มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 690
ในตอนที่หลัวซิวอยากรู้อยากเห็นว่าในแผ่นยกอีกแผ่นมีเนื้อหาอะไรอยู่นั่นเอง เทวทูตจื่อเยียนก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ในแผ่นยกอีกแผ่นนั้นได้บันทึกสถานที่ของโอกาสบางอย่างเอาไว้ รอจนเจ้ามีความสามารถในแดนเจ้ายุทธจักรขึ้นไป สามารถไปดูได้”
ตัวสำนึกของหลัวซิวแทรกซึมข้าไปในแผ่นหยก พบว่ามีแผนที่อย่างละเอียดอยู่ด้าน
“โอกาส?” ท่าทางของหลัวซิวเคลื่อนไหวเล็กน้อย เทวทูตจื่อเยียนจะต้องมีการดำรงอยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไปแน่ ของที่นางนำออกมา ต้องไม่ใช่โอกาสธรรมดาอย่างแน่นอน
“สถานที่อยู่ของโอกาสครั้งนี้ถูกข้าคนพบโดยบังเอิญในโลกแสงดาว มันไม่มีประโยชน์สำหรับข้า แต่มันมีประโยชน์สำหรับเจ้ามาก” เทวทูตจื่อเยียนกล่าว
“อย่างไรเสียโอกาสก็เป็นของนอกกาย สิ่งสำคัญก็คือการตระหนักรู้ในกฎ หวังว่าเจ้าจะไม่ใกล้เกลือกินด่าง” เทวทูตจื่อเยียนกล่าวอีกครั้ง
“ขอบคุณผู้อาวุโสเทวทูตมาก” หลัวซิวโค้งตัวคารวะ
“เอาล่ะ เจ้ากลับไปตั้งใจฝึกตนเถอะ หากเจ้าสามารถทะลวงผ่านชั้นที่สามของหอคอยสุดหล้าไปได้ พอถึงตอนนั้นสามารถมาพบข้า ข้าสามารถชี้แนะกฎความตายให้กับเจ้าได้”
หลัวซิวกล่าวขอบคุณอีกครั้ง จากนั้นก็ออกมาจากตำหนักแห่งนี้
จากคำพูดของเทวทูตจมปลักเยียน เป็นธรรมดาที่หลัวซิวจะฟังออกได้ว่า อีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่ฝึกฝนกฎความตาย
ไม่เพียงเท่านี้ แผ่นหยกที่บันทึกความลึกล้ำของกฎความตายเอาไว้ที่นางมอบให้เขานั้น บอกว่าถ้าหากเขาสามารถทำความเข้าใจได้อย่างทะลุปุโป่งก็จะได้รับการยอมรับจากกฎดั้งเดิม ก้าวเข้าสู่แดนนิรันกาล หมายความว่าความสำเร็จของเทวทูตจื่อเยียนในด้านกฎความตาย อย่างน้อยก็ได้มาถึงแดนนี้เช่นเดียวกัน หรืออาจจะสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ
“การดำรงอยู่เหนือแดนนิรันกาลหรือ?”
เดินออกมาจากตำหนัก หลัวซิวก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อะไรที่เลือกว่าเหนือยังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน? ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในประโยคนี้
“มีแผ่นหยกที่เทวทูตจื่อเยียนให้มา บวกกับผังกฎดั้งเดิมของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ ไม่รู้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าฝึกตนอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ความสามารถจะพัฒนาได้ถึงขั้นไหนนะ?” ในดวงตาของหลัวซิวระยิบระยับไปด้วยประกายของความตื่นเต้น
แม้ว่าคำพูดบางอย่างของเทวทูตจื่อเยียน ทำให้เขาได้รับรู้ว่าตนเองนั้นมีขนาดเล็กมาก แต่กลับได้กระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของหลัวซิว
หลัวซิวไม่ได้ไปหอคอยฝึกตนอื่น ๆ อีก แต่ได้กลับไปที่พักแทน และขับเคลื่อนค่ายกลที่อยู่รอบ ๆ ที่พัก จากนั้นก็หยิบเอาแผ่นหยกที่บันทึกความลึกล้ำของกฎความตายออกมา
ในแผ่นหยก ได้แบ่งแดนของกฎความตาย แยกออกเป็นห้าระดับ นั่นก็คือความเข้าใจพลังแห่งกฎเบื้องต้น แดนสำเร็จน้อย แดนบรรลุผล แดนบริบูรณ์ และแดนสุดท้ายที่ได้รับการยอมรับจากกฎดั้งเดิม
บรรลุถึงแดนที่ห้า ก็จะสามารถข้ามผ่านขีดจำกัด ก้าวเข้าสู่แดนนิรันกาล
มาวันนี้หลัวซิวได้รู้แล้วว่า สิบแดนฝึกตนของโลกยุทธ์ จากแดนกลั่นร่างถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ความจริงแล้วมันมีไว้สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น และทันทีที่เหนือผ่านแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เข้าสู้แดนนิรันกาล ก็จะเป็นเหมือนการเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณหรือว่าร่างเนื้อ ล้วนก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ทั้งหมด
ไม่นานหลัวซิวก็จมปลักอยู่ในการตระหนักรู้กฎแห่งความตาย แผ่นยกที่เทวทูตจื่อเยียนให้มานั้นได้อธิบายกฎความตายเอาไว้อย่างละเอียด แม้ว่าจะเทียบกับร่องรอยแห่งกฎที่สัมผัสได้โดยตรงอย่างในตำหนักเต๋าไม่ได้ แต่ก็ทำให้หลัวซิวได้รับประโยชน์จากมันเป็นอย่างมาก
เขานำกฎที่อธิบายเอาไว้ในแผ่นหยกและผังกฎดั้งเดิมภาพที่สี่ยืนยันเข้าด้วยกัน ไม่เพียงแดนแห่งกฎเพิ่มระดับขึ้น ผลการฝึกตนของเขาเองก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ในขั้นตอนของการฝึกตน เวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งหกวันผ่านไป จู่ ๆ ร่างที่นั่งขัดสมาธิของหลัวซิวก็ได้สั่นสะเทือนขึ้นมา เขาพลันลืมตาขึ้น สายตาเหมือนดั่งกระบี่ที่แหลมคม แทงผ่านอากาศไป
“ความเข้าใจพลังแห่งกฎเบื้องต้น!”