ตอนที่ 919 เทพมารหลินที่เดือดดาล
หลินสวินในตอนนี้กลับเงียบขรึมอย่างบอกไม่ถูก ความเงียบเช่นนี้ทำให้คนอึดอัดแทบจะหายใจไม่ออก
บางทีเยวี่ยเจี้ยนหมิงอาจไม่สามารถเทียบเคียงผู้กล้าชั้นยอด ยิ่งไม่ต้องยกขึ้นมาเปรียบกับผู้กล้าแห่งยุคเหล่านั้น
แต่เขาก็เป็นผู้กล้าคนหนึ่งเช่นกัน!
ในใจหลินสวินเขาไม่ด้อยกว่าคนอื่น การที่ตนสามารถเข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคครั้งนี้ ก็เพราะได้เยวี่ยเจี้ยนหมิงเชื้อเชิญ
อีกทั้งบนเส้นทางนี้ เยวี่ยเจี้ยนหมิงยังแน่วแน่ยืนหยัดข้างกายตนมาตลอด แม้ความสามารถไม่อาจเทียบคนอื่น แต่เขากลับสามารถเสี่ยงชีวิตเพื่อตน!
แต่ตอนนี้ เขากลับตายแล้ว…
และสาเหตุก็ง่ายดายเพียงนั้น แค่เพื่อไม่ให้ตนถูกข่มขู่…
กระทั่งก่อนตายเขายังไม่ร้องขออะไร ถึงขั้นไม่เคยบอกให้ตนแก้แค้นแทนเขา!
หลินสวินอัดอั้นจวนระเบิด ราวมีหินมาจุกอก ความแค้นเหลือจะเอ่ยจู่โจมจิตใจดั่งคลื่นซัดพลิกสมุทร
“ฮ่า หลินสวินเจ้าก็เห็นแล้วว่าเขาฆ่าตัวตาย ไม่เกี่ยวกับข้าสักนิด ข้อเสนอข้าเมื่อครู่ขอถอนคืน เจ้าก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน”
ซุนชวนสีหน้าพลันแข็งทื่อ แก้ต่างให้ตัวเอง
ฟุ่บ!
หลินสวินเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาดำขลับดุจเหวลึกเยียบเย็นถึงขีดสุด ทำเอาซุนชวนขนพองสยองเกล้าราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง
“พวกเจ้าล้วนสมควรตาย!”
ขณะกล่าว หลินสวินที่ข่มกลั้นมานานพลันระเบิดออก ในใจเขามีความแค้นและความเศร้ายากพรรณนาที่หมายระบายออก
ตูม!
แสงประกายระเบิดออกจากทั่วร่าง กลิ่นอายชวนประหวั่นปกคลุมฟ้าดิน เขาในตอนนี้จึงจะเป็นเทพมารอย่างแท้จริง เลือดเย็นอำมหิตอย่างที่สุด
“เผ่น!”
อวี่หลิงคงสีหน้าแปรเปลี่ยนขนานใหญ่ เดิมเขาทำเวลาฟื้นตัว แต่การฆ่าตัวตายกะทันหันของเยวี่ยเจี้ยนหมิงกลับทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เขารู้ดีว่าหลินสวินที่อยู่ภายใต้โทสะนั้นยากต่อกรยิ่ง ต้องล่าถอยทันที
ฟุ่บ!
อวี่หลิงคงฝืนตัวเต็มกำลัง โคจรวิชามรรคพุ่งทะยาน
“คิดหนี? ไม่มีทาง!”
หลินสวินแค้นจัด ผสานประทับปี้อั้นและผนึกป้าเซี่ยกำราบลงมา ประดุจคีรีเทพร่วงหล่นจากสวรรค์ดังตูม กระเทือนอวี่หลิงคงจนถอยร่น ทำจนเขาจมูกปากกลบโลหิต หน้าเปลี่ยนสีครั้งใหญ่
“ตาย!”
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ดาบหักโฉบทะยานขวางนภา ผ่าฟันลงมา เสียงพรูดดังขึ้น ก็สังหารพรรคพวกอีกคนที่อยู่ข้างซุนชวน ฟันผ่าเป็นสองส่วน ตายอนาถหาใดเปรียบ
ทุกคนตรงนั้นสั่นสะท้าน
เทพมารหลินที่เดือดดาลอานุภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง อำมหิต กระหายเลือด ฆ่าฟันเด็ดขาด น่าพรั่นพรึงถึงขีดสุด
ผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะนั่นร้ายดีอย่างไรก็เป็นยอดผู้กล้าคนหนึ่ง กลับถูกดาบเดียวของเขาสังหารราวถอนวัชพืช!
“เจ้ากล้า…” ซุนชวนหวีดร้อง ตกใจแทบบ้า
เปรี้ยง!
หลินสวินยันเท้าถีบ พาให้ฟันทั้งปากเขาหลุดกระเด็นทันที ร่วงกระแทกกองกับพื้น เบื้องหน้าพลันมืดมัวเกือบเป็นลมหมดสติ
เขาตะกายร่างหมายหลบหนี ในใจหวาดกลัวยิ่ง ก่อนจะพบว่าหลินสวินไปไล่กำราบอวี่หลิงคงแล้ว คงไม่สนใจเขาชั่วคราว
พรูด! พรูด!
เพียงแต่ว่า เท้าเขาเพิ่งยกก้าว ขาทั้งสองก็ถูกดาบหักที่ทะลวงเวิ้งฟ้าเฉือนขาด ร่วงหล่นตั้งแต่ช่วงเอวลงไป
ซุนชวนพลันร้องโหยหวน ร่างครึ่งท่อนหยัดยืนไม่ขึ้นอีก โลหิตแดงสดพรั่งพรูราวน้ำตกย้อมพื้นดินเป็นสีแดงฉาน
ผู้แข็งแกร่งมากมายหวาดหวั่น น่าอนาถเกินไปแล้ว พาให้ใจสั่นระรัว
เดิมสามารถปลิดชีพวายในคราเดียว แต่เห็นชัดว่าเทพมารหลินไม่คิดทำเช่นนี้ หมายทรมานเจ้าหมอนั่นทีละน้อย!
ขณะเดียวกัน เจดีย์สมบัติไร้อักษรเหนือศีรษะหลินสวินกำลังกำราบอวี่หลิงคงเต็มกำลัง ชัดแจ้งว่าเจ้านี่ฟื้นคืนพลังกายแล้วส่วนหนึ่ง ยังคงมีพลังต่อสู้อยู่ แม้บาดเจ็บสาหัสแต่เห็นได้ว่าแข็งแกร่งยิ่ง
ฆ่ายากจริงๆ
บุคคลแห่งยุคเช่นนี้ หากไม่คว้าโอกาสปลิดชีพเขา คงเกิดเหตุไม่คาดฝันแลการเปลี่ยนแปลงมากมายแน่
“หลินสวิน เจ้าต้องไม่ตายดี เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร หากท่านพ่อและอาจารย์ข้ารู้เข้าต้องสับเจ้าเป็นหมื่นท่อน ทำลายกระดูกโปรยเถ้าถ่าน!”
ซุนชวนกำลังโหยหวน น้ำเสียงอาฆาตหาใดเปรียบ
เขาผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะผู้ผ่าเผย ทั้งมาจากตระกูลเก่าแก่ฝ่ายหนึ่ง บัดนี้กลับถูกตัดขาสองข้าง ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย นี่ทำให้เขาไม่อาจยอมรับจนแทบเสียสติ
พรูด! พรูด!
แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง ดาบหักก็สำแดงอานุภาพเฉือนไหล่ทั้งสองของเขา แขนสองข้างร่วงหล่น กลายเป็น ‘ท่อนมนุษย์’ โดยสมบูรณ์
น่าอนาถเกินไปแล้ว คาวโลหิตหาใดเปรียบ ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายหนาวเหน็บในใจ เทพมารหลินซึ่งอยู่ภายใต้โทสะก็คือมือสังหารคนหนึ่ง
ขณะเดียวกันอวี่หลิงคงกระอักโลหิต สีหน้าไม่น่าดูนัก
ตำหนักอมตะที่เขาพึ่งพาบัดนี้กลับถูกตรึงไว้ ไม่อาจเผยแสนยานุภาพ ส่วนตัวเขาก็บาดเจ็บหนัก ขณะต่อสู้กับหลินสวินยังถูกกำราบอย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย
นี่ทำให้อวี่หลิงคงซึ่งเย่อหยิ่งทะนงตนมาตลอดยากยอมรับ แต่ภัยคุกคามถึงชีวิตทำให้เขาไม่กล้าคิด และไม่มีเวลาคิดมากความ ได้แค่ออกแรงต้านเต็มกำลัง วางแผนปลีกตัวหนีไปอย่างยากลำบาก
ทันใดนั้นเขานึกถึงคนๆ หนึ่ง… จี้ซิงเหยา!
แต่เมื่ออวี่หลิงคงเงยหน้ามองออกไป ก็เห็นจี้ซิงเหยาไม่รู้จงใจหรือไร้เจตนา กำลังสู้รบชุลมุนกับพวกซางเจี่ย ซื่ออวิ๋น ช่วงชิงศุภโชคอันดับหนึ่งเต็มกำลัง ท่าทางไม่ได้สนใจเขา
จากนั้นสายตาอวี่หลิงคงมองไปยังไป๋หลิงซี กลับเห็นเวลานี้ฝ่ายหลังออกทะยานพุ่งเข้าโจมตีหลินสวินก่อนแล้ว
ใช่ ไป๋หลิงซีออกจู่โจมแล้ว!
นี่ทำให้อวี่หลิงคงชื่นชมในใจ เขารู้ดีเช่นกันว่าไป๋หลิงซีคล้ายสนิทกับหลินสวิน เดิมคิดว่านางจะทำใจลำบาก แต่ในช่วงคับขันนี้นางกลับออกโรงโดยไม่ลังเล นี่ทำให้ในใจอวี่หลิงคงเกิดความหวังเสร้าวหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่เพียงชั่วพริบตา อวี่หลิงคงก็หัวสมองเบลอไปหมด เพราะไป๋หลิงซีมาไวพ่ายเร็ว แค่พริบตาเดียวก็ถูกหมัดหลินสวินซัดกระเด็น ริมฝีปากกระอักโลหิต ล้มลงกับพื้นอย่างอเนจอนาถ
“ทำไมเป็นเช่นนี้”
อวี่หลิงคงเดือดดาล แม้รู้ว่าไป๋หลิงซีไม่อาจเป็นคู่ต่อกรหลินสวิน แต่ตอนนี้เขาราวคนจมน้ำที่คว้าฟางข้าวยื้อชีวิต เลี่ยงไม่ได้ที่จะหวังให้มีโชคช่วย
แต่เห็นชัดว่าไป๋หลิงซีก็เอาไม่อยู่!
ในเวลาเดียวกันนั้นไป๋หลิงซีกำลังสื่อจิตกับหลินสวิน ‘เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าสามารถลงมือสังหารเขาได้เต็มที่ เช่นนี้ต่อให้ข้าหวนกลับสำนักก็ไม่ถูกลงโทษ’
เห็นชัดว่านี่คือฉาก ‘แสร้งบุก’ ที่เตรียมการไว้นานแล้ว แค่ทำทีให้อวี่หลิงคงเห็นเท่านั้น
ตูม!
เกือบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินระเบิดออกมาโดยไม่ลังเลอีก
“เจ้าคิดจริงหรือว่าทำเช่นนี้จะฆ่าข้าได้” อวี่หลิงคงมีหรือจะยอมถูกฆ่าเช่นนี้ เขาออกแรงเต็มกำลัง แผดคำรามราวทุ่มสุดตัว ทั่วร่างอบอวลกลิ่นอายชวนประหวั่น
ทันใดนั้นทั่วอาณาบริเวณแสงม่วงแผ่ลอย ปะทุแสงไร้จำกัด แม้แต่ตำหนักอมตะนั่นยังส่งเสียงวู้มๆ เกิดคลื่นผันผวนทรงพลัง
ทว่าหลืนสวินซึ่งเผชิญหน้าทุกอย่างนี้ อานุภาพกลับไม่มีถดถอย ใช้เจดีย์สมบัติไร้อักษรสยบตำหนักอมตะ ส่วนตัวเขาทะลวงหมัดแหวกอากาศออกไป
ปัง!
ศีรษะอวี่หลิงคงถูกอัดกระจุย!
เมื่อเห็นภาพนี้กับตา ทุกผู้คนล้วนจมสู่ความตระหนกอันเงียบสงัด ทุกคนหนาวสั่นไปทั้งตัว จิตใจสะท้านไม่หยุด
น่ากลัวเกินไปแล้ว น่าตกตะลึงอย่างที่สุด
เด็กหนุ่มที่มาจากโลกชั้นล่างคนหนึ่ง วันนี้กลับสังหารอวี่หลิงคง ผู้กล้ารุ่นเยาว์แห่งยุคของแดนพิสุทธิ์อมตะ ซึ่งเป็นที่รู้ว่าไร้คู่ต่อกรในหมู่คนรุ่นเดียวกัน!
หมัดนั้นมีหรือจะใช้คำว่าดุดันคำเดียวมาอธิบายได้ ทำให้ศีรษะอวี่หลิงคงแตกละเอียด โลหิตแดงสดสาดกระเซ็น!
ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง คล้ายยากจะเชื่ออยู่บ้าง อวี่หลิงคงจะถูกสังหารเช่นนี้หรือ นี่ทำให้พวกเขาสะท้านสุดขีด
นี่น่ะเป็นผู้กล้าแห่งยุคที่ชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแดนกาฬทักษิณ มีชาติกำเนิดจากตระกูลอริยะ ฝากตนเป็นศิษย์ในแดนพิสุทธิ์อมตะ มีพลังเหนือคนรุ่นเดียวกัน ซ้ำยังครองยอดสมบัติ ไม่ว่ามองจากมุมไหนเขาล้วนสมบูรณ์แบบ หาจุดบกพร่องมาตำหนิไม่ได้ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้เขากลับถูกฆ่าแล้ว…
นี่คือเรื่องใหญ่คับฟ้า ต้องกลายเป็นความโกลาหลแผ่ไปทั่วหล้า!
ตระกูลและสำนักที่อยู่เบื้องหลังอวี่หลิงคงต้องเดือดดาลด้วยเรื่องนี้ นำพาระลอกคลื่นใหญ่เข้ามา
ส่วนเทพมารหลินหลินสวิน จบศึกนี้คงกิตติศัพท์เลื่องลือไปอีกขั้น ผลักดันชื่อเสียงถึงขีดสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะเขาใช้ความจริงอันเจิดจรัสกร้าวแกร่งมาพิสูจน์ว่า แม้บนมกุฎมรรคาเขาก็มีศักยภาพแฝงพิฆาตคนรุ่นเดียวกัน!
หลินสวินยืนอยู่จุดเดิม เลือดโทสะสุมอกยังไม่เสื่อม การตายของเยวี่ยเจี้ยนหมิงทำให้เขาไม่มีความสุขกับการสังหารอวี่หลิงคงแม้แต่น้อย
เขาหมุนตัว นัยน์ตาดำดุจอสนีมองซุนชวนซึ่งถูกเฉือนเป็นท่อนมนุษย์อยู่ไกลออกไป กล่าวถามเย็นชา “ความคิดลักพาเยวี่ยเจี้ยนหมิงใครเป็นต้นคิด”
ซุนชวนสีหน้าผูกพยาบาท ตวาดลั่น “ฝันไปเถอะ!”
ฟุ่บ!
