นางรู้ดี ผู้ชายที่สามารถได้รับอำนาจสูงในแก๊งตั้งแต่อายุยังน้อย จะต้องเป็นสมาชิกอัจฉริยะ และมีศักยภาพมาก
ภายใต้การนำของหญิงร่างสูงโปร่ง หลัวซิวมาถึงห้องหนึ่งที่อยู่ภายในของห้องลับ
ศูนย์กลางของห้อง มีแท่นศิลาอยู่แท่นหนึ่ง ด้านบนมีเครื่องประดับที่มีร่องที่สามารถใส่ตรานักล่าอสูรไปได้
นอกเสียจากตัวของหลัวซิวเองแล้ว ในห้องลับแห่งนี้ไม่มีคนอื่นอยู่อีก
บนแท่นศิลา สลักด้วยค่ายกลลายเส้นที่เต็มไปด้วยความลึกลับ หลัวซิวหยิบเอาตรานักล่าอสูรออกมา และฝังลงไปในร่องนั้น
“ฮึ่ม!”
แสงไฟส่องสว่างขึ้นจากแท่นศิลา ฉายลงบนกำแพงเบื้องหน้า โครงร่างที่คลุมเครือของใบหน้ามนุษย์ปรากฏขึ้น
“หลัวซิว สมาชิกอัจฉริยะขั้นดำชั้นสูงแห่งองค์กรนักล่ายุทธ์ ทำภารกิจกำจัดตระกูลเผยได้สำเร็จ สามารถแลกเปลี่ยนได้! รางวัลของภารกิจคือยาระดับ6หนึ่งชิ้น จงเลือก” เงาใบหน้าบนผนังพูดขึ้น
ทันใดนั้น หลัวซิวเดินขึ้นไปตรงหน้า บนแท่นศิลามีภาพของยาสามชนิดปรากฏขึ้นมา แบ่งเป็นยากลั่นจิตอัคคีม่วงสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพของผลการฝึกตน ยารวมจิตเรืองอร่ามแห่งการผนึกรวมเทพจิต ยาทิพย์กระดูกเสือแห่งการชุบร่างเนื้อ
ยาระดับ6ทั้งสามชนิดนี้ ให้ผลสัมฤทธิ์ที่แตกต่างกัน แต่ต่างก็สามารถทำให้พลังของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์เพิ่มขึ้นได้
ท่ามกลางยาทั้งหมด ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดคือยากลั่นจิตอัคคีม่วง ส่วนอีกสองชนิดคือยาผนึกรวมเทพจิตและยาชุบร่างเนื้อมันค่อนข้างหายากและมีค่ามากกว่า
ในตอนนี้หลัวซิวเป็นเพียงแค่แดนราชายุทธ์ขั้นหนึ่งยังอีกไกลกว่าจะบรรลุถึงถึงแดนผนึกรวมเทพจิต ดังนั้นเขาจึงยังไม่จำเป็นต้องใช้ยารวมจิตเรืองอร่าม
คาดว่าไม่มีอะไรให้น่าลังเลใจ เขาจึงได้เลือกยาทิพย์กระดูกเสือในทันที เพราะยาชุบร่างเนื้อจำพวกนี้ วัตถุดิบนั้นค่อนข้างรวบรวมได้ยาก แต่สำหรับยากลั่นจิตอัคคีม่วง วัตถุดิบหาได้ง่ายกว่า และตัวเขาเองก็สามารถกลั่นได้
“ข้าเลือกยาทิพย์กระดูกเสือ” หลัวซิวเอ่ยปาก
เมื่อสิ้นสุดเสียง แสงสว่างก็วาบขึ้นบนแท่นศิลา ตามมาด้วยขวดหยกที่มีลวดลายประณีต ปรากฏขึ้นบนแท่นศิลาตรงหน้า
นี่ทำให้หลัวซิวประหลาดใจไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าขวดหยกนี้ไม่สามารถปรากฏขึ้นเองได้จากอากาศ แต่ใช้วิธีการส่งต่อแทน เป็นการส่งต่อมาถึงที่แห่งนี้
“ไม่มีสิ่งใดต้องประหลาดใจ สี่องค์กรใหญ่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ บนเส้นทางค่ายกลนี้ เนิ่นนานมาแล้วที่วิชาค่ายกลอยู่เหนือดินแดนแห่งวิญญาณ” ที่ฝ่ามือซ้ายของหลัวซิว เสียงของวิญญาณเสวียนดำถูกส่งเข้ามา
“ค่ายกลอยู่เหนือวิญญาณ?” หลัวซิวเผยสีหน้าสับสนและไม่เข้าใจ
ค่ายกลที่เกินระดับเก้า นั่นคือค่ายกลกายสิทธิ์ ค่ายกลที่ได้รับจิตวิญญาณ ไม่ต้องพูดถึงเจ้าที่เป็นเพียงแดนราชายุทธ์ตัวเล็ก ๆ ต่อให้เป็นข้าในสมัยที่เคยรุ่งโรจน์ ยังไม่เคยได้แตะต้องแดนระดับนั้น” วิญญาณเสวียนดำกล่าวเช่นนี้
กฎAttrฟ้าดิน หากได้รับจิตวิญญาณ เรียกได้ว่าคือวิญญาณแห่งฟ้าดิน
ค่ายกล ยา อาวุธและของขลัง ต่างก็สามารถเกิดจิตวิญญาณขึ้นได้และมีความสามารถอันน่าเหลือเชื่อหลายประเภท
ตามที่วิญญาณเสวียนดำบอกกล่าว ระบบค่ายกลภายในองค์กรนักล่ายุทธ์ ความเป็นจริงก็คือการจัดการของจิตวิญญาณแห่งค่ายกล
วิญญาณ คำนี้มีความลึกลับที่ไม่มีที่สิ้นสุด ความหมายโดยนัยคือสัจธรรมแห่งต้นกำเนิดของสวรรค์และโลก
องค์กรนักล่ายุทธ์บันทึกข้อมูลนับไม่ถ้วนผ่านการกระทำของค่ายกล โดยใช้วิญญาณแห่งค่ายกลคอยควบคุม แต่ตรานักล่าอสูร คือสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างนักยุทธ์และวิญญาณแห่งค่ายกล
เป็นดั่งคำพูดของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำ แดนระดับนั้น มันอยู่ไกลจากเขามากเกินไป
เมื่อได้รับยาทิพย์กระดูกเสือหนึ่งชิ้น หลัวซิวก็มีโอกาสที่จะยกระดับแดนร่างเนื้อให้บรรลุถึงร่างยุทธ์ระดับราชาขั้นสูง
อีกทั้งผลการฝึกตนของตัวเขาเอง ก็ต้องยกระดับเช่นเดียวกัน เขาจำเป็นต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นความปลอดภัยของคนสนิทของเขา มันจะกวนใจเขาไปตลอดโดยไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ว่าเขาจะเตรียมการบางอย่างก่อนออกเดินทาง แต่ก็มีตัวแปรหลายอย่างแทรกเขามา
ระดับการฝึกยุทธ์ของสมาคมเป่ยเซี๋ย โดยรวมนั้นสูงกว่าประเทศเทียนหวูอย่างมาก หัวหน้าองค์กรนักล่ายุทธ์ที่เมืองโม่โหลวแห่งนี้ ก็คือผู้แข็งแกร่งแห่งแดนจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง
ถึงอย่างนั้น จักรพรรดิยุทธ์ก็ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองโม่โหลว ไม่ต้องพูดถึงอำนาจอื่น ๆ เพียงแค่สมาคมหมิงกวง ก็ว่ากันว่ามีอาจารย์มกุฏยุทธ์ท่านหนึ่งครองบัลลังก์อยู่
เมื่อส่งมอบภารกิจกำจัดตระกูลเผยแล้ว หลัวซิวก็ได้จำศีลอยู่ภายในแก๊ง เขาต้องการให้พลังของตัวเอง เขาต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้ถึงขีดจำกัด จากนั้นก็ไปตามหาโอกาสที่จะได้บรรลุไปถึงแดนที่สูงขึ้น
ในห้องที่เงียบสงบ หลัวซิวนั่งขัดสมาธิ ขั้นแรก ปรับสภาพตัวเองให้ดีที่สุด
จนถึงวันนี้ เขาอยู่ในต่างแดน และใจของเขาเหมือนลูกธนู แต่กลับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าหากเขาไม่ได้ชัดขืนพลังของอาจารย์มกุฏยุทธ์ ถ้าเขากลับไปเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
อำนาจทุกฝ่ายโดยรอบประเทศเทียนหวู พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่าเขาได้รับมรดกของผู้เฒ่าโบราณในคีตโลกาถ้ำเทพสถิต ม้วนหยกที่เขาให้จักรพรรดิยุทธ์ทุกคน สำนักเสวียนหยาง ยังมีอาจารย์มกุฏยุทธ์สำนักฉางเหอ จะบันทึกประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกยุทธ์
