มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 126 ได้รับของกำนัลอีกครั้ง

บทที่ 126 ได้รับของกำนัลอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

บทที่ 126 ได้รับของกำนัลอีกครั้ง

 

บางอาจจะเป็นเพราะว่าฝั่งตรงข้ามเป็นคนที่จะต้องตายอยู่แล้ว หลัวซิวก็เลยไม่ต้องระวังตัวอะไร

“ผมเป็นคนของตระกูลกงซุน ถูกคนลอบทำร้าย เลยบาดเจ็บหนัก ผมมีสิ่งของบางอย่าง หวังว่าสหายคนนี้จะช่วยเอาไปส่งที่ตระกูลกงซุนให้ด้วย”

ชายหนุ่มพูดอย่างอ่อนแรงไปด้วย มือสั่นๆ ไปด้วย แล้วก็หยิบหยกแขวนรูปจันทร์เสี้ยวออกมาหนึ่งอัน

“ถ้ามีโอกาส เดี๋ยวผมจะเอาไปส่งให้” หลัวซิวหยักหน้า แล้วก็ยื่นมือไปรับไว้

แต่ตอนที่หลัวซิวยื่นมือกำลังจะไปรับหยกแขวนนั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็มีสายตาอำมหิตขึ้นมา ในมือก็มีมีดพกโผล่ขึ้นมา แล้วพุ่งแทงไปยังหัวใจของหลัวซิว

“สึบ!”

เลือดกระเด็น ต่อให้หลัวซิวตอบสนองได้เร็ว แต่ว่าไม่ได้คิดระวังคนคนนี้ มีดสั้นนั้นบาดหน้าอกของหลัวซิวเป็นแผล เลือดก็ไหลออกมาทันที

หลัวซิวก็หน้าบึ้ง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหลบได้ทัน มีดสั้นของฝั่งตรงข้ามก็คงจะแทงหัวใจตนเองไปแล้ว

ชายหนุ่มก็เหมือนจะคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าหลัวซิวจะหลบได้เร็วแบบนี้ ตอนกำลังอึ้งไปนั้น กำปั้นของหลัวซิวก็ต่อยเข้ามา

“รอเดี๋ยว……”

ชายหนุ่มกำลังจะพูด แต่ก็ถูกหลัวซิวต่อยเข้าที่หัว เดิมทีก็บาดเจ็บใกล้ตายอยู่แล้ว ยังจะถูกหมัดของหลัวซิวไปอีก ก็เลยตายคาที่ไปเลย

หลัวซิวมีสายตาเย็นชา ในใจก็ยิ่งเย็นชามากกว่า เป็นเพราะว่าเขามีจิตใจเมตตาขึ้นมา จนเกือบจะทิ้งชีวิตไปแล้ว ใจคนมันน่ากลัว

เพียงแต่ที่หลัวซิวไม่เข้าใจก็คือ ชายหนุ่มคนนี้จะตายอยู่แล้ว ตนเองเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ ทำไมถึงคิดจะฆ่าตนเองล่ะ

หลัวซิวก็เก็บแหวนเก็บของและหยกแขวนของชายหนุ่มคนนั้นไว้ แล้วก็เดินจากไป โดยไม่มองร่างของเขาแม้แต่หางตา

ในแหวนเก็บของมีป้ายบัญชาการหนึ่งกัน ด้านบนเขียนไว้ว่า “กงซุน” ชายหนุ่มคนนั้นก็น่าจะเป็นคนของตระกูลกงซุน

นอกจากนั้นก็ยังมีหินพลังจิต แล้วก็ยาบางส่วน มีเพียงหยกแขวนรูปจันทร์เสี้ยวที่ค่อนข้างแปลก มันไม่สามารถเอาเก็บไว้ในแหวนเก็บของได้

นี่เป็นครั้งแรกที่หลัวซิวเพิ่งเคยเห็นสิ่งของที่ไม่สามารถเก็บไว้ในแหวนเก็บของได้ พอนึกได้ว่าหยกแขวนอันนี้ เอามาจากหน้าอกของชายหนุ่มคนนั้น น่าจะเป็นของติดตัว คงจะไม่ใช่ของธรรมดา

หลัวซิวใช้เวลาศึกษาสักพัก สุดท้ายก็ไม่เข้าใจว่าหยกแขวนอันนี้มีเอาไว้ทำอะไร

ใช้ยาย้ายร่างไขกระดูก แล้วหลัวซิวก็กลับมาในเมือโจว๋ซิง

เอาวัสดุที่ได้จากบนตัวอสูรระดับ3มาขายให้กับองค์กรนักล่ายุทธ์ก่อน จากนั้นหลัวซิวก็สั่งห้องลับส่วนตัวหนึ่งห้อง เพื่อเตรียมฝึกตนให้บรรลุระดับต่อไป

ระยะเวลา1เดือน ผลการฝึกตนของเขาก็มั่นคงแล้ว ภายใต้การเตรียมพร้อมทั้งหมด จะบรรลุแดนพรสวรรค์ในเวลานี้ เหมาะสมที่สุด

ในห้องลับ เนื่องจากหินพลังจิตถูกใช้หมดแล้ว ในมือเหลือเพียงไม่กี่พันเม็ดแล้ว แล้วก็มีหินพลังจิตขั้นสูงหลายร้อยเม็ด หลัวซิวเอาไว้เตรียมใช้งาน

การฝึกตนปิดขังเพื่อบรรลุแดนพรสวรรค์ครั้งนี้ หลักๆ ก็อาศัยยาจิ้นเทียนและหินหยินเข้าช่วย

หยิบหินหยินออกจากแหวนเก็บของ กำไว้ในมือ จากนั้นหลัวซิวก็หยิบยาจิ้นเทียนหนึ่งเม็ดกินลงไป หลังจากยาละลาย พลังของยาที่มากมาย ก็กระจายไปทั่วร่าง

ในขณะเดียวนั้นเอง เขาก็ขับเคลื่อนวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ ปราณหยินในหินหยินก็ถูกดูดซึมตลอดเวลา ผนึกกันเป็นปราณเป็นตาย2ระดับ

ปราณแท้มารวมกันที่จุดตันเถียน หมุนรอบวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ กลายเป็นวังวน

แดนชี่ไห่จะบรรลุถึงแดนพรสวรรค์ มี2ขั้นตอน ขั้นตอนแรก ก็คือปราณแท้รวมกันและหมุนเป็นวังวน หรือเรียกว่า ปราณแท้วังวน

ขั้นตอนที่สอง ก็คือการปลั่นแปรพลังAttr จนกลายเป็นปราณแท้พรสวรรค์ปราณแท้ของหลัวซิวนั้น เดิมทีก็มีพลังของปราณเป็นตาย2ระดับอยู่แล้ว ดังนั้นตอนที่ปราณแท้วังวนรวมตัวกันนั้น ก็ถือว่าได้บรรลุขั้นต่อไปแล้ว

เพียงแต่ปราณแท้วังวนที่เพิ่มปรากฏขึ้นมานั้น ยังไม่มั่นคง จะต้องพลังจิตที่มากพอมาทำให้มั่นคง ไม่อย่างนั้นถ้าปราณแท้วังวนสลายไป ก็จะบรรลุขั้นไม่ทำเร็จ

ผ่านไปไม่นาน ยาจิ้นเทียน4เม็ดก็ถูกหลัวซิวกินไปจนหมด หินหยินสีดำ ก็หม่นหมองไปเรื่อยๆ จากสีดำกลายเป็นสีเทา จากนั้นก็กลายเป็นสีขาว

จนกระทั่งหลังจากที่หินหยินสลายกลายเป็นผงแล้ว ปราณแท้วังวนที่รวมตัวกันในจุดตันเถียนของหลัวซิว ก็ได้มั่นคงเรียบร้อยแล้ว

พื้นที่ในจุดตันเถียนนั้น ปราณเป็นตาย2ระดับที่มีสีขาวดำได้หมุนเป็นวง เหมือนกับดาวเพชรในแม่น้ำ

ตรงกลางของดาวเพชรขนาดใหญ่ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพค่อยๆ หมุน ราวกับเป็นดวงดาวดวงหนึ่ง ที่เป็นนิรันดร์

หลังจากบรรลุแดนพรสวรรค์แล้ว หลัวซิวก็รู้สึกได้ทันทีว่าประสาทสัมผัสทั้ง6ของตนเองตอบสนองได้ดีมากขึ้น ภายในพื้นที่3ลี้โดยรอบ มีการเคลื่อนไหวอะไร ก็ไม่อาจหลบหลีกประสาทสัมผัสของเขาได้

ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลัวซิวยังไม่ถึงขั้นแดนพรสวรรค์ หลัวซิวก็ได้มีพลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณแล้ว และพอผลการฝึกตนมาถึงระดับแดนพรสวรรค์ ความสามารถนี้มันก็แก่งกล้าขึ้นมาก แผ่ระยะประสาทสัมผัสไปได้กว้างมากขึ้น

คนที่มีพลังกระแสสัมผัสพลังวิญญาณ นอกจากจะเป็นคนที่เป็นฝีมือที่ซ่อนเร้นแล้วเท่านั้น ไม่อย่างนั้นใครที่เข้ามาใกล้ในระยะ3ลี้ ก็จะถูกเขารับรู้ได้หมด

นอกจากกระแสสัมผัสพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้นแล้ว หลัวซิวก็ยืนมือออกมา ปราณเป็นตาย2ระดับมารวมที่ฝ่ามือ รวมเป็นพลังมาที่ยากจะคาดเดา

รวมปราณเป็นพลัง กระแสสัมผัสพลังวิญญาณ ความสามารถ2อย่างนี้ถึงจะเป็นพลังของจอมยุทธ์แดนพรสวรรค์แตกต่างจากแดนชี่ไห่

“ในเมื่อเราได้บรรลุถึงขั้นแดนพรสวรรค์แล้ว ก็น่าจะได้ของกำนัลจากกฎดั้งเดิมอีกครั้งแล้วสินะ?” หลัวซิวก็คิดขึ้นในใจอย่างมุ่งหวัง

ของกำนัลครั้งก่อนของกฎดั้งเดิม ทำให้เขาได้วิชาดาบเร็วมา แค่อาศัยดาบเร็วมือเดียว ก็ฆ่าศัตรูได้สบายๆ วิชาดาบก็ถึงแดนบรรลุสมบูรณ์แล้ว บวกกับผลการฝึกตนระดับแดนพรสวรรค์ขั้น1 คนที่น้อยกว่าระดับปรมาจารย์ฝึกจิต ยากจะสู้เขาได้

เทพแห่งวัฏจักรชีวิตเคยบอกไว้ว่า ของกำนัลที่กฎดั้งเดิมให้มานั้น จะเอนเอียงไปทางช่วยเหลือด้านพลังของผู้สืบทอด นี่ทำให้ในใจของหลัวซิวมีหวังจะได้มากๆ

วิญญาณตอบสนองลูกแก้วความเป็นตาย ตามด้วยแรงกระตุกที่ส่งออกมา ร่างกายของหลัวซิวก็หายไป ในห้องลับนี้ มีเพียงลูกแก้วแสงสีขาวดำที่ลอยอยู่กลางอากาศ

เงยหน้ามองวัฏจักรโบราณที่เป็นนิรันดร์นั้น ทุกครั้งที่เห็น หลัวซิวก็จะถอนหายใจขึ้นในใจทุกครั้ง

ไม่รู้ว่าตนเองจะต้องฝึกถึงขั้นไหน จึงจะสามารถควบคุมกฎการเวียนว่ายตายเกิดดั้งเดิม และวัฏจักรได้

“ผู้สืบทอดตัวน้อย เจ้าได้บรรลุถึงขั้นแดนพรสวรรค์แล้ว สามารถได้รับของกำนัลจากกฎดั้งเดิมอีกครั้ง”

เสียงของเทพแห่งวัฏจักรชีวิตดังขึ้น จากนั้นก็มีแสงลอยออกมา แสงลอยมาตรงหน้าของหลัวซิว

แสงกลุ่มนี้ ก็คือของกำนัลจากกฎดั้งเดิม แค่จะเป็นอะไรนั้น ยังไม่สามารถรู้ได้

หลัวซิวก็ยื่นมือออกไปจับแสงไฟตรงหน้า ทันใดนั้นข้อมูลต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในหัว

พลังแปรเสวียนเทียน วิชายิ่งเลิศขั้นสุดยอด หลังจากฝึกสำเร็จ สามารถระเบิดพลังที่มากกว่าพลังเดิมของตนเองได้ถึง3-5เท่า

“วิชายิ่งเลิศงั้นหรือ?……”

หลัวซิวแยกข้อมูลจากของกำนัลที่กฎดั้งเดิมให้มา หนึ่งในนั้น นอกจากจะมีวิธีการฝึกพลังแปรเสวียนเทียนแล้ว ก็ยังพูดถึงวิชาที่สูงกว่าวิชายุทธระดับ9 นั่นก็คือวิชายิ่งเลิศ!

ส่วนพลังแปรเสวียนเทียน เป็นวิชายิ่งเลิศที่เหนือกว่าวิชายุทธ์ระดับ9 ไม่ใช่วรยุทธ์ และไม่ใช่ทักษะยุทธ์หรือวิชาท่าร่างอะไร แต่เป็นวิชาอาถรรพณ์

วิชายิ่งเลิศแขนงนี้ ถือได้ว่าเป็นแข็งแกร่งมาก ถ้าในตอนที่กำลังสู้กับคนอื่นนั้น พลังของตนเองก็สูงขึ้นได้5เท่า คู่ต่อสู้ที่สูสีกับตนเองอยู่นั้น ก็จะรับมือไม่ได้ หรือไม่ก็อาจจะถูกฆ่าได้ในพริบตา

“ถ้าสามารถฝึกพลังแปรเสวียนเทียนสำเร็จ คนในระดับพลังเดียวกัน จะมีใครสู้ได้อีกเล่า?” หลัวซิวยิ้มอย่างมั่นใจ ระดับที่เข้าพูดถึง ไม่ใช่แดนเล็ก แต่เป็นแดนใหญ่

เช่น แดนพรสวรรค์ขั้นที่1-9 ก็คือแดนใหญ่[1][1]

 

########################
 

 

 

 

 

 

 

 

 

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท