มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 833
“ของวิเศษระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์งั้นหรือ?”
ผู้แข็งแกร่งจากหลายอิทธิพลก็สีหน้าเปลี่ยน เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าบนตัวหลัวซิวจะมีของวิเศษระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์อยู่ด้วย
และสิ่งที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายตกใจมากกว่านั้นก็คือ ผลการฝึกตนของเขายังไม่ถึงแดนเจ้ายุทธจักรเสียด้วยซ้ำ แต่สามารถใช้งานของวิเศษได้เสียอย่างนั้น?
“ผลการฝึกตนของเจ้านี่ อย่างมากก็อยู่ที่แดนมหายุทธ์ ด้วยผลการฝึกตนของเจ้านี่ ก็สามารถใช้งานพลังจากของวิเศษระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้เล็กน้อย ถ้าเจ้านี่ถึงแดนเจ้ายุทธจักรล่ะก็ เกรงว่าจะสามารถใช้งานพลังของวิเศษได้หมดเลย พลังการต่อสู้ก็จะเทียบเท่าระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เลย”
“คนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าให้มันได้เติบโตมากยิ่งขึ้นล่ะก็ จะต้องมีใจเคียดแค้นต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์เราอย่างแน่นอน”
ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็บังเกิดใจคิดอาฆาตกันขึ้นมา เจ้ายุทธจักรดาราตะโกนขึ้นว่า “ทุกท่านมาช่วยข้ากระตุ้นของดาราจักรพรรดิที”
“ได้!”
ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็ตอบรับ พลังจิตแท้ทั้งหลายก็ถ่ายทอดออกไป พลังดาราก็ขยายมากขึ้น และเคลื่อนไหวเร็วขึ้นมาก ใหญ่เต็มท้องฟ้า เข้าใกล้หลัวซิวมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ความเร็วของปีกทิพย์ไร้มลทินก็ยังหนีไม่พ้น
โครม!
ระเบิดกระจาย ดาราจักรพรรดิสีทองตกลงใส่ตัวหลัวซิว เหมือนดาวอุกกาบาตตก
หลัวซิวก็ใช้ตำหนักเสวียนดำออกมาตั้งรับอีกครั้ง ถึงแม้ตำหนักเสวียนดำจะเป็นของวิเศษขั้นสูง แต่เนื่องจากผลการฝึกตนของหลัวซิวมีจำกัด ก็เลยแสดงพลังได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีทางเทียบกับพลังของดาราจักรพรรดิสีทองได้
ดังนั้น มันก็เลยถูกโจมตีกระเด็นออกไปอีกครั้ง กระแทกที่สะท้อนกลับมา ทำให้เขาเลือดออกทั้งปากและจมูก เลือดลมได้รับแรงกระทบกระเทือน
“เจ้าเด็กน้อย เจ้าเป็นปฏิปักษ์กับแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็เหมือนรนหาที่ตาย ฝืนอาณัติสวรรค์”
ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลานไร้ปรานี เงาร่างหนึ่งก็ยืนอยู่บนดาราจักรพรรดิสีทอง รังสีการฆ่าพลุ่งพล่าน
“ได้จบชีวิตภายในดาราจักรพรรดิ ถือว่าชาตินี้เจ้าเกิดมาไม่เสียดายแล้ว” เจ้ายุทธจักรดารามีแสงเปล่งออกมาทั่วกาย ราวกับเทพเจ้ากำลัง พิพากษามนุษย์ที่กระทำผิด
“พวกคนแก่ที่มีชีวิตอยู่มาแล้วหลายพันปีร่วมมือกันตามฆ่าผู้อายุน้อยกว่า บัญชีนี้ ข้าหลัวซิวจดจำมันไว้แล้ว!”
สีหน้าของหลัวซิวก็เย็นชาสุดขีด เรื่องที่เขามายังแดนดารานอก นอกจากเขาแล้ว ก็มีแต่เจ้าแดนหลิวหงเทียนที่รู้ และแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รู้เรื่องได้อย่างไรกัน?
ตัวเขาเองไม่มีทางขายตนเองเป็นแน่ แล้วปัญหาจะต้องอยู่ที่ตัวของหลิวหงเทียนแน่นอน
“ไอ้เดรัจฉาน จะตายอยู่รอมร่อยังจะปากดีอีก เจ้าคิดว่าวันนี้จะรอดไปได้อีกอย่างนั้นรึ?”
“เอาของออกมาเสียดีๆ จะไว้ชีวิตเจ้า” ผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักรนับร้อยยืนอยู่บนดาราจักรพรรดิ ล้วนมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง
“ฮ่าๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์ชอบการต่อสู้ ไอ้น้อง แดนศักดิ์สิทธิ์เผ่าพันธุ์มนุษย์พวกนี้อยากจะฆ่าเจ้า เจ้ามาเข้าร่วมกับเผ่าพันธุ์ปีศาจกับพวกเราดีกว่า”
ทันใดนั้นอากาศถูกเผาไหม้ อสูรตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาในอากาศ ตัวยาว300กว่าเมตร บนหลังมีผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์ปีศาจหลายคนแพร่กลิ่นอายมารออก
อสูรที่น่ากลัวนี้ คือหุ่นเชิด เผ่าพันธุ์ปีศาจถ่ายทอดและฝึกวิชาค่ายกลจำพวกหุ่นเชิด
การปรากฏตัวขึ้นของคนของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ทำให้ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
การปรากฏตัวขึ้นของเผ่าพันธุ์ปีศาจ เห็นได้ชัดว่าจะแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จากแดนศักดิ์สิทธิ์ หุ่นเชิดอสูรที่สูงใหญ่300กว่าเมตรนั้น มีพลังเทียบกับระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้เลย
หุ่นเชิดระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น9!
“เผ่าพันธุ์ปีศาจสมควรตายจริงๆ !”
ท้องฟ้าก็ถูกฉีกออกอีกครั้ง ผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มารหายตัวเข้ามา จ้องมองคนของเผ่าพันธุ์ปีศาจด้วยความโมโห พลังอาฆาตพุ่งพล่าน
เพราะว่าหุ่นเชิดอสูรที่เผ่าพันธุ์ปีศาจบังคับอยู่นี้ คือหุ่นที่สร้างขึ้นมาจากจักรพรรดิอสูรตนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มารในอดีต
สงครามพ้นพิบัติในอดีต ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มารตายไปไม่น้อย ศพก็ถูกเผ่าพันธุ์ปีศาจแย่งชิงไปสร้างเป็นหุ่นเชิด