บทที่ 34 ปราณเป็นตาย2ระดับ
“เช้ง!เช้ง!เช้ง!……”
เผชิญหน้ากับการจู่โจมอย่างร้ายแรงของจอมยุทธ์เฉินหู่ หลัวซิวตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ถ้าไม่ใช่เพราะอาศัยวิชาท่าร่างของแดนบรรลุผล ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกยุทธ์การกลั่นร่างขั้น9ผู้ฝึกยุทธ์คนไหน เกรงว่าคงตายไปนานแล้ว
“กรึก!”
กระบี่ชิงเฟิงกลับหอกเหล็กปะทะกันอีกครั้ง มีไฟประกายที่ยากจะมองเห็นกระจายออกมา ร่างของหลัวซิวถอยหลังอย่างรวดเร็ว ถอนพลังจากจู่โจม แต่ว่ากระบี่ชิงเฟิงในมือ กลับหักไปแล้ว
“ฮ่าๆ หอกยอดลมของฉันเป็นของชั้นล่างของอาวุธรบ ไอ้หนูเตรียมตัวตายได้เลย!”
เฉินหู่กวาดทำลายล้างทุกอย่างบีบให้หลัวซิวถอยหลัง กระตุกหอกยาว พุ่งหอกด้วยความรุนแรงและรวดเร็ว
กระบี่ชิงเฟิงหัก ทว่าสีหน้าของหลัวซิวยังคงนิ่งงัน เคลื่อนเท้าเล็กน้อย หอกยอดลมผ่านตัวเขาไปอย่างเฉียดฉิว ลมทำให้แผ่นอกของเขาเกิดเป็นแผลฉีกขาด เลือดสดพุ่งออกมา
“ท่าเสือพิฆาต!”
เสี้ยววินาทีแห่งความหวาดเสียว หมัดของหลัวซิวชกไปที่แผงอกของเฉินหู่ ส่วนเฉินหู่ในเวลานี้ไม่อาจรับการจู่โจมนี้ไว้ได้
“กับแค่การกลั่นร่างขั้น7 จะทำร้ายฉันได้เหรอ?” ใบหน้าของเฉินหู่เปี่ยมไปด้วยความดูถูก จอมยุทธ์ใช้พลังปราณในการปกป้องร่างกาย ปราณในไม่สามารถทำร้ายได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสวมเสื้อเกราะบางของชั้นล่างอีกด้วย
“ผวัะ!”
เสียงดังขึ้น เฉินหู่ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนกะทันหัน
“ซว่า!”
เขากระอักเลือดออกมา ร่างถอยหลังอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาฉายความตกตะลึงและหวาดกลัวสลับกัน
เห็นหลัวซิวใช้ฝ่ามือ ผลักหอกยอดลมทิ้ง ไล่ล่าด้วยวิชาท่าร่างก้าวสั้น กระบวนท่าของหมัดแปรเปลี่ยน ปราณในทอประกายแสง
“ท่ามังกรทะยาน!”
“ผวัะ!ผวัะ!ผวัะ!”
หมัดหลายสิบหมัดโจมตีไปที่แผงอกของเฉินหู่ พลังปราณและเสื้อเกราะบางสามารถปกป้องร่างกายได้ ทว่าไม่สามารถปกป้องผังลายเส้นชีวิตได้
“ตึ้ง!”
เฉินหู่ล้มลงบนพื้น กระอักเลือด ดวงตาเบิกกว้าง กระดูกซี่โครงที่แผงอกแหลกสลาย อวัยะภายในพังทลาย เส้นลมปราณขาดวิ้น ตายตาไม่หลับ
“ฉันที่เป็นถึงนักยุทธ์แดนฝึกชี่ไห่ กลับต้องตายด้วยน้ำมือของเด็กหนุ่มแดนกลั่นร่างเนี่ยนะ?”
ฉันเจ็บใจ!ฉันเจ็บใจ!
