มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 120 ครองวิญญาณ

บทที่ 120 ครองวิญญาณ

 

 

บทที่ 120 ครองวิญญาณ

 

หากมีตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คนคนเดียวสามารถที่จะปกครองสำนักเซียวเหยาและสำนักเหลยหวู่ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ได้อย่างสบายๆ

ส่วนชื่อของซูจิ้งหยุนนั้น หลัวซิวไม่เคยได้ยินมาก่อน

ในหุบเขาแห่งนี้หลัวซิวสัมผัสได้ว่ามีพลังของวิญญาณหลบซ่อนอยู่ ว่ากันว่าการฝึกตนในโลกยุทธ์หากเข้าถึงแดนฝึกจิตแล้ว จิตวิญญาณของจอมยุทธ์จะผลึกรวมกลายเป็นเทพจิต เขาไม่รู้สึกถึงพลังงานของสิ่งมีชีวิต แสดงให้เห็นว่าซูจิ้งหยุนผู้นี้ไม่เหลือร่างกายอยู่แล้ว แต่เหลืออยู่เพียงเทพจิตเท่านั้น

หลัวซิวไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดจะอาศัยเพียงเทพจิตแล้วยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของแดนจักรพรรดิยุทธ์ก็ตาม เมื่อร่างกายสลายไปแล้ว เทพจิตก็จะสลายไปด้วย โดยทั่วไปจะอาศัยสมบัติพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้ที่สูญเสียร่างกายไปแล้วยังคงอาศัยเพียงเทพจิตแล้วยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

ซูจิ้งหยุนที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ คงจะอยู่ได้ด้วยสภาพนี้เช่นกัน

ในขณะที่หลัวซิวเงียบไปนั้น วิญญาณอันทรงพลังก็ได้ส่งเสียงออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ

“เป็นแค่จอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดาแต่สามารถควบคุมพลังความเป็นตายได้ ฟ้าคงประทานรางวัลใหญ่ให้แกแน่ๆ งั้นซูจิ้งหยุนขอใช้ร่างนี้กลับไปเกิดใหม่ก็แล้วกัน!”

ในสมองของหลัวซิวมีเสียงหัวเราะเย็นเยียบสะท้อนก้อง พลังของวิญญาณอันแก่กล้าได้แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขา

“ครองวิญญาณ?”

สีหน้าของหลัวซิวแปรเปลี่ยน เขาเคยได้ยินว่าผู้แข็งแกร่งในแดนฝึกจิตขึ้นไป หลังจากที่ร่างกายสูญสลายไปแล้วก่อนที่เทพจิตจะสูญสลายไปสามารถครองวิญญาณและดูดกลืนวิญญาณของจอมยุทธ์คนอื่นได้รวมทั้งเทพจิตด้วย จากนั้นก็จะยึดครองร่างกายของอีกฝ่าย

จอมยุทธ์ชี่ไห่ไม่สามารถใช้วิญญาณหยั่งรู้ ได้ มีเพียงจอมยุทธ์ที่ฝึกตนเข้าสู่แดนพรสวรรค์แล้วเท่านั้นถึงจะมีพลังพลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณหรือที่เรียกกันว่าตัวสำนึก

หากเข้าสู่แดนปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตแล้ว วิญญาณจะผนึกรวมกลายเป็นเทพจิต ทำให้ตัวสำนึกยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

สิ่งที่เรียกว่าการครองวิญญาณนั้น คือการใช้พลังของจิตวิญญาณแทรกซึมเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของอีกฝ่ายและดูดกลืนจิตวิญญาณ จากนั้นก็จะสามารถยึดครองร่างกายของอีกฝ่ายหนึ่งได้

ดังนั้นเมื่อพลังจิตวิญญาณของซูจิ้งหยุนแทรกซึมเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิวแล้ว ความคิดของเขาก็จะถูกลากจูงเข้าไปยังตัวหยั่งรู้ของตัวเอง

จิตวิญญาณของหลัวซิวได้หลอมรวมเข้ากับลูกแก้วความเป็นตายแล้ว ในตัวหยั่งรู้ที่รางเลือนแล้ว ลูกแก้วเม็ดหนึ่งที่มีสีดำสลับขาวก็ได้ลอยขึ้นมา

“อะไรน่ะ”

จิตวิญญาณของซูจิ้งหยุนปรากฏขึ้นเป็นรูปร่างของคนที่เป็นเพียงภาพลวงตา แล้วเข้ามาในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว

เขามองเห็นลูกแก้วความเป็นตายที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว และรู้สึกราวกับว่าสามารถรับรู้ได้ถึงความลึกลับของความตายดั้งเดิมและพลังชีวิต

เดิมทีซูจิ้งหยุนเป็นผู้แข็งแกร่งในจักรพรรดิยุทธ์ที่ฝึกฝนพลังแห่งความตาย ตอนที่เขาเห็นลูกแก้วความเป็นตายนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือสมบัติล้ำค่ามากชิ้นหนึ่ง หากได้ครอบครองอนาคตของเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างรุ่งเรือง

“ฮ่าๆ สวรรค์ไม่ลำเอียงกับข้าเกินไปนัก ถึงได้มอบโอกาสดีๆ อย่างนี้มาให้!”