หลินสวินไม่มีลังเล โจมตีสังหารเขาทันที
ในที่นั้นเงียบสงัด ทุกคนจิตใจสั่นสะท้าน ผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะที่มาถึงแท่นมรรคครั้งนี้ นอกจากไป๋หลิงซีคนเดียว ที่เหลือเรียกได้ว่าพินาศทั้งกองทัพ
ก่อนหน้านี้ใครคงไม่อาจคาดคะเน!
การต่อสู้ชุลมุนยังคงระอุ บุคคลแห่งยุคเหล่านั้นกำลังช่วงชิงศุภโชคอันดับหนึ่ง แต่ในใจรู้อยู่ก่อนแล้วว่าภายใต้สถานการณ์ยักแย่ยักยัน ใครต่างไม่อาจสมดังปรารถนา
และตอนนี้ยังเพิ่มเทพมารหลินที่มีอานุภาพสังหารอวี่หลิงคงมาอีกคน ทำให้สถานการณ์บนยอดแท่นมรรคเปลี่ยนเป็นซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม
หลินสวินไม่ได้ใส่ใจสิ่งเหล่านี้ จิตใจเขาห่อเหี่ยว หมุนตัวเก็บร่างไร้วิญญาณของเยวี่ยเจี้ยนหมิงขึ้นมา
‘ข้ารับปาก ต่อไปจะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก… สู่สุขคติเถิด ข้าจะนำร่างเจ้ากลับไปฝังในถิ่นเกิด’
หลินสวินพึมพำในใจ
‘หืม?’
ทันใดนั้นในใจหลินสวินพลันกระตุก เกิดลางไม่ดี ฉับพลันก็มองเห็นตำหนักอมตะนั่นพลันแผ่พลังอริยมรรคน่าสะพรึง ประหนึ่งตื่นจากความเงียบงัน
ตูม!
กฎเกณฑ์อริยมรรคเจิดจรัสโชติช่วง โฉบพุ่งออกมาจากสมบัติอริยะ หมายสยบสังหารหลินสวิน
อย่าว่าแต่หลินสวิน แม้แต่คนอื่นๆ ต่างคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ ชั่วขณะที่หลินสวินผ่อนคลายที่สุด หายนะแห่งการทำลายล้างก็มาเยือน
ตำหนักอมตะที่ก่อนหน้าถูกเจดีย์สมบัติไร้อักษรต้านทานไว้ตลอด ไม่เคยสำแดงอานุภาพอย่างแท้จริง ทำให้ผู้คนเกือบลืมเลือนความน่ากลัวของสมบัติอริยะนี้
เคร้ง!
ห้วงอากาศระเบิดแตก ถูกกฎเกณฑ์อริยมรรคอันน่ากลัวกำจัด น่าพรั่นพรึงถึงขีดสุด
ภายใต้ความไม่ทันตั้งตัว แม้หลินสวินใช้เจดีย์สมบัติไร้อักษรเข้าต่อต้าน ก็ยังถูกสะเทือนจนลอยลิ่ว
พรูด!
เขากระอักเลือด ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างยากจินตนาการในชั่วพริบตา ทั้งตัวต่างส่งสัญญาณพร้อมทรุดทลายลงทุกเมื่อ!
ตำหนักอมตะ ยอดสมบัติอริยมรรค มีสีสันแห่งตำนานเกินคาดเดา เกริกก้องอดีตจวบจนปัจจุบัน มีหรือจะเป็นสิ่งที่สมบัติทั่วไปสามารถเทียบเทียม
ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่ว่ามีเจดีย์สมบัติไร้อักษรข่มกำราบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลินสวินคงประสบเคราะห์ไปนานแล้ว!
ประมาทไปเสียแล้ว หลินสวินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้
วู้ม…
แต่ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง ตำหนักอมตะนั่นก็บุกสังหารอีกครั้ง พลานุภาพแห่งอริยะดุจห้วงสมุทร สามารถท่วมทับเวิ้งฟ้า!