หลัวซิวเองก็ไอเป็นเลือด เพราะถูกพลังปราณที่ปกป้องร่างกายของอีกฝ่ายทำร้ายอวัยวะภายในและเส้นลมปราณ
ฝนตกหนัก น้ำกระเด็น มองเฉินหู่ที่ล้มลงบนพื้น หลัวซิวเพิ่งจะรู้สึกโล่งอก ปราณเป็นตาย2ระดับเคลื่อนตัวอยู่ในร่างกาย ซ่อมแซมผังลายเส้นชีวิตบริเวณหน้าอก บาดแผลที่แผละออก ด้วยความเร็วในการรักษาที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา
หลัวซิวรู้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะอาศัยวิธีการทำลายผังลายเส้นชีวิต เขาไม่มีวันเป็นคู่ต่อสู้ของเฉินหู่ ความแตกต่างระหว่างแดนฝึกชี่ไห่และแดนกลั่นร่าง ยังคงมาก
……
ฝนตกนานครึ่งค่อนคืน หลัวซิวเดินออกมาจากเขาปาฉี ได้ของเยอะมาก
โดยเฉพาะฆ่าเฉินหู่ หลัวซิวไม่เพียงแต่ได้หอกยอดลม เสื้อเกราะบางของชั้นล่าง ทั้งยังได้อุปกรณ์ค่ายกลระดับ2
เห็นเพียงมือข้อมือซ้ายของหลัวซิว ใส่ปลอกหุ้มข้อมือสีบรอนซ์ ของทุกอย่างเก็บเอาไว้ด้านในนั้น
ที่เก็บของนี้ขอเพียงใช้ปราณในควบคุม ก็สามารถนำของออกมาและเก็บของเข้าไปได้
ที่พักในเขาปาฉี นักล่าอสูรหลายคนโอดครวญกับฝนตกหนักในครั้ง ปกติถ้าเจอสภาพอากาศแบบนี้ การล่าสัตว์ก็จะยากมากขึ้น ความอันตรายมากขึ้น
ชิ้นส่วนของอสูรกายบางส่วน หลัวซิวขายที่ที่พัก เงินทั้งหมดที่ได้แปลกเป็นหินพลังจิตทั้งหมด สุทธิรวมหนึ่งร้อยแปดสิบกว่าก้อน
หลังจากนั้นหลัวซิวก็มายังร้านขายอาวุธ ตั้งใจที่ขายอาวุธของพวกเฉินหู่ทิ้ง
เถ้าแก่ร้านขายอาวุธคือชายวัยกลางคนที่ผมและหนวดเคราขาว ตอนที่หลัวซิวหยิบอาวุธออกมา แววตาของเขาตกตะลึง
“หอกยอดลม? หอกนี้คืออาวุธของเฉินหู่ไม่ใช่เหรอ?” ตอนที่เห็นหอกยาวนี้ เถ้าแก่วัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะร้องด้วยความตกตะลึง
หลัวซิวหน้าเปลี่ยนสี เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนจำอาวุธของเฉินหู่ได้ พูดในใจว่าแย่แล้ว
สุดท้ายแล้วด้านประสบการณ์และเส้นสายต่างๆ ท้ายที่สุดเขาก็เป็นแค่ไอ้กระจอก
“ขอโทษด้วยนะครับ คุณลูกค้า ผมลืมตัว” เถ้าแก่วัยกลางวันรับรู้ถึงความไม่เหมาะสม จึงรีบกล่าวขอโทษ
หลัวซิวทำหน้าเคร่งขรึม พูด: “เถ้าแก่คงจะไม่พูดพร่ำเพรื่อใช่ไหมครับ?”
“แน่นอนว่าไม่กล้าครับ ลูกค้าวางใจได้ ในเขาปาฉีมีคนตายทุกวัน การค้าประเภทนี้ ผมเองก็เคยทำมาไม่น้อย แน่นอนว่าต้องปิดเป็นความลับให้ลูกค้า” เถ้าแก่วัยกลางคนพูด
“ลูกค้าคงไม่รู้ เฉินหู่คนนี้มีชื่อเสียงเหี้ยมโหดในเขาปาฉี ฆ่าคนมากมาย ทีมที่มีจอมยุทธ์นำทีมเขาไม่กล้าไปหาเรื่อง แต่ว่าทีมส่วนมากล้วนไม่มีจอมยุทธ์”
เถ้าแก่วัยกลางคนทอดถอนหายใจ: “เฉินหู่ฆ่าคนบนเขา ไม่มีหลักฐาน คนอื่นก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ถือว่าทำชั่วได้ชั่ว วันหนึ่งเขาก็ถูกฆ่าเหมือนกัน”
พูดถึงตรงนี้ หลัวซิวโล่งอก ถ้าเรื่องที่เขาฆ่าเฉินหู่แพร่งพรายออกไป มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตน
นอกจากหอกยอดลมแล้ว ธนูเงินและอาวุธอื่นๆล้วนเป็นของทั่วไป ขายได้ทั้งหมดเจ็ดร้อยกว่าหินพลังจิต
บวกกับเงินและหินพลังจิตที่ได้มาจากเฉินหู่และพวก หลัวซิวมีหินพลังจิตชั้นล่างหนึ่งพันสามร้อยกว่าก้อน!
