มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 766
แค่ยืนอยู่หน้าตำหนักแห่งนี้ หลัวซิวสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดขี่ที่น่ากลัวจากด้านในตำหนัก ทำให้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตัวสั่นขึ้นมา
“ออร่ากฎดั้งเดิม?” หลัวซิวเผยสีหน้าตกใจ เพราะตามที่เขาได้รู้มานั้น มีเพียงผู้ที่ก้าวเข้าสู่แดนเทพมารนิรันกาลเท่านั้นถึงจะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานของกฎดั้งเดิม
หรือว่า ที่ตำหนักแห่งนี้จะยังมีผู้แข็งแกร่งระดับนิรันกาลอยู่?
หลัวซิวจ้องเขม็งไปทางด้านในของตำหนักแห่งนี้ ก็รู้สึกแปลกใจที่เห็นคนสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่ในห้องโถง
หนึ่งในนั้นถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง สุกสว่างดั่งเทพสงครามเหลืองทอง อัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สำแดงวิชาร่างทองมารศักดิ์สิทธิ์ —— กุ่ยโยว!
และคู่ต่อสู้ของเขาคือคนที่รอบกายถูกปกคลุมไปด้วยออร่าปีศาจสีม่วงดำ บางครั้งก็เผยให้เห็นใบหน้าที่ชั่วร้าย น่าจะเป็นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ
เผ่าพันธุ์ปีศาจแบ่งออกเป็นห้าสายพันธุ์ใหญ่ คือมารแดง มารเขียว มารฟ้า มารดำ และมารม่วงตามลำดับ
มารแดงมีจำนวนมากที่สุดแต่มีสถานะต่ำที่สุด ส่วนมารม่วงนั้นมีจำนวนน้อยที่สุด สถานะสูงส่งที่สุด เป็นราชวงศ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจ
คนที่ต่อสู้กับกุ่ยโยว รอบตัวเปล่งไปด้วยออร่าปีศาจสีม่วงดำ เห็นได้ชัดว่าเป็นสายเลือดของมารม่วง
ภายในตำหนักแห่งนี้ นอกจากการต่อสู้ของกุ่ยโยวกับอัจฉริยะมารม่วงเผ่าพันธุ์ปีศาจ คนอื่น ๆ ต่างก็รายล้อมอยูบริเวณใกล้เคียง ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้นี้ด้วย
เมื่อหลัวซิวเข้ามากลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากใครเลย สายตาของทุกคนต่างรวมกันอยู่ที่ใจกลางตำหนักแห่งนี้
ในใจกลางของห้องโถงที่กว้างใหญ่และว่างเปล่า มีเกราะนักยุทธ์เหลืองทองชุดหนึ่งลอยอยู่ แปลกตาทว่าลึกลับ รัศมีแห่งแสงอันเป็นมงคลเปล่งประกายระยิบระยับ
นอกจากนี้ ที่ด้านข้างของเกราะนักยุทธ์เหลืองทองชุดนี้ ม้วนหยกสีทองม้วนหนึ่งลอยอยู่คู่กันด้วย ทำให้ผู้คนอยากรู้ว่าภายในม้วนหยกนั้นบันทึกข้อมูลใดเอาไว้
สิ่งของทั้งสองชิ้นนี้ ต่างเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย ม้วนหยกสีทองที่ลึกลับเช่นนี้หลัวซิวไม่รู้ แต่สำหรับเกราะนักยุทธ์เหลืองทองชุดนี้ กลับทำให้หลัวซิวรู้สึกถึงออร่าที่ทำให้ผู้คนหัวใจสั่นระรัวอย่างผิดปกติ แต่เขารับรู้ได้ถึงออร่าดั้งเดิมในตอนที่เขาอยู่ด้านนอกตำหนัก ก็เป็นสิ่งที่แผ่กระจายออกมาจากเกราะนักยุทธ์เหลืองทองชุดนี้นี่เอง
เต็มเปลี่ยมไปด้วยออร่ากฎดั้งเดิม อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเป็นเกราะนักยุทธ์ที่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารนิรันกาลเป็นผู้สวมใส่
“ไม่แปลกใจเลยที่แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่าง ๆ อาณาจักรตะวันออกมารวมตัวกัน แม้แต่เผ่าพันธุ์มารและเผ่าพันธุ์ปีศาจก็ยังเข้าร่วมด้วย คาดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีขุมทรัพย์ลับที่น่าทึ่งเช่นนี้”
หลัวซิวแววตาเป็นประกาย กวาดมองไปทั่วทั้งภายในตำหนัก ผู้คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่าง ๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์มารและเผ่าพันธุ์ปีศาจต่างเฝ้าระแวดระวังกันและกัน ต่างหมายว่าจะลงมือช่วงชิงเกราะนักยุทธ์เหลืองทองและม้วนหยกลึกลับนั้น
“ฮึ ของขลังล้ำค่าเช่นนี้ มันควรจะเป็นของเราเผ่าพันธุ์มาร!”
