มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 663
“วังเต๋าคือสถานที่อะไร?” หลัวซิวเหลือบมองผู้คนรอบตัวเขา
“ตามที่อาจารย์ของข้ากล่าว วังเต๋าได้รวบรวมสมบัติร่องรอยพลังแห่งกฎ สามารถเลือกพลังแห่งกฎที่เหมาะกับตนเพื่อทำความเข้าใจได้” ลู่เมิ่งเหยาเดินอยู่ข้างหลัวซิว และอธิบายให้เขาฟังผ่านตัวสำนึก
“มีสมบัติที่สามารถทำความเข้าใจพลังแห่งกฎจริงหรือ?” ดวงตาของหลัวซิวเป็นประกาย
แม้ว่าเขาจะเข้าใจกฎการเวียนว่ายตายเกิดเล็กน้อยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชี่ยวชาญการควบคุมพลังแห่งกฎในขั้นต้นด้วยซ้ำ เขาทำได้แค่ยืมพลังแห่งกฎเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งเท่านั้นเอง
เขาได้ทำความเข้าใจภาพที่สี่ของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพผังกฎดั้งเดิม แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจประเด็นเสียที และเขาไม่สามารถเข้าใจกฎการเวียนว่ายตายเกิดต่อไปได้อีก
“อาจารย์เคยมาฝึกตนที่แดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครั้งยังเยาว์วัย ว่ากันว่าผู้ที่ทิ้งร่องรอยของพลังแห่งกฎเหล่านี้ไว้คือผู้แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา และบางส่วนเป็นขุมทรัพย์โดยกำเนิดที่สวรรค์และโลกหล่อเลี้ยงไว้ ซึ่งประกอบด้วยความลึกลับของพลังแห่งกฎ” ลู่เมิ่งเหยากล่าว
จากเจ้าลักษณะพลังแห่งกฎ เป็นธรณีประตูที่ใหญ่โต พูดได้โดยไม่มีความลังเลใจว่ามันเป็นเหมือนปลาคาร์ฟและมังกรที่แท้จริง
จากเวลาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน นักยุทธ์ส่วนใหญ่ติดอยู่ในระดับนี้ และเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าใจพลังแห่งกฎ คนส่วนใหญ่เข้าใจพลังแห่งกฎธรรมดาเท่านั้น ผู้ที่สามารถเข้าใจและเชี่ยวชาญพลังแห่งกฎระดับสูง น้อยมากนัก
พลังแห่งกฎยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าใจยากขึ้นเท่านั้น วิถีแห่งสวรรค์ยุติธรรมเสมอ
และหลัวซิวยืนยันเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว แม้จะมีความช่วยเหลือจากลูกแก้วความเป็นตาย ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับกฎการเวียนว่ายตายเกิดนั้นก็ช้ามาก หากไม่ใช่เพราะบรรลุแดนจักรพรรดิยุทธ์แล้วได้รับกฎดั้งเดิม ผ่านไปอีกหลายปี เขาอาจไม่สามารถเข้าใจผังกฎดั้งเดิมแผ่นที่สามอย่างถ่องแท้ได้
ตามหลังชายชุดม่วงไป ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ชายชุดม่วงที่อยู่ข้างหน้าก็หยุดลงกระทันหัน ประตูหินก็ปรากฏขึ้นข้างหน้า บนนั้นแกะสลักไว้ว่า ‘วังเต๋า’
ชายชุดม่วงค่อยๆ หันไปมองทุกคน “ตามกฎแล้ว เวลาฝึกของแต่ละคนจะถูกแบ่งตามอันดับการแข่งขัน ตอนนี้คนที่ได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันสามารถเข้าไปก่อนได้”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลัวซิวก็ก้าวออกมาทันที และคนอื่นๆ ที่มาพร้อมเขาก็มองเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อนอย่างแปลกๆ
เมื่อเห็นหลัวซิวเดินออกมา ชายชุดม่วงอึ้งเล็กน้อย ด้วยผลการฝึกตนของเขา เขาเพียงชำเลืองมองก็สามารถเห็นผลการฝึกตนของชายหนุ่มวัย 20ปี ได้
“คนที่มีผลการฝึกตนต่ำที่สุดได้อันดับหนึ่งหรือ?”
ชายชุดม่วงอึ้งไปชั่วขณะก็รู้สึกตัว ยกมือและโบกมือ ประตูหินของวังเต๋าก็เปิดออก
“เข้าไปเถอะ”
หลัวซิวคำนับชายชุดม่วงแล้วเดินเข้าไปในประตูหิน
หลังจากที่หลัวซิวเข้าสู่วังเต๋า ชายในชุดม่วงก็มองไปที่คนอื่นๆ “ผู้ที่ได้อันดับสอง ต้องรอสี่ชั่วโมงถึงจะเข้าไปได้”
ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวที่เพิ่งเข้ามาในวังเต๋า ก็ถูกสิ่งที่เห็นในวังดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก
วังเต๋า เป็นห้องที่กว้าง ห้องค่อนข้างสลัวและมีแสงสีต่าง ๆ ลอยอยู่กลางอากาศลอยไปมา เหมือนดาวตก
“พ่อน้อย ในฐานะที่เป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันของแดนศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามีเวลาสี่ชั่วโมงในการเลือกพลังแห่งกฎที่เจ้าต้องการทำความเข้าใจ” เสียงที่ไม่มีอารมณ์แม้แต่น้อยดังเข้ามาในหูของหลัวซิว
“ถ้าเจ้ายังไม่ได้ตัดสินใจภายในสี่ชั่วโมง คนที่ได้อันดับสองในการแข่งขันสามารถเข้าไปในวังเต๋าเพื่อทำการเลือกได้”
“ถ้าเจ้าเลือกพลังแห่งกฎอย่างหนึ่งมาทำความเข้าใจ คนที่เข้ามาภายหลัง จะต้องเลือกพลังแห่งกฎอื่นมาทำความเข้าใจเท่านั้น”
“ตอนนี้เจ้าสามารถเลือกได้แล้ว จำไว้ว่าเจ้ามีเวลาแค่สี่ชั่วโมงในกรเลือกก่อนเท่านั้น!…”