ซูจิ้งหยุนหัวเราะร่าพลางยื่นมือออกไปหมายจะคว้าลูกแก้วความเป็นตายเอาไว้ เขาพบว่าจิตวิญญาณของจอมยุทธ์ชี่ไห่คนนี้ได้หลอมรวมเข้ากับลูกแก้วความเป็นตาย ขอแค่เอาลูกแก้วเม็ดนี้กลั่นแปร ไม่เพียงแต่จะได้สมบัติล้ำค่าเท่านั้น แต่ยังสามารถกลั่นแปรจิตวิญญาณของอีกฝ่ายได้และครอบครองร่างกายของตัวเอง

ทว่าในตอนนั้นเอง พลังที่ลูกแก้วความเป็นตายส่งออกมาได้แปรเปลี่ยนไป มือของซูจิ้งหยุนยังไม่ทันจะสัมผัสโดนลูกแก้วความเป็นตาย ลูกแก้วพลันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงแล้วหายไป

ต่อจากนั้นลูกแก้วความเป็นตายได้ส่งพลังดูดกลืนวิญญาณออกมา ดึงดูดเทพจิตของซูจิ้งหยุนเข้าไปในลูกแก้วความเป็นตาย

หลัวซิวอ้าปากค้างมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นาทีต่อมาจิตสำนึกของเขาก็ได้เข้าสู่โลกของลูกแก้วความเป็นตาย

เหนือศีรษะของเขาปรากฏทะเลจักรวาลดวงดารา ดาวแต่ละดวงที่ส่องประกายแสงนั่นก็คือจิตวิญญาณของคนหนึ่งคนที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้

วัฏจักรชีวิตโบราณได้ล่องลอยอยู่ในอากาศอย่างนี้มาตั้งแต่โบราณสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

จากการเปลี่ยนแปลงผู้สืบทอดของลูกแก้วความเป็นตายที่ผ่านมาหลายต่อหลายคน มีเพียงสิ่งนี้ที่สามารถควบคุมวัฏจักรชีวิตของสรรพสิ่งตลอดมาอย่างไม่เคยแปรเปลี่ยน

“ผู้สืบทอดตัวน้อย……”

เสียงเทพจิตวิญญาณในวัฏจักรชีวิตดังขึ้น ราวกับดังสะท้อนก้องอยู่ในจักรวาลดวงดาราที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้

ครั้งที่แล้วที่มาที่นี่ หลัวซิวได้รับผังกฎดั้งเดิมที่เก้าของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ รวมทั้งวิชาการฝึกฝนวิชาดาบเร็ว คนก่อนหน้าคือผู้สืบทอดความเป็นตายดั้งเดิมทุกคนจะได้รับคนต่อมาคือเขาที่บรรลุจอมยุทธ์ชี่ไห่และได้รับมอบผังกฎดั้งเดิมนี้

เทพแห่งวัฏจักรชีวิตเคยกล่าวเอาไว้ว่า รอให้เขาฝึกตนจนบรรลุจากแดนชี่ไห่เข้าสู่แดนพรสวรรค์ เขาถึงจะได้มาที่นี่เพื่อรับมอบผังกฎดั้งเดิมอีกครั้ง

แต่เขายังไม่ทันจะบรรลุเข้าสู่แดนพรสวรรค์เลย กลับได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง

คราวที่แล้วเป็นเพราะชีวิตของเขาได้รับการคุกคาม ส่วนคราวนี้เป็นเพราะว่าเขาเกือบถูกครองวิญญาณ

“ผู้สืบทอดตัวน้อยคงจะดีใจสินะ ผู้ที่จะครองวิญญาณของเจ้าเป็นเพียงจักรพรรดิยุทธ์เล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น แถมยังมีเทพจิตที่ผุพังอีกด้วย” เสียงของเทพแห่งวัฏจักรชีวิตดังขึ้นมาด้วยอารมณ์สงบนิ่ง

“หากผู้ที่จะครองวิญญาณของเจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ เจ้าคงตายไปแล้ว วัฏจักรของความเป็นตายดั้งเดิมก็จะเลือกเจ้าของใหม่ด้วยตัวเอง เพื่อเลือกผู้สืบทอดคนต่อไป”

“เมื่อมีกฎความเป็นตายดั้งเดิมคุ้มครองอยู่ ครั้งแรกของการได้รับการคุกคามเอาชีวิต รวมทั้งครั้งแรกที่เจ้ากำลังจะถูกครองวิญญาณ ตามเจตจำนงเดิมของกฎดั้งเดิม ข้าจะช่วยเจ้าได้เพียงหนึ่งครั้ง หวังว่าเจ้าจะดูแลตัวเองให้ดีนะผู้สืบทอดตัวน้อย……”

เทพแห่งวัฏจักรชีวิตไม่ให้โอกาสหลัวซิวได้ทันพูดอะไร เมื่อเขาพูดจบแล้วก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สัมผัสได้ จากนั้นสติของหลัวซิวก็กลับคืนมาแล้วเข้าสู่ร่างเดิมของตัวเอง

เมื่อหลัวซิวลืมตาขึ้นมา ก็เห็นลู่เมิ่งเหยากำลังมองมาที่ตัวเองด้วยสีหน้ากังวล

เมื่อนึกถึงตัวเองที่เกือบถูกครองวิญญาณ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่

ถ้าจะพูดให้ถูกนั่นเป็นเพราะพลังของเขานั้นอ่อนแอเกินไป หากไม่ได้ลูกแก้วความเป็นตายล่ะก็ จอมยุทธ์ชี่ไห่เล็กๆ อย่างเขาคงจะถูกซูจิ้งหยุนยึดครองวิญญาณไปแล้ว

จิตวิญญาณที่มีพลังงานสมบูรณ์ได้ลอยออกมาจากลูกแก้วความเป็นตาย จากนั้นจิตวิญญาณของหลัวซิวก็ได้ดูดรับเข้าไป เขารู้ว่านี่คือพลังที่อยู่ในเทพจิตอันผุพังของซูจิ้งหยุน

ส่วนสติสัมปชัญญะของเทพจิตที่จักรพรรดิยุทธ์ซูจิ้งหยุนแอบสะสมเอาไว้นั้น ก็ถูกกฎดั้งเดิมของลูกแก้วความเป็นตายกำจัดไปจนหมด

จะว่ากันตามจริงแล้วนี่ถือเป็นคราวซวยของซูจิ้งหยุน เทพแห่งวัฏจักรชีวิตยึดถือกฎดั้งเดิม ซึ่งนั่นก็คือจะคุ้มครองเมื่อผู้สืบทอดถูกครองวิญญาณครั้งแรกเท่านั้น และซูจิ้งหยุนบังเอิญเป็นคนแรกพอดี แสดงว่านี่คือคราวตายของเขาแล้ว

จากนั้นไม่นาน เมื่อหลัวซิวได้ดูดรับพลังแห่งจิตวิญญาณนี้เข้าไปแล้ว เขาก็ตื่นเต้นที่รู้ว่าตัวเองไม่ต้องใช้ดวงตาก็สามารถมองเห็นสิ่งรอบตัวที่อยู่ภายในระยะร้อยกว่าเมตรได้อย่างเลือนรางแล้ว

“นี่คือ…… พลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณ?” หลัวซิวแอบตื่นเต้น ตามที่เขารู้มามีเพียงจอมยุทธ์แดนพรสวรรค์เท่านั้นที่จะมีความสามารถใช้พลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณ

ส่วนจอมยุทธ์พรสวรรค์ที่พลังค่อนข้างอ่อนแอ ก็จะไม่มีความพร้อมที่จะมีความสามารถเช่นนี้

แต่เขาที่เป็นเพียงจอมยุทธ์ชี่ไห่ขั้น 6 กลับมีความสามารถขนาดนี้

แม้ว่าซูจิ้งหยุนจะตายแล้ว แต่พลังความตายที่ลอยคลุ้งอยู่ในหุบเขายังคงไม่สลายไป

“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่นะ”

พลังความตายในหุบเขาแห่งนี้ถูกหลัวซิวดูดรับและกลั่นแปรไปจนหมด ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะเข้าไปสำรวจดูในถ้ำสักหน่อย

และด้วยในถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งความตาย ลู่เมิ่งเหยาจึงไม่สามารถรับมือกับพลังงานเช่นนี้ได้ จึงต้องปล่อยให้เธอรออยู่ด้านนอกก่อน

 

########################
 

 

 

 

 

 

 

 

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท