เป็นพิภพต่ำเช่นเดียวกัน ความสามารถโดยรวมของโลกเชิ่งถิงยังห่างชั้นจากโลกแสงดาวอยู่ ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ไม่ได้จะเจอได้ง่ายๆ
อีกทั้งตามความสามารถและฐานะของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้วก็จะไปลงมืออย่างง่ายดาย
“เจ้าเด็กบ้า ความตายรออยู่ตรงหน้าแล้วยังจะกล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำอีก!” มีคนตะโกนเยาะเย้ย
ร่างของหลัวซิวแค่ขยับเล็กน้อย วินาทีถัดมาก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของคนผู้นั้น นิ้วมือเคลื่อนขึ้นเหนืออากาศเพียงนิดเดียว เสียงงึมงำดังขึ้นเจาะทะลวงไปยังหว่างคิ้ว แล้วร่างก็ล่วงลงมาจากท้องฟ้า
“ฆ่าเขาซะ!”
ศึกครั้งใหญ่ก็ถูกจุดประกายขึ้นในบัดดล ยอดฝีมือเผ่าเทพหลายท่านต่างพากันลงมือ อาวุธขลังทุกรูปแบบ วิชายิ่งเลิศทักษะยุทธ์พุ่งอย่างมืดฟ้ามัวดินไปทางหลัวซิว
ความสามารถของคนเหล่านี้ไม่สามารถคุกคามหลัวซิวได้เลย เขาปกป้องร่างกายของเขาด้วยพลังแห่งกฎ การโจมตีของคนเหล่านี้ไม่สามารถทำลายเกาะป้องกันของเขาได้เลย
แต่เมื่อทุกครั้งที่เขาลงมือโจมตีกลับไม่มีใครรับมือได้เลย คนที่แส่หาเรื่องก็ต้องตาย
“ตายซะให้หมด!”
หลัวซิวเฉยเมยและไร้ความปรานี ดีที่เลือกเดินบนเส้นทางการฝึกยุทธ์สายนี้มานานแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาก็ถูกสังหารไปนานแล้ว
อาณาจักรแห่งกฎได้ถูกปลดปล่อยอีกครั้ง นำยอดฝีมือเผ่าเทพหลายร้อยคนที่ไล่สังหารมาจากเมืองทองคำทั้งหมดถูกปกคลุมอยู่ภายในขอบเขตของอาณาจักร
ปัง! ปัง! ปัง!……
ร่างทีละร่างแตกออกเป็นหมอกเลือด จากนั้นกลายเป็นพละกำลังสีขาวลอยเข้าสู่ร่างของหลัวซิว
ยอดฝีมือระดับเจ้ายุทธจักรสิบกว่าคนไม่ได้ถูกสังหารจากพลังของอาณาจักร แต่ก็หนีไม่ทันแล้ว จึงถูกหอกรบมังกรดำที่มือของหลัวซิวจัดการกันคนละหอก ถูกทิ่มแทงจนตาย
พละกำลังนับร้อยเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะยิ่งเป็นคนของเผ่าเทพพวกนี้ด้วย ในนั้นมีคนไม่น้อยที่มีพลังฝึกตนชีวิต พละกำลังชีวิตแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนธรรมดาสามัญมาก
มีตัวช่วยจากพละกำลังชีวิตพวกนี้แล้ว วรยุทธ์วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพในร่างกายของหลัวซิวกำลังทำงานด้วยตัวมันเอง ผลการฝึกปราณแท้ก็เริ่มไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ
“แดนมหายุทธ์ขั้น 5!”
หลัวซิวนึกไม่ถึงว่าการฝึกตนที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจนั้นคิดไม่ถึงว่าจะเพียงแค่อาศัยการสังหารคน ผลการฝึกตนก็พัฒนาขึ้นไปได้บ้างเล็กน้อย
“เจ้าไม่ใช่คนแห่งโลกเชิ่งถิง!”
มีชายหนุ่มวัยกลางคนสีหน้าจริงจังเคร่งขรึมผู้หนึ่งเคลื่อนตัวมาจากที่ไกลโพ้นแล้วก้าวมาตรงหน้า ท่าทางนิ่งสงบ สวมชุดคลุมยาวสีทอง เกศาสีบลอนด์พลิ้วไหวไปกับลม
คนผู้นี้ล่องหนอยู่ในความว่างเปล่า มือไขว้หลัง มีกลิ่นอายของพลังที่น่าเกรงขามปกคลุมอยู่รอบตัว
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ผมดำแห่งโลกเชิ่งถิงไม่มียอดฝีมือแบบเจ้าเช่นนี้ ก็มีผู้ฝึกตนถึงแดนเจ้ายุทธจักรบ้างในบางครั้ง แต่เยอะสุดก็คงไม่เกินเจ้ายุทธจักรช่วงกลาง”
ชายวัยกลางคนผู้นี้จ้องไปยังหลัวซิวด้วยดวงตาที่แหลมคม “มีเพียงเผ่าพันธุ์มนุษย์ผมดำของโลกอื่นถึงจะมีความสามารถอย่างเจ้าเช่นนี้ ที่แท้แล้วเจ้าเป็นใครกัน? เหตุใดจึงบุกเข้ามาในโลกเชิ่งถิงของพวกเรา มีแผนชั่วอะไรกันแน่? ”
“เจ้าเป็นใครอีกล่ะ? แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ใช้จอมยุทธ์แห่งโลกเชิ่งถิง? หรือว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ผมดำจะปรากฏผู้แข็งแกร่งไม่ได้งั้นหรือ?” สีหน้าของหลัวซิวไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร
“ข้าเป็นถึงเจ้าเมืองทองคำ สำหรับเจ้าแล้วจะเป็นหรือไม่เป็นจอมยุทธ์ของโลกอื่นนั้นไม่สำคัญเลย เพราะว่าเจ้าสังหารคู่หมั้นเทพ ยังไงเสียวันนี้ก็ต้องตาย!”
ท่าทีของเจ้าเมืองทองคำนั้นเย็นชามาก ฝ่ามือข้างหนึ่งยื่นออกไปก็ปกคลุมโลกด้านหนึ่งไว้ในบัดดล
ท่าทีของหลัวซิวนั้นดูเคร่งขรึม ความสามารถของเจ้าเมืองทองคำผู้นี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง อีกทั้งดูเหมือนว่าจะเป็นจอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญร่างยุทธ์ร่างเนื้อ แสงสีทองส่องอยู่ที่หว่างนิ้ว พละกำลังอย่างหาที่สุดมิได้สามารถบดขยี้ความว่างเปล่าได้
แค่พละกำลังตอนเริ่มลงมือ หลัวซิวก็สามารถมองออกคร่าวๆ แล้วว่านี่คือผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักรขั้น 9 แม้ว่าความสามารถจะยังห่างชั้นจากเจ้ายุทธจักรอนาคินขั้น 1 แต่ก็ไม่มากนัก
ก็คงมีเพียงยอดฝีมือที่มีความสามารถระดับนี้ถึงจะมีคุณสมบัติปกครองเมืองได้ ปกป้องเมืองทองคำได้
หอกรบมังกรดำในมือหลัวซิว มังกรดำพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า แทงไปยังพลังฝ่ามือขนาดมหึมาที่ปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน