บรรยากาศภายในห้องโถงเงียบสงบลงอีกครั้ง ทุกคนต่างมองไปยังผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ที่เป็นผู้ลงมือคนนั้น ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้นสูงคนหนึ่งกลับถูกกำจัดลงง่ายๆ แบบนี้เลยหรือ
สีหน้าของเผยหยวนชิวซีดขาว ร่างของเขาล้มพับลงกับพื้นและพลันแก่ชราลงในทันทีหลายเท่า อายุขัยของร่างกายเขาค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวอีกแล้ว
ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์มีอายุขัยราวๆ หนึ่งพันสองร้อยกว่าปี เผยหยวนชิวมีชีวิตอยู่มากว่าพันปีแล้ว ตามหลักการแล้วเขาน่าจะเหลืออายุขัยอยู่อีกราวๆ หนึ่งร้อยปี
แต่เมื่อการฝึกตนของเขาถูกกำจัดไปแล้ว ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์กลายเป็นมนุษย์ธรรมดา ย่อมไม่อาจรักษาอายุขัยที่ได้มาจากการฝึกตนไว้ได้ ดังนั้นเขาไม่มีทางหนีความตายพ้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิยุทธ์เช่นนี้ เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะระเบิดยาเทพจิตของตัวเอง เขาไม่มีพลังที่จะตอบโต้กลับ เมื่อถูกขจัดการฝึกตนไปหมดแล้ว ความพยายามอย่างหนักในการฝึกฝนก็พังทลายลงไปทั้งหมด
“ทำไม ข้ารับปากแล้วไม่ใช่หรือว่าจะปล่อย ทำไมแกยังต้องขจัดการฝึกตนของข้าด้วย” เผยหยวนชิวคำรามอยู่ในลำคอ
ทว่าไม่มีใครสนใจเขาอีกแล้ว คนไร้ประโยชน์ที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่มีประโยชน์อะไรที่คนในที่นั้นจะต้องเสียเวลาไปใส่ใจ
“ตื่นแล้วหรือ”
เมื่อเห็นเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่หมดสติไปลืมตาขึ้น หลัวซิวก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”
เหยียนเยว่เอ๋อร์ยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของหลัวซิว เมื่อเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคย ฝ่ามือที่สัมผัสใบหน้าเบาๆ ก็เริ่มสั่นเครือ
ในเวลาเดียวกันเธอเองก็ยังคงข้องใจ เพราะเธอจำได้ว่าหลังจากที่เธอได้รับบาดเจ็บ เผยหยวนชิวเป็นคนจับตัวเธอไว้
“ยัยโง่ เธอไม่ได้กำลังฝัน”
หลัวซิวโอบเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอกอย่างทะนุถนอม บางทีในสายตาของคนทั่วๆ ไป อาจมองว่าเธอคือจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่งผู้สูงส่งเด็ดเดี่ยว ทว่าหลัวซิวรู้ดีว่าในใจของเธออันที่จริงแล้วก็ยังคงมีด้านที่อ่อนโยนอยู่เช่นกัน
ความแข็งแกร่งของเธอ นั้นมาจากประสบการณ์อันยากลำบากที่เธอประสบพบเจอมาตลอดชีวิต
