ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ที่สิ้นสุด ดวงดาวกำลังส่องแสงเป็นประกาย ภายในระยะใกล้ ดวงดาวทุกดวงมีขนาดใหญ่มาก
ร่างสองร่างต่อสู้กันบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว ระหว่างการเคลื่อนไหวของมือและเท้าเต็มไปด้วยออร่าอันน่าเกรงกลัว สามารถบดขยี้ดาวดวงใหญ่ให้กลายเป็นผุยผง
หลัวซิวรวบรวมตัวสำนึกมองต่อไปอย่างละเอียด พบว่าหนึ่งในร่างที่กำลังสู้รบอยู่นั้น สวมเกราะนักยุทธ์สีเหลืองทอง เป็นรูปแบบโบราณ เหมือนกันกับเกราะนักยุทธ์ที่เขาเห็นที่ใจกลางตำหนักก่อนหน้านี้ไม่มีผิด
คนผู้นี้สวมเกราะนักยุทธ์สีเหลืองทองราวกับเทพเจ้าแห่งสงคราม หนึ่งหมัดปล่อยออกไปทำให้ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ไม่มีที่สิ้นสุดเกิดเป็นหลุมดำ อีกทั้งดาวหลายสิบดวงก็กลายเป็นผุยผง
และคู่ต่อสู้ของเขาก็แข็งแกร่งเสียจนน่าหวาดกลัวเช่นเดียวกัน ร่างกายเต็มไปด้วยรังสีความน่าหวาดกลัวอันไร้ขอบเขต แม้ว่านี่จะเป็นเพียงผลกระทบ รังสีอาฆาตจากภาพลวงตานั้น ก็ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าวิญญาณของตนกำลังจะถูกทำลายอย่างไรอย่างนั้น
“นี่คือเทพสังหารที่น่ากลัว!”
หลัวซิวสามารถแน่ใจได้ว่า ผู้แข็งแกร่งคนนี้ที่ต่อสู้กับเจ้าของเกราะนักยุทธ์สีเหลืองทอง ต้องอยู่ในระดับที่บรรลุถึงของกฎสังหารถึงระดับที่สูงที่สุดแล้วเป็นแน่
สงครามดำเนินไปอย่างยาวนาน เจ้าของเกราะนักยุทธ์สีเหลืองทองคนนั้นดูเหมือนว่าจะบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว อยู่ดี ๆ เขาก็กระอักเลือดออกมา มือหนึ่งฟาดลงไปทำลายดวงดาว บินหนีออกไป
แต่คู่ต่อสู้ของเขากลับไม่ได้ตามไปโจมตี ร่างกายโอนเอนไปมา ร่างกายแตกร้าวเกิดเป็นแผลฉกรรจ์
ในม้วนหยกบันทึกภาพเอาไว้ถึงแค่เพียงตรงนี้ จากนั้นก็จบลง
“ข้าเทพสงครามเวหากาลต่อสู้อยู่ในโลกพิภพ หลายร้อยหลายพันปีมิเคยพ่ายแพ้ แต่กลับถูกคนต่ำทรามปองร้าย เข่นฆ่าเทพฟ้าทั้งแปด ในที่สุดหมดเรี่ยวแรง และตายลงด้วยฤทธิ์ยาพิษ……”
กลางม้วนหยกสีทองนี้ บันทึกเรื่องราวชีวิตสั้น ๆ ของ เทพสงครามเวหากาลไว้
เขาเกิดในเผ่าพันธุ์เทพสงครามระดับกลาง ทันทีที่เขาเกิด เขาได้แสดงพรสวรรค์และความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา เมื่ออายุหกปีเริ่มฝึกตน สิบปีฝึกตนถึงระดับมกุฎยุทธ์ อายุ 13 ถึงมหายุทธ์ อายุ 16 ถึง เจ้ายุทธจักร!
จากนั้น เมื่อเขาอายุได้ 30 ปีก็ฝึกตนระดับที่บรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ เมื่ออายุ 50 ปีก็ได้กลายเป็นเทพมาร
ประสบการณ์การเติบโตของเขาเป็นตำนาน ในยุคสมัยเดียวกันไม่มีใครสามารถสู้เขาได้ เพราะถึงแม้จะเป็นโลกพิภพระดับกลาง หากต้องการฝึกตนเป็นเทพมาร อย่างน้อย ๆ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยร้อยปีขึ้นไป
แต่เขาอายุเพียง 50 ปีก็สามารถบรรลุถึงระดับเทพมารได้ ภายในระยะเวลาร้อยปี ก็บรรลุถึงเทพฟ้า!
หลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงเทพฟ้า เขาก็ได้กลายเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์เทพสงคราม นำเผ่าพันธุ์เทพสงครามก่อสงครามต่อโลกพิภพครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อรบชนะหนึ่งครั้งก็ต่อสู้กับรายต่อไปที่แข็งแกร่งกว่า
คู่ต่อสู้ของเขาไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ไม่ใช่เทพฟ้า แต่กลับแพ้ด้วยน้ำมือของเขา ในตอนที่เขามีอายุได้หนึ่ง 1300 ปี เขาได้ต่อสู้ครบ 100 โลกพิภพระดับกลางและไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อีก หลังจากนั้นก็บรรลุถึงแดนขั้นสูงของเทพฟ้า!
เขาได้รับการกล่าวขานจากโลกว่าเป็น เทพสงครามเวหากาล ผู้ปกครองโลกพิภพนับร้อย
วันเวลาล่วงเลยไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขารู้สึกถึงความเหงาที่ไม่มีคู่ต่อสู้ ถึงแม้จะมีคนมาท้าทายเขา แต่กลับไม่มีใครที่สามารถทำให้เขาออกแรงทั้งหมดได้
เขาต้องการโจมตีระดับที่บรรลุถึงเทพฟ้า ยึดครองตำแหน่งราชาเทพ!
ดังนั้นเขาจึงทรงสละตำแหน่งอันทรงเกียรติอย่างเด็ดเดี่ยว และมุ่งหน้าสู่โลกพิภพระดับสูง
ต่อมาเขาได้มีโอกาส ที่สามารถทำให้เขาสามารถเข้าร่วมทัพราชาเทพ กระทั่งได้โอกาสเหยียบขึ้นไปในระดับที่บรรลุถึงที่สูงขึ้น!
แต่ก็เพราะว่าเขาขัดขากองกำลังใหญ่แห่งโลกพิภพระดับสูง โดยไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงใช้เผาผลาญผลการฝึกตนเป็นราคาที่ต้องจ่าย บดขยี้โซน กลับลงมาที่โลกพิภพระดับกลาง
จากโลกพิภพระดับล่างเข้าไปถึงโลกพิภพระดับสูงนั้นไม่ยาก แต่หากจะลงมาจากโลกพิภพระดับสูงเข้าสู่โลกพิภพระดับล่างนั้น กลับจำเป็นต้องชดใช้ด้วยมูลค่าที่สูงลิบ
เพราะว่าเขาสูญเสียผลการฝึกตน ตกลงมาอยู่ในระดับเทพฟ้าช่วงปลาย
ถึงอย่างนั้น เขาก็เชื่อว่าพลังการต่อสู้ของตนเองก็มากพอที่จะต่อกรกับศัตรูทุกคนในโลกพิภพระดับกลางได้