ชายหนุ่มเผ่าพันธุ์มารคนหนึ่งที่มีร่างกายกำยำแข็งแรงสวมชุดเกราะนักยุทธ์สีม่วงทองสาวเท้าก้าวใหญ่เดินเข้าไป เสียงดังคำรามเหมือนฟ้าร้อง
มีเขามังกรสีทองสองเขาอยู่บนหัวของเขา ถึงอย่างไรเขาก็เกิดในตระกูลมังกรของเผ่าพันธุ์มาร อีกทั้งยังเป็นสายเลือดราชามังกร!
หลัวซิวได้ยินทางฝั่งเผ่าพันธุ์มนุษย์พูดคุยกันด้วยเสียงค่อนข้างที่จะแผ่วเบา จึงได้รู้ว่าหนุ่มเผ่าพันธุ์มารตนนี้เป็นเผ่าพันธุ์มารสายเลือดราชามังกรจริง ๆ นามว่าหลงเย๋เทียน
ออร่าของเขาแข็งแกร่ง ออร่ามารพุ่งทะลุฟ้า ในมือถือจี่รบสีเหลืองทอง ดวงตาเต็มไปด้วยความดุร้ายกวาดมองไปทั่วทุกคน “ในเมื่อพวกเจ้าไม่ลงมือ เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน”
ขณะที่พูดนั้น หลงเย๋เทียนได้ยื่นมือออกมา จี่รบสีเหลืองทองในมือกวาดไปทั่ว ปริภูมิผืนใหญ่เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว จากนั้นก็แตกสลาย หายไปในทันที
อัจฉริยะสายเลือดราชามังกรเหลืองทองท่านนี้กลายร่างเป็นมังกรสีเหลืองทอง โดยการพุ่งเข้าไปหาเกราะนักยุทธ์เหลืองทองชุดนั้นเป็นอย่างแรก ในเวลาเดียวกันกรงเล็บกางออกแล้วเอื้อมไปคว้าม้วนหยกสีทอง หมายจะนำสมบัติทั้งสองนี้เป็นสมบัติของตนเอง
“สามหาว!”
ผู้คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่าง ๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์ปีศาจ แน่นอนว่าต้องไม่เห็นด้วย แม้แต่กุ่ยโยวและอัจฉริยะเผ่าพันธุ์ปีศาจที่กำลังต่อสู้กันนั้นก็ยังหยุดลงในทันที ทุกคนต่างพากันลงมือ โจมตีฆ่าหลงเย๋เทียน
“ราชามังกรพิโรธ!”
หลงเย๋เทียนคำราม ทั่วร่างเต็มไปด้วยแสงสีทองอร่าม เห็นแสงสีทองหลายหมื่นเส้นถูกปล่อยออกมา ทุก ๆ เส้นแหลมคมดุจมีด สามารถแทงทะลุปริภูมิ พุ่งกระฉูดไปทุกทิศทุกทาง เพื่อต้านทานการโจมตีของทุกคน