มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 798
“ถูกต้อง ข้าคิดว่าควรให้เขามอบสมบัติวิเศษชิ้นนั้นออกมา ให้พวกเราแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เป็นคนดู
แล มิเช่นนั้นหากยังเก็บเอาไว้กับเขา มันจะอันตรายเกินไป” มหาจักรพรรดิยุทธ์ของนิกายมารศักดิ์สิทธิ์เองก็ได้เอ่ยขึ้นเช่นกัน
ในเรื่องนี้ สี่แดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ได้บรรลุข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เพราะไม่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ใดก็ตามกะครอบครองเพียงลำพังไม่ได้ มิเช่นนั้นจะได้รับการกดดันจากอีกสามแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่เหลือ
คนของแต่ละแดนศักดิ์สิทธิ์วาทะเต็มไปด้วยสัจธรรม พวกเขาทราบเป็นอย่างดีว่ามีเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงนี้ คิดจะสังหารหลัวซิวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่ให้เขามอบม้วนหยกออกมา
เป็นธรรมดาที่หลิงหงเทียนจะรู้เรื่องม้วนหยก เขารู้แม้กระทั่งว่า ม้วนหยกนี้เป็นสมบัติวิเศษที่ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าแห่งพิภพกลางได้ทิ้งเอาไว้ ในนั้นอาจบันทึกเบาะแสที่สำคัญเอาไว้
ทว่าหลิวหงเทียนกลับทราบเป็นอย่างดี เทวทูตจื่อเยียนให้ความสำคัญกับหลัวซิวผู้นี้มาก นอกเสียจากหลัวซิวจะยอมนำออกมาเอง มิเช่นนั้นเขาเองก็ไม่อาจแย่งม้วนหยกมาจากหลัวซิวได้
“ของนั่นมันเป็นของหลัวซิว แม้แต่ข้าเองก็ไม่มีสิทธิ์ให้เขามอบมันออกมาได้” หลิวหงเทียนกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก นับว่าเป็นการแสดงจุดยืนของตนแล้ว
เหมือนคนของแดนศักดิ์สิทธิ์อยากจะพูดอะไรอีก กลับเห็นว่าหลิวหงเทียนได้โบกมือ: “ที่ควรพูด ข้าก็ได้พูดไปหมดเรียบร้อย พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว”
หลังจากคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ได้จากไป หลิงหงเทียนก็ได้หันไปหาหลัวซิว “เจ้าหนุ่ม แม้ว่าข้าจะได้ออกหน้า แต่ก็ใช่ว่าคนของแดนศักดิ์สิทธิ์จะละมือ ม้วนหยกที่เจ้าได้มาชิ้นนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ไม่ได้มีเพียงเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้นที่อยากได้มัน เผ่าพันธุ์มารและเผ่าพันธุ์ปีศาจล้วนจะลงมือต่อเจ้าเช่นกัน ความกดดันของเจ้ามีไม่น้อยเลย”
หลัวซิวได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม: “เหตุใดพวกเขาถึงต้องการม้วนหยกนั่นเล่า?”
“หลายหมื่นปีก่อน เผ่าพันธุ์ปีศาจได้มายังโลกแสงดาว เพื่อตามหาของบางอย่าง การปรากฏของแผ่นหยกสีทองในครั้งนี้ เผ่าพันธุ์ปีศาจเองก็ได้เข้ามาร่วมด้วย แต่ละแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มารได้คาดเดาว่าสิ่งที่เผ่าพันธุ์ปีศาจตามหา มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับม้วนหยกนั่นและเกราะนักยุทธ์ทอง”
หลิวหงเทียนมีฐานะเป็นเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์พูดได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกแสงดาว เป็นธรรมดาที่ความลับที่ได้รับรู้นั้นจะมากกว่าผู้อื่น
อย่างไรก็ตามจากน้ำเสียงและท่าทางของหลิวหงเทียนเจ้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ทำให้หลัวซิวมองออกมาว่า เขาอาจจะรู้ถึงประวัติบางอย่างของม้วนหยกชิ้นนี้ แต่มิได้รู้ถึงความลับที่แท้จริงของมัน
และความลับที่แท้จริงนั้น ถึงเป็นสิ่งสำคัญ มีส่วนเกี่ยวข้องถึงสมบัติวิเศษและโอกาสที่เทพสงครามเวหากาลได้รับในพิภพสูง
“ตอนนี้ข้าได้กลายเป็นเป้าหมายของผู้คนไปเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือเผ่าพันธุ์มารและเผ่าพันธุ์ปีศาจต่างก็ต้องการแย่งชิงม้วนหยกชิ้นนี้ไปจากข้า ข้าจะต้องพัฒนาความแข็งแกร่งและแดนฝึกตนของข้าโดยเร็ว”
หลัวซิวรู้สึกถึงความกดดัน คิดว่าเวลาที่มีให้ตัวเองได้พัฒนาความแข็งแกร่งนั้นมีไม่มากแล้ว
หากมอบม้วนหยกนั่นออกไป แน่นอนว่าจะสลัดหลุดจากอันตรายได้ ทว่าหลัวซิวเองก็มีความสนใจในสมบัติวิเศษและโอกาสที่เทพสงครามเวหากาลได้รับเช่นเดียวกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบมันออกไป
หลิวหงเทียนไม่รู้ถึงสิ่งที่หลัวซิวคิดอยู่ในตอนนี้เลย เขากล่าวขึ้นมาอย่างช้า ๆ : “ที่ข้าออกหน้าในครั้งนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการไว้วานจากเทวทูตจื่อเยียน ให้ข้าส่งเจ้าไปยังแดนดารานอก”
“แดนดารานอก?” หลัวซิวงงงัน
“แดนดารานอกนั้นเป็นหนึ่งในสองสถานที่ฝึกประสบการณ์ที่ลึกลับของโลกแสงดาวเรา นอกจากแดนดารานอกแล้ว ก็ยังมีโลกแสงดาวเกณฑ์กฎ”
หลิวหงเทียนกล่าวอย่างช้า ๆ “แต่เดิมแดนดารานอกเป็นพิภพต่ำแห่งหนึ่ง แต่ได้แตกสลายไปในกาลเวลาอันแสนนานที่ผ่าน จึงไม่เหมาะที่จะอาศัยฝึกตนอยู่ด้านใน และยังมีสัตว์ร้ายทรงพลังที่สามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายอยู่มากมาย”
บทที่ 797
บทที่ 799