ประสบการณ์การฝึกตนประเภทนี้ แน่นอนว่าหลัวซิวก็ได้รับมาเช่นกัน และการบันทึกนั้นก็ละเอียดมากขึ้นด้วย
เพื่อแลกกับการได้อยู่อาศัยในกายของตน จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำจึงเอาประสบการณ์การฝึกตนแห่งแดนราชายุทธ์ที่อยู่ในตัวเอง ทั้งหมดถูกสอนให้หลัวซิว
“แดนราชายุทธ์ผนึกรวมยาเทพจิต หล่อเลี้ยงวิญญาณตัวสำนึก ร่างเนื้อเติบโตขึ้น คือการเตรียมตัวเพื่อหลอมรวมเทพจิตบรรลุถึงจักรพรรดิยุทธ์ในก้าวต่อไป”
“ยาเทพจิตอยู่ในวงล้อชี่ไห่ ก็เหมือนดวงดาวที่หมุนรอบตัวเอง ดึงพลังแห่งสวรรค์และโลกภายในขอบเขตที่กำหนดมาให้ตัวเองใช้ คือเครื่องมือในการควบคุมฟ้าดิน”
“ตัวสำนึกยิ่งแข็งแกร่ง ระดับยาเทพจิตก็ยิ่งสูงขึ้น การครอบครองอำนาจฟ้าดินก็ยิ่งมากขึ้นขอบเขตก็จะยิ่งกว้างขึ้น พลังแห่งแดนราชายุทธ์นั้นจะยิ่งแข็งแกร่งมากตามไปด้วย”
ระดับของยาเทพจิต แบ่งเป็นยาเขียว ยาม่วงและยาทองสามระดับ
แดนราชายุทธ์ขั้นหนึ่งถึงขั้นสาม การฝึกตนใช้ยาเขียว หลอมรวมยาเทพจิตภายในชี่ไห่ จะปล่อยแสงสีฟ้าจาง ๆ
แดนราชายุทธ์ขั้นสี่ถึงขั้นหก ยาเขียวจะลอกคราบเป็นยาม่วง ขั้นเจ็ดถึงขั้นเก้าจะกลายเป็นยาทอง
มีประสบการณ์ฝึกตนของมหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งท่านหนึ่ง หลัวซิวด้วยมุมมองของคนนอก ชัดเจนราวกับกำลังมองเปลวไฟ สามารถเข้าใจอย่างสิ่งสำคัญของการฝึกตนแห่งแดนราชายุทธ์แดนนี้ได้ถ่องแท้
เมื่อเข้าใจประสบการณ์การฝึกตนเหล่านี้ ก็ทำให้ตัวของหลัวซิวเอง มีความเข้าใจโลกยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะความลับของพลังแห่งสองระดับความเป็นตาย ความลึกลับที่ลึกซึ้งสามารถรับรู้ได้จาง ๆ
โดยไม่ทันรู้ตัว ความเข้าใจผังกฎดั้งเดิมรูปที่สอง ใกล้จะแล้วเสร็จ!
มือของเขาโบกขึ้นโดยไม่รู้ตัว พลังจิตแท้สองระดับความเป็นตายหมุนวนอยู่ระหว่างนิ้ว ข้ามเส้นทางลึกลับ
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ในมือของเขาก็เต็มไปด้วยพลังตราประทับนับร้อย สุดท้ายทั้งสองมือก็ขยับพลังตราประทับด้วยท่าทางแปลก ๆ ประทับลงบนอก
พลังตราประทับนับร้อยแปรเปลี่ยนเป็นพลังตราประทับเส้นสุดท้าย เหมือนกับประกอบด้วยกลับไปสู่ความดั้งเดิม รากเดิมของเส้นนั้นลึกลับไร้ที่สิ้นสุด เลือดเนื้อทุกตารางนิ้วทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลัง ต่างก็พรั่งพรูกันขึ้นมาในวินาทีนี้
“นี่คือ…”
หลัวซิวสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงเลือดเนื้อทุกตารางนิ้ว ต่างก็ถูกเปลี่ยนด้วยการสั่นสะเทือนและการสะท้อนที่ละเอียดอ่อนนอกจากนี้ กระบวนการและผลของการยกระดับและการเปลี่ยนแปลงนี้ มันดีกว่าวิธีการฝึกหัดฝึกตนของเขาก่อนหน้านี้มาก
ผังกฎดั้งเดิมภาพที่สองของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ เมื่อเข้าใจอย่างถ่องแท้ พลังตราประทับนับร้อยแห่งภาพหนึ่งเข้าคู่กับผังโคจรเส้นลมปราณ ทั้งหมดนั้นท่วมท้นในความทรงจำของเขา