ร่างกายบอบบางของเหยียนเยว่เอ๋อร์สั่นไหว เธอคือจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง ไม่เคยมีใครปฏิบัติกับเธออย่างสนิทสนมเช่นนี้มาก่อน
ทว่าสัญชาตญาณที่ส่งออกมาจากข้างในของเธอ ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธอ้อมกอดของหลัวซิวได้ อีกทั้งแผงอกที่เธอกำลังซบอยู่นั้นยังอบอุ่น ทำให้เธอเกิดความรู้สึกอยากที่จะพักพิงอยู่ในอ้อมอกนั้น
“ฉันจำได้แต่ว่าถูกเผยหยวนชิวจับตัวเอาไว้ เธอช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างที่ฉันหลับไป” เหยียนเยว่เอ๋อร์กล่าวถามด้วยความสงสัย
เมื่อกล่าวเรื่องนี้ขึ้นมา ร่างของหลัวซิวก็เริ่มมีพลังความอาฆาตแผ่ซ่านออกมาอีกครั้ง
“ที่เผยหยวนชิวจับตัวคุณไปเป็นเพราะต้องการใช้วิชามารที่เรียกว่าจับจิตพรากวิญญาณ เพื่อต้องการที่จะบรรลุแดนจักรพรรดิยุทธ์ พอผมได้ยินก็เลยรีบมาช่วยคุณ โชคดีที่คุณยังไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นแล้วตลอดชีวิตนี้ผมไม่มีทางที่จะให้อภัยตัวเอง……” หลัวซิวกอดเธอแน่นขึ้น
แม้ว่าหลัวซิวจะกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ แต่เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็รู้ดีว่าการช่วยเธอออกมาจากมือของเผยหยวนชิวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คงจะต้องเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาเรื่องหนึ่ง
หากไม่มีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ยื่นมือมาช่วย ทั่วทั้งประเทศเทียนหวูแห่งนี้คงไม่มีใครมีความสามารถมากพอที่จะแย่งตัวเธอออกมาจากเงื้อมมือของเผยหยวนชิวผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้นสูงคนนี้ได้
“เผยหยวนชิวกล้าเอาฉันทำเป็นเตากลั่นยาเพื่อให้บรรลุการฝึกตนงั้นรึ รอให้ฉันฟื้นฟูการฝึกตนก่อนเถอะ ฉันจะฆ่าตระกูลทั้งตระกูล!” น้ำเสียงของเหยียนเยว่เอ๋อร์อาฆาตแค้น
เมื่อได้ยินเธอพูดดังนั้น รอยยิ้มของหลัวซิวพลันหายไป เขาใช้นิ้วมือสัมผัสผมของเหยียนเยว่เอ๋อร์เล่นๆ แล้วกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม “คุณคงไม่มีโอกาสนั้นแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ไม่มีตระกูลเผยอยู่อีกแล้ว”
คำพูดเช่นนี้เมื่อถูกกล่าวออกมาแล้ว ร่างอรชรของเหยียนเยว่เอ๋อร์ชะงักไป เธอรีบลุกออกมาจากอกของหลัวซิว แล้วมองจ้องไปที่เขา
หลังจากที่เธอมองเขาแล้ว เธอเพิ่งจะสังเกตได้ว่า เด็กหนุ่มที่ฝึกตนอยู่ในแดนพรสวรรค์ ตอนนี้ได้กลายเป็นปรมาจารย์โลกยุทธ์ในแดนฝึกจิตขั้น 9 แล้ว
ดวงตาดำของเธอเบิกกว้างขึ้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เพราะเวลาเพิ่งจะผ่านมาได้เพียงสองปีเท่านั้น เขาทำได้อย่างไร?
เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า มีคนสามารถฝึกตนได้ไวขนาดนี้
อีกอย่างแม้ว่าเขาจะอยู่ในแดนฝึกจิตขั้น 9 แล้ว แต่เขาจะกำจัดตระกูลเผยได้อย่างไร
“ผมเชิญผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์มาช่วยน่ะ” หลัวซิวยิ้มพลางกล่าวอธิบาย
ระหว่างที่พูด หลัวซิวก็พลิกมือเพื่อหยิบขวดหยกงามวิจิตรออกมาจากแหวนเก็บของแล้วส่งให้เหยียนเยว่เอ๋อร์
เหยียนเยว่เอ๋อร์รับมาอย่างประหลาดใจ เมื่อเธอเห็นยาเม็ดกลมที่กลิ้งอยู่ในขวดหยก ตัวของเธอก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าจนแข็งทื่ออยู่กับที่
“ยาวิญญาณหยินหยาง?” เธอกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจ พลางยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ตลอดสองปีที่ผ่านมานี้ สิ่งที่เธอปรารถนามาตลอดก็คือยาเม็ดนี้
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความประทับใจ เห็นได้ว่าสองปีที่ผ่านมานี้ หนุ่มน้อยคนนี้ที่ล่วงเกินเธอโดยไม่ตั้งใจคนนั้นเพียงครั้งเดียว ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บและผ่านความลำบากสารพัด
ยาวิญญาณหยินหยางเพียงเม็ดเดียวไม่ใช่สิ่งที่หามาได้ง่ายๆ ไม่เช่นนั้นแล้วตลอดสองปีที่ผ่านมานี้ เหตุใดเธอจึงยังไม่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตัวเองได้
ตลอดสามร้อยปีที่ผ่านมานี้ เธอมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความแค้นอย่างไม่รู้จบ เธอตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะมีโอกาสแก้แค้นให้กับพ่อแม่ของเธอ
เมื่อคนในตระกูลได้รับแรงบีบคั้นจากตำหนักจื่อ ทุกคนก็เริ่มวางตัวเหินห่างจากเธอ และถึงขั้นร่วมมือกันเพื่อส่งตัวเธอไปให้ตำหนักจื่อเพื่อต้องการความดีความชอบ และเพื่อให้ตระกูลยังคงอยู่ต่อไปได้
เธอผิดหวังและสิ้นหวัง ทว่าในช่วงเวลาที่เธออ่อนแอมากที่สุด หนุ่มน้อยที่ฝึกตนในแดนพรสวรรค์คนหนึ่งก็ได้เข้ามาในหัวใจของเธอ
เดิมทีเธอคิดว่าทั้งเขาและเธอตลอดชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้มีความข้องเกี่ยวต่อกันอีก ทว่าโชคชะตาเป็นสิ่งที่น่าพิศวง หลังจากเวลาผ่านไปสองปี พวกเขาทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง
หนุ่มน้อยในแดนพรสวรรค์ในตอนนั้น ตอนนี้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์โลกยุทธ์ และยังสามารถเชิญผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์มาช่วยในการกำจัดกลุ่มอำนาจใหญ่ที่เป็นรองเพียงสิบตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเผยได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอรู้ว่ายาวิญญาณหยินหยางเม็ดนี้ หลัวซิวเป็นคนที่กลั่นออกมาด้วยตัวเอง เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็ยิ่งตื้นตันจนถึงขีดสุด
ราวกับว่าชื่อของหลัวซิวนี้มีหมายความถึงความแปลกประหลาดและคาดไม่ถึง
คราวนี้เป็นเธอเองที่เปิดหัวใจของเธอและกางแขนออกเพื่อเอาศีรษะของหลัวซิวมาซบลงที่อกของตัวเธอเอง
และในตอนนั้นเอง เธอเริ่มเกิดความรู้สึกว่า เธออยากให้เวลาหยุดนิ่งอยู่เช่นนี้ตลอดไป
……
จักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง เหยียนเยว่เอ๋อร์ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม้อย่างสวยสง่าตอนนี้ ได้กลายเป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง เธอซุกอยู่ในอกของหลัวซิวอย่างแนบแน่น
“บอกฉันได้ไหมว่าสองปีที่ผ่านมานี้ผ่านอะไรมาบ้าง”
เธออยากรู้มากว่าสองปีที่ผ่านมานี้ หลัวซิวใช้ชีวิตอย่างไร และใช้วิธีอะไรในการบรรลุจากแดนพรสวรรค์มาจนถึงขั้นนี้ได้
“คุณอยากรู้จริงๆ หรือ” หลัวซิวยิ้ม
เหยียนเยว่เอ๋อร์พยักหน้า ดวงตาของเธอจ้องไปที่เขาอย่างเปล่งประกาย
“เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยาวมาก……”
หลัวซิวเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังอย่างคร่าวๆ ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความลับของลูกแก้วความเป็นตาย
ระหว่างที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เขาก็รู้สึกราวกับว่าเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ได้ปรากฏขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง