มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 894
เลิร์น เป็นหนึ่งในเจ้ายุทธจักรที่มีศักยภาพสูงมากที่สุดในตำหนักเทวมืด เป็นผู้แข่งขันแย่งตำแหน่งเทพบุตรมืด
กระบี่เทวมืดมีความสำคัญเป็นพิเศษในตำหนักเทวมืด ใครก็ตามที่ควบคุมมัน ถือเป็นสัญลักษณ์ของฐานะและความแข็งแกร่ง
ให้บาเค่อครอบครองกระบี่เทวมืด สำหรับเลิร์นก็หมายความว่าเป็นเขาที่ได้รับสถานะเป็นเทพบุตรมืดอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับบาเค่อแล้ว นี่คือบททดสอบอย่างหนึ่งว่าเขาจะครอบครองกระบี่เทวมืดได้หรือไม่ จะเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะได้เป็นเทพบุตรมืดในรุ่นนี้หรือไม่
ในการกลายเป็นเทพบุตรมืด จะได้รับการสืบทอดหลักและการฝึกฝนจากตำหนักเทว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นเทพมารในอนาคต หรืออย่างน้อยก็จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับสูงสุดในหมู่มหาจักรพรรดิยุทธ์
เช่นเดียวกับเอริค เหตุผลที่เขาสามารถแข็งแกร่งได้มากเช่นนี้ ก็เพราะความสามารถและพอสวรรค์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ในทางกลับกัน เพราะเขาคือเทพบุตรแห่งวิมานเทวสว่าง ทรัพยากรสมบัติทุกอย่างจะถูกนำไปให้เขา
“เหอะ เหอะ ข้าคิดว่าสิ่งที่เลิร์นพูดนั้นสมเหตุสมผล ใครที่แข็งแกร่งกว่าก็มีคุณสมบัติที่จะครอบครองกระบี่เทว”
“ถูกต้อง แม้ว่าคนบางคนจะมีสถานะพิเศษ แต่เนื่องจากสถานะก็สามารถครอบครองกระบี่เทวได้ ข้า แซคเป็นคนแรกที่ไม่ยอม!”
เจ้ายุทธจักรหลายคนจากตำหนักเทวมืดก้าวออกมาทีละคน ทุกคนจ้องมองบาเค่อด้วยสายตารุ่มร้อน พูดให้ถูกก็คือจ้องไปที่กระบี่เทวมืดที่เขาครอบครองอยู่
เจ้ายุทธจักรคนหนึ่ง ถ้ามีนักยุทธ์เทพมารอยู่ในมือ แม้ว่าเขาจะใช้พลังออกมาเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์หวาดหวั่น!
พลังอันทรงพลังเป็นนิรันดร์ นี่คือลัทธิสูงสุดของค่ายมืด ดังนั้น แต่ละคนจึงต้องการเป็นผู้ครอบครองกระบี่เทวมืด เพราะการครอบครองกระบี่เทวมืดนั้น พวกเขาก็สามารถมีพลังที่แข็งแกร่งได้
วินาทีนี้ บาเค่อรู้สึกกดดันอย่างมาก แม้ว่าเขาจะมีผลการฝึกตนเป็นเจ้ายุทธจักรขั้น 8 แต่เจ้ายุทธจักรทุกคนที่ก้าวออกมาท้าท้าย ก็ไม่อ่อนแอไปกว่าเขา
หลัวซิวมองไปที่คนไม่กี่คนที่ก้าวออกมาที่ต้องการแย่งชิงการครอบครองกระบี่เทวมืด นับบาเค่อด้วย มีเจ้ายุทธจักรทั้งหมดหกคน ซึ่งแต่ละคนมี เจ้ายุทธจักรขั้นปลาย และอีกสองคนมีผลการฝึกตนถึงเจ้ายุทธจักรขั้น 9 แข็งแกร่งกว่าบาเค่อ
ความแข็งแกร่งของบาเค่อ อยู่ในตำแหน่งได้แค่ระดับกลางขั้นไปของคนเหล่านี้เท่านั้น
“ไม่น่าแปลกใจที่ลีน่าและเก๋อฟู จัดให้ข้ามาช่วยเหลือบาเค่อในการแย่งชิงตำแหน่งเทพบุตรมืด หากไม่มีเหตุบังเอิญ ด้วยความแข็งแกร่งของบาเค่อเอง จะเป็นการยากมากที่จะกลายเป็นเทพบุตรมืด” หลัวซิวครุ่นคิดอยู่ในใจ
เขาไม่เคยคิดที่จะไปแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งเทพบุตรมืด เพราะทั้งลีน่าและเก๋อฟูรู้ว่าเขาไม่ใช่คนของโลกนี้ และตำหนักเทวมืดก็จะไม่ให้คนนอกอย่างเขากลายเป็นเทพบุตรมืด
“บาเค่อ กล้าออกมาสู้กับข้าอย่างลูกผู้ชายหรือไม่ แค่เจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ข้าจะไม่สงสัยถึงสิทธิ์ในการครอบครองกระบี่เทวมืดของเจ้าอีกต่อไป!”
“หากเจ้าแพ้หรือไม่กล้าต่อสู้ จงรีบมอบกระบี่เทวมืดออกมา!”
ชายสองคนที่มีผลการฝึกตนเจ้ายุทธจักรขั้น 9 เริ่มส่งเสียงโห่ร้องเพื่อยั่วยุ ในบรรดาคนเหล่านี้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าจะเอาชนะบาเค่อได้
“เพียงขยะอย่างพวกเจ้า ก็มีคุณสมบัติที่จะท้าทายท่านชายบาเค่อหรือ?”
เมื่อบาเค่อกำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จู่ๆ หลัวซิวก็ก้าวออกมาพร้อมกวาดสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามไปยังเจ้ายุทธจักรแห่งตำหนักเทวมืด
“เจ้าเป็นใคร ที่กล้าพูดเช่นนี้?” เจ้ายุทธจักรหลายคนโกรธจัด และเจตนาฆ่าของพวกเขาพุ่งเข้าหาหลัวซิว
“ข้าเป็นองครักษ์ของท่านชายบาเค่อ พวกเจ้าอยากท้าทายท่านชายบาเค่อก็ได้ แต่พวกเจ้าต้องผ่านด่านข้าไปให้ได้ก่อน!”
หลัวซิวกล่าวอย่างผยองและเย็นชาว่า “ถ้าพวกเจ้ายังเอาชนะข้าไม่ได้ แล้วจะมีสิทธิ์อะไรมาท้าทายท่านชายบาเค่อ?”