มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 495
สองระดับความเป็นตายรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เพราะทุกสิ่งในโลกนี้มีสองด้าน และทั้งสองมีความลึกลับของความเป็นและความตาย
ตัวอย่างเช่น ความอบอุ่นของไฟสามารถให้กำเนิดชีวิต แต่ในขณะเดียวกันยังสามารถแผดทำลายทุกสิ่งในโลกนี้ได้ด้วย
ตัวอย่างเช่น ความชุ่มชื้นของน้ำสามารถหล่อเลี้ยงทุกสิ่งทุกอย่าง กลายเป็นอุทกภัยได้ แล้วยังนำความพินาศและความตายมาสู่ทุกสิ่งได้อีกด้วย
หลัวซิวพบว่าตั้งแต่แรก การรับรู้ของเขาเกี่ยวกับทิศทางสองระดับความเป็นตายดูเหมือนจะผิดไป
การรับรู้ของเขาเกี่ยวกับความเป็นตาย คือการรับรู้ถึงความเป็นและความตาย แต่ในความเป็นจริงความเป็นและความตายเป็นหนึ่งเดียว ที่สุดของความเป็นคือความตาย ที่สุดของความตายคือความเป็น และสองระดับความเป็นตายคือวัฏจักร!
สองระดับความเป็นตายรวมทุกสิ่ง ก็สามารถรวมทุกสิ่งเข้ากับสองระดับความเป็นตายได้
“ภูตอัคคีกลืนกิน กลืนกินทุกสิ่ง และแผดเผาทุกสิ่งให้กลายเป็นความว่างเปล่า ในสองระดับความเป็นตาย สามารถจำแนกเข้าในหมวดหมู่พลังแห่งความตาย”
หลัวซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทันใดนั้นก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าในอดีต เขาจะใช้ภูตอัคคีกลืนกินต่อสู้กับศัตรูโดยตรง แต่ตอนนี้เขามีความเข้าใจเรื่องสองระดับความเป็นตายที่สูงขึ้น เลยสามารถใช้พลัจิตแท้ควบคุมพลังสองระดับความเป็นตายและใช้ภูตอัคคีกลืนกินตามความต้องการของเขาได้
ไม่ใช่เพียงแต่ความแข็งแกร่งผลการฝึกตนที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่การรับรู้ด้านยุทธ์ของหลัวซิวยังได้เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าด้วย
เมื่อหลัวซิวออกจากการปิดกั้นรักษาตัว เขาก็รู้ว่าเกาเหลียนหงกลับมาจากเขาเทียนเหอแล้ว
ในตำหนักวัฏจักร สีหน้าของเกาเหลียนหงชะงักนิ่งอย่างกระทันหันเมื่อเขาเห็นหลัวซิว เพราะหลัวซิวกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนที่นั่งบนบันไดชั้นเก้า แต่ความรู้สึกที่เขาได้รับเหมือนไม่จริง และไม่มีความผันผวนของพลังจิตแท้ในร่างกายของเขา ถ้าไม่ใช้สายตามอง อาจจะคิดว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย
“ขอแสดงความยินดีต่อเจ้าสำนักขอรับ!”
เกาเหลียนหงก้าวไปข้างหน้า กำหมัดคารวะ แม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลัวซิว แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผลการฝึกตนของเขาได้เพิ่มสูงมากขึ้น
หลัวซิวยิ้มเล็กน้อย “การเดินทางครั้งนี้ของผู้คุมกฎเกา เป็นไปด้วยดีหรือไม่?”
เกาเหลียนหงรีบเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเขาเทียนเหอทันที และนำกล่องหยกที่อาจารย์สำนักฉางเหอให้เขามอบให้แก่หลัวซิวออกมา
บนกล่องหยกมีผนึกต้องห้ามด้วยพลังจิตแท้ แม้ว่าช่วงนี้หลัวซิวจะปิดกั้นรักษาตัวยู่ แต่เกาเหลียนหงไม่เคยได้เปิดออก
หลัวซิวยื่นมือออกเพื่อตรวจสอบ ปราศจากการผันผวนของพลังจิตแท้ กล่องหยกก็บินขึ้นและตกลงมาในมือของเขา
เกิดเสียงดังคลิก กล่องหยกก็ถูกเปิดออก ข้างในมีหินกระแสพลังสีเทาเรืองแสง ขนาดเท่ากำปั้นของทารก
ทันทีที่เขาเห็นหินก้อนนี้ในกล่องหยก หลัวซิวรู้สึกได้ว่าชิ้นส่วนกฎที่เขารวมเข้ากับตัวหยั่งรู้ มีความรู้สึกกับหินก้อนนี้
“นี่อะไร?” หลัวซิวเอื้อมมือหยิบหินสีเทาขึ้นมา ตัวสำนึกของเขาสัมผัสได้ถึงออ่ร่าในตัวมัน
ทันใดนั้น ดูเหมือนเขาจะมองเห็นโซนตรีภพสีเทา ราวกับความเงียบงันก่อนที่โลกจะกำเนิด
“พ่อหนุ่ม นี่คือสมบัติชิ้นหนึ่ง!” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำสามารถสัมผัสโลกภายนอกผ่านทางหลัวซิว และอุทานออกมาทันทีเมื่อเห็นหินสีเทาก้อนนี้
“หือ? นี่มันสมบัติอะไร?” หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะถาม สามารถทำให้จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำประหลาดใจมากเช่นนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้น่าอัศจรรย์
“สิ่งนี้เรียกว่าหินตรีภพ เป็นสมบัติที่ผนึกรวมมาจากพลังตรีภพด้วยเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุด!”
จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำกล่าวอย่างช้า ๆ “ตั้งแต่ที่กำเนิดจักรวาล ตรีภพได้หายไปนานแล้ว แปรสภาพเป็นหยินหยางเบญจธาตุทั้ง 5 กลายเป็นสิ่งมีชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มีเพียงสถานที่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่ยังคงมีแดนตรีภพหลงเหลืออยู่เมื่อตอนที่กำเนิดโลก สถานที่แบบนั้นหายากมากและเป็นที่เดียวที่จะมีหินตรีภพ”
“ในสมัยโบราณ หินตรีภพก้อนหนึ่งในมือเจ้า เพียงพอที่จะแลกสมบัติวิเศษมาได้ชิ้นหนึ่งแล้ว!” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำถอนหายใจ