นโกรธเคืองอยู่หรือเปล่า? เขายังตั้งใจที่จะกล่าวถึงความสนใจและนิสัยของรองผู้บัญชาการคนนั้น
ความเป็นจริงแล้ว ณเวลานั้นเธอรู้สึกตื้นตันดีใจมาก เสมือนได้เจอคนที่รู้ใจเธอ ที่แม้แต่เขาก็ยังไม่เคยพบเจอมาก่อน
ในที่สุดแสงดาวก็ฟังเข้าใจสักที
ทันใดนั้น ในใจของเธอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก ความหวังอันน้อยนิดของเธอนั้นได้เลือนหายไป สิ่งที่เหลือมีเพียงความเย้ยหยัน
“ใช่สิ มันน่าเสียดายมากเลย เดิมคิดว่าปีนี้น่าจะได้แต่งงานสักที”
“……”
“แต่ก็ไม่เป็นไร คุณป้าของฉันมีเส้นสายเยอะ ถึงแม้จะพลาดครั้งนี้ไป แต่ยังมีอีกหลายคนรอฉันอยู่ ฉันค่อยๆเลือกและลองนัดเจอสักสองสามคน”
เธอหันหน้ากลับมามองหน้าของเขาอย่างตาประกาย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สีหน้าของคุณชายม็อกโกค่อยๆบึ้งตึงขึ้น