เวลาต่อจากนี้ หลัวซิวล้วนเพ็ญตนอยู่ด้านนอกเขาปีฉี
ในป่า ในที่สงบแห่งหนึ่ง หลัวซิวนั่งขัดสมาธิ เปิดอุปกรณ์ค่ายผนึกปราณระดับ1ขึ้นมา พลังฟ้าดินจิตหลอมรวมเข้าด้วยกัน
บวกกับดูดรับพลังแห่งชีวิตของสมุนไพรในป่า ร่วมกับฤทธิ์ของยาฝึกปราณ ทำให้เขาสัมผัสได้ว่าผลการฝึกตนพัฒนาขึ้นไม่หยุด
การกลั่นร่างขึ้น8 คือการผนึกรวมและกลั่นแปรเลือด ด้วยการกลั่นแปรของปราณในที่ไม่หยุดหย่อน หลัวซิวสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าปราณในเคลื่อนตัวเข้าไปในเลือด ขยายใหญ่ไม่หยุด
สมแล้วที่พลังหยางบริสุทธิ์ถูกขนานนามว่าเป็นกำลังภายในระดับ3ชั้นสุดยอด ผลของการฝึกตนดีเยี่ยมมาก บวกกับหลังจากที่เขามองผังลายเส้ยชีวิตและปรับปรุง ผลลัพธ์จึงสูงขึ้นมาก
ทันใดนั้นเอง หลัวซิวพลิกมือหยิบยาฝึกปราณออกมาหนึ่งเม็ดแล้วกิน ฤทธิ์ของยาที่รุนแรงแผ่ซ่านเข้าไปในร่างกาย การผนึกรวมและกลั่นแปรของปราณในแปรเปลี่ยนเป็นรวดเร็วยิ่งขึ้น
“ซว่า……”
ทันใดนั้นเอง หลัวซิวได้ยินปราณในและเลือดในร่างกายปะทุขึ้นมาราวกับแม่น้ำ ตัวของเขามีออร่าสีดำขาวเผยออกมา รอบตัวยองเขามีความน่าเกรงขาม
จนกระทั่งผ่านไปพักใหญ่ ลมปราณรอบตัวของหลัวซิวก็ลดลงไม่หยุด ลืมตาขึ้น ลมแรง กระจายออกมาจากตัวของเขา พัดจนใบไม้แห้งปลิดปลิว
“การกลั่นร่างขั้น8!”
แววตาของหลัวซิวมีชีวิตชีวา นัยน์ตาทอประกายแวววับ
เพียงเคลื่อนปราณใน ก็สัมผัสได้ถึงปราณในบริสุทธิ์ที่ซ่อนอยู่ในเลือด ผลักฝ่ามือ ปราณในผนึกรวมเผยลำแสงสีดำขาวมา
ครุ่นคิด ลำแสงบนฝ่ามือกลายเป็นสีขาว เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เคลื่อนอีกครั้ง ลำแสงสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำ เคล้าไปด้วยแรงสังหาร
นี่คือปราณเป็นตาย2ระดับ ผลการฝึกตนบรรลุการกลั่นร่างขั้น8 ผลการฝึกตนบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น สามารถควบคุมปราณในได้อย่างชำนาญ
“ตอนการกลั่นร่างขั้น7 ปราณในของฉันสามารถทัดเทียมเสมอเหมือนการกลั่นร่างขั้น9 ตอนนี้ฉันบรรลุการกลั่นร่างขั้น8 ควบคุมปราณเป็นตาย2ระดับ อยู่เบื้องล่างแดนฝึกชี่ไห่ ด้านปราณใน ไม่มีใครสามารถเทียบกับฉันได้!”
ภายในใจของหลัวซิวรู้สึกมีความสุขกับการประสบความสำเร็จ เชื่อว่าอาศัยความเร็วในการฝึกตนของตน กลายเป็นจอมยุทธ์ ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
เขาถึงขั้นสามารถสัมผัสได้ เพราะปราณในที่หนาแน่น ปราณในส่วนหนึ่งเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณและจุดฝังเข็มต่างๆ รวมกันอยู่ที่ตำแหน่งท้องน้อยบริเวณจุดตันเถียน
โดยทั่วไปนักยุทธ์ที่ผลการฝึกตนบรรลุการกลั่นร่างขั้น9ขั้นสูง ปราณในจึงจะรวมกันที่จุดตันเถียน ขอเพียงเปิดชี่ไห่ออกไป ปราณในผนึกรวมในชี่ไห่แล้วหลอมละลายกลายเป็นพลังปราณ ก็จะสามารถบรรลุแดนฝึกชี่ไห่
ส่วนหลัวซิวเป็นเพียงการกลั่นร่างขั้น8 ทว่าปราณในกลับเริ่มหลอมรวมที่จุดตันเถียนแล้ว อธิบายได้ว่าด้านปราณในของเขา บรรลุถึงระดับการกลั่นร่างขั้น9ขั้นสูงแล้ว!
“ไม่รู้ว่าเทียบกับยอดฝีมือในชั้นสูงของสำนักยุทธ์แล้ว ความสามารถของฉันเป็นอย่างไร?” หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด
“เพล้ง!”
########################