มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 708
ผลการฝึกตนยิ่งสูง ก็ยิ่งมีอายุขัยยืนยาว ก็ยิ่งเกรงกลัวความตาย นี่คือจุดอ่อนโดยทั่วไปของผู้แข็งแกร่งในโลกยุทธ์ คนปกติแล้วต่างไม่กล้าตัดใจเสี่ยงชีวิตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนั้น
ในตอนนี้เอง เจ้าแดนหลิวก็สังเกตเห็นว่าเทวทูตจื่อเยีบนได้หายตัวไปแล้ว
ตอนนี้เขาถึงได้สติกลับคืนมา เห็นได้ชัดว่าในช่วงเวลาสำคัญหลัวซิวผู้นั้นได้ใช้พลังไปจนหมดสิ้นแล้ว คงเป็นเพราะเทวทูตจื่อเยียนมีใจชื่นชมอัจฉริยะ จึงได้ไปช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเขาแล้ว
จริงอย่างที่คิด เงาร่างของเทวทูตจื่อเยียนได้ปรากฏขึ้นในตำหนักอีกครั้ง และได้พาหลัวซิวที่สลบไสลอยู่กลับมาด้วย
“เขาเพียงแค่ใช้พลังไปจนหมดสิ้น ข้าได้ให้เขาทานยาลงไปแล้ว อีกไม่นานก็คงฟื้นขึ้นมา”
มีรอยยิ้มอ่อน ๆ อยู่บนใบหน้าของเทวทูตจื่อเยียน สำหรับการแสดงออกของหลัวซิว ทำให้นางพอใจเป็นอย่างยิ่ง
หากในอนาคต แม้หลัวซิวมีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้าเพียงน้อยนิด เช่นนั้นนางก็ไม่ต้องอยู่ในโลกชั้นล่างแห่งนี้ในฐานะคนบาปอีกต่อไป
แน่นอน ความเป็นไปได้นี้มีน้อยมาก เนื่องจากถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของหลัวซิวจะสูงส่ง แต่ในโลกเสวียนเทียนในพิภพกลาง สามารถปรากฏได้หนึ่งคนในทุก ๆ หลายร้อยถึงหนึ่งพันปี แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้านั้นแสนปีถึงจะพบได้หนึ่งครั้ง ความน่าจะเป็นนี้ต่ำมาก แค่คิดก็ทราบได้
“ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยในหลายหมื่นปีมานี้ ในที่สุดข้าก็ได้มองเห็นความหวังอันริบหรี่นั่นแล้ว” เทวทูตจื่อเยียนเหลือบมองหลัวซิวที่สลบอยู่แวบหนึ่ง และกล่าวกับตัวเองอยู่ในใจ
“ยินดีกับเทวทูตจื่อเยียนที่ได้ค้นพบอัจฉริยะเนื้อดีเช่นนี้” หลิวหงเทียนเดินเข้ามาพลางกล่าว
สำหรับประวัติของเทวทูตจื่อเยียนนั้น หลิวหงเทียนก็พอรู้อยู่บ้าง แต่เขากลับไม่เคยที่จะไม่เคารพเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นคนบาปที่ถูกลงโทษให้ลงมาที่นี่เลยสักนิด
“มันเร็วไปที่เจ้าแดนหลิวจะยินดีกับข้าในตอนนี้ แต่ถ้าข้าสามารถกลับไปที่เสวียนเทียนได้ จะต้องปฏิบัติต่อจ้าแดนหลิวอย่างดีแน่” เทวทูตจื่อเยียนยิ้มกล่าว
นางรู้ดีว่าโอกาสที่ตนจะกลับไปนั้นมีอยู่เลือนรางมาก แต่ต่อให้เลือนรางเพียงใด อย่างน้อยก็ยังพอมีความหวังอันริบหรี่อยู่
ให้คำสัญญาต่อหลิวหงเทียน ก็เป็นการคิดเพื่อหลัวซิว เพราะก่อนที่ผลการฝึกตนจะบรรลุถึงระดับที่เพียงพอ หลัวซิวยังต้องอยู่ที่โลกแสงดาวไปก่อน หลิวหงเทียนน่าจะรู้ว่าควรทำเช่นไร
เหมือนกับที่เทวทูตจื่อเยียนคาดเดาเอาไว้ เมื่อหลิวหงเทียนได้รับคำสัญญานี้ของนาง ก็มีท่าทางปีติยินดีขึ้นมาเล็กน้อย และกล่าวขอบคุณต่อ ๆ กัน
ในตอนนี้เอง ทางด้านหลัวซิวก็มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นค่อย ๆ เปิดออก และฟื้นได้สติขึ้นมา
แม้ว่าเขาจะแปลงพลังจิตแท้สองระดับความเป็นตายให้กลายเป็นพลังแห่งความตายอันบริสุทธิ์ เพื่อปกปิดความลับที่ตนได้ฝึกสองระดับความเป็นตายพร้อมกัน แต่สภาพร่างกายของเขากลับได้ถูกฝึกฝนจากกฎการเวียนว่ายตายเกิดจนไม่ธรรมดาไปนานแล้ว มีความสามารถในการฟื้นฟูอันแข็งแกร่ง
ทันทีที่เขาลืมตา ก็พบว่าตัวเองอยู่ในตำหนัก ในขณะเดียวกันนั้นก็ได้มองเห็นเทวทูตจื่อเยียนและเจ้าแดนหลิว
“ขอบคุณผู้อาวุโส” หลัวซิวลุกขึ้นคารวะกล่าวขอบคุณ ในเมื่อตนเองได้มาอยู่ตรงนี้ เป็นที่ประจักรว่าตนได้ถูกพามาในตอนที่สลบอยู่
หลิวหงเทียนยิ้มอ่อน ๆ : “หลัวซิวเจ้าทะลวงผ่านชั้นที่สี่ของหอคอยสุดหล้า บัดนี้ได้อยู่ในอันดับที่สูงที่สุดของทั้งยี่สิบคน ตามกฎของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะให้รางวัลเจ้าตามที่สมควร เจ้าต้องการสิ่งใด?”
หลิวหงเทียนทราบเป็นอย่างดี หากต้องการให้คำสัญญาที่เทวทูตจี่อเยียนให้ไว้เป็นจริง เงื่อนไขอย่างแรกก็คือนางสามารถกลับไปยังโลกเสวียนเทียนได้ แต่ทั้งหมดนี้จะต้องดูว่าความสำเร็จในวันหน้าของหลัวซิวจะถึงระดับใด
ดังนั้นตัวหลิวหงเทียนจึงคิดที่จะออกแรงในส่วนของตนเอง ให้หลัวซิวได้รับผลประโยชน์สูงสุดอยู่ในที่นี้ให้ได้
“แดนศักดิ์สิทธิ์ของเรานั้นมีทรัพยากรรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาวุธวิเศษ จิตฟ้าดิน ยา วิชายุทธ์ ข้อคิดและประสบการณ์ในการฝึกกฎและอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ควรมีล้วนมีอยู่ทั้งนั้น!”