นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

สวีหว่านเอ๋อร์เดินไปข้างๆฮ่อหยุนเฉิงและจ้องไปที่ซูฉิงด้วยความอิจฉา
จากนั้นดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความหลงไหลก็จ้องไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิง “หยุนเฉิง ฉันได้เห็นข่าวว่าฮ่อกรุ๊ปเกิดปัญหาขึ้นนี้ ถ้าหากมีความจำเป็น สวีของเราสามารถ… …”
“ไม่จำเป็น!” ก่อนที่สวีหว่านเอ๋อร์จะพูดจบ เธอก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเย็นชาของฮ่อหยุนเฉิง
รอยยิ้มของสวีหว่านเอ๋อร์ก็เจื่อนลงทันที เธอกล่าวต่อ “แต่ฉันอ่านข่าว เป็นเพราะเหตุการณ์ ‘น้ำแข็งและไฟ’ ราคาหุ้นของฮ่อกรุ๊ปเลยลดลงมาก ถ้าหากฮ่อกรุ๊ปกับสวีกรุ๊ปมาร่วมมือกันก็จะเป็นเรื่องที่ดี และฉันเชื่อว่า เมื่อถึงตอนนั้นราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
“ทำไม คุณคิดว่าฮ่อกรุ๊ปต้องอาศัยสวีกรุ๊ป เพื่อขึ้นราคาหุ้นงั้นเหรอ?” ริมฝีปากบางของฮ่อหยุนเฉิงงอเล็กน้อยและดวงตาของเขามองไปที่สวีหว่านเอ๋อร์ ด้วยความเย็นชา
ลมหายใจเย็นเฉียบของฮั่วหยุนเฉิงพุ่งไปที่ใบหน้าของเธอ สวีหว่านเอ๋อร์กัดริมฝีปากของเธอ น้ำเสียงของเธอดูเศร้าเล็กน้อย “หยุนเฉิง ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันแค่อยากจะช่วยคุณ…”
“ผมไม่ต้องการ” ใบหน้าที่เย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงราวกับสามารถแช่แข็งผู้คนในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ และเขาพูดอย่างไม่ไยดี “ผมยังมีเรื่องต้องทำ คุณกลับไปเถอะ”
สวีหว่านเอ๋อร์กระทืบเท้าของเธอด้วยความโกรธ จากนั้นก็มองไปที่ซูฉิงอย่างเกลียดชังก่อนที่จะหันหลังกลับและจากไป
ทำไมไม่ไปตามเธอล่ะ? “ซูฉิงเหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ด้านข้างและเธอขยับปากพูดเบาๆ
ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเบาๆ “ทำไมเธอต้องการให้ฉันไล่ตามล่ะ?”
“เธอตั้งใจมาที่นี่เพื่อที่จะช่วยนาย นายกลับปฏิบัติกับเธอแบบนี้ ไม่กลัวที่จะทำร้ายหัวใจของคุณสวีเหรอ?” น้ำเสียงของซูฉิงแสดงความหึงหวงเล็กน้อย โดยที่เธอไม่ได้สังเกต
เมื่อใดที่เธอนึกถึงฉากของฮ่อหยุนเฉิงและสวีหว่านเอ๋อร์เต้นด้วยกันในวันนั้น หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความร้อนรน
“นั่นสินะ” ฮ่อหยุนเฉิงกุมใบหน้าของเขาไว้ ด้วยมือข้างหนึ่งและแสร้งทำเป็นถามสองสามวินาที “ถ้าอย่างนั้น ฉันคงต้องตามเธอไปจริงๆ”
เมื่อกล่าวเช่นนั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็ยืนขึ้น
เมื่อเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงวางแผนจะไล่ตามสวีหว่านเอ๋อร์จริงๆ ซูฉิงก็โพล่งออกมาโดยไม่ได้ทันคิดว่า “ฮ่อหยุนเฉิง ถ้านายกล้าที่จะไล่ตามสวีหว่านเอ๋อร์ไปก็ลองดู!”
คำพูดที่แสดงความหึงหวงของซูฉิงเข้ามาในหูของฮ่อหยุนเฉิงอย่างชัดเจน เขาหัวเราะเบา ๆ “ซูฉิง นี่คุณกำลังหึง”
ซูฉิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะอายเล็กน้อย
เป็นอะไรของเธอนะ มักจะปล่อยให้ฮ่อหยุนเฉิงคอยจูงจมูกอยู่เรื่อย
ความรู้สึกนี้มันอึดอัดจัง!
ซูฉิงอดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิงอย่างโกรธเคือง “หึงอะไรกัน!”
ฮ่อหยุนเฉิงเม้มริมฝีปากของเขา โน้มตัวเข้าใกล้หูของซูฉิง และเสียงอันน่าดึงดูดของเขาก็ดังขึ้น “ซูฉิง ที่ฉันเต้นรำกับสวีหว่านเอ๋อร์ในวันนั้น ก็เพราะว่าฉันโกรธที่เธอกับเฉินจุนเหยียนอยู่ด้วยกัน”
ลมหายใจที่อ่อนโยนของเขาแผ่กระจายไปที่คอของซูฉิง ทำให้ซูฉิงรู้สึกจั๊กจี้
ซูฉิงผลักฮ่อหยุนเฉิงออกไปโดยไม่รู้ตัว ในใจของเธอแอบเต้นเล็กน้อย…
ฮ่อหยุนเฉิงกำลังอธิบายเรื่องนี้กับเธอเหรอ?
มีความอบอุ่นที่อธิบายไม่ได้ภายในหัวใจของเธอ เธอหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “นายสามารถจะเต้นกับใครก็ได้ที่คุณชอบ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเข้มขึ้น นัยน์ตาลึกเหมือนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ขนาดที่สามารถทำให้คนจมน้ำได้
เสียงทุ้มและหวานของเขาฟังดูเหมือนเชลโลที่เล่น “หลังจากนี้ฉันจะเต้นรำกับเธอคนเดียวเท่านั้น”
ชูฉิงส่ายหัวครู่หนึ่ง
แต่ว่า——
ซูฉิงโค้งมุมปากของเธออย่างเย้ยหยัน “แล้วถังถังล่ะ ถ้าวันหนึ่งถังถังกลับมา นายจะเต้นรำกับเธอไหม”
ถังถัง……
ฮ่อหยุนเฉิงเงียบ
ใจของซูฉิง ก็ค่อยๆจมลงทีละน้อย
ความเงียบของฮ่อหยุนเฉิง ได้ให้คำตอบที่ดีที่สุดแก่เธอแล้ว
ซูฉิงหัวเราะเยาะตัวเอง เธอเองก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
ในใจของฮ่อหยุนเฉิง เธอเป็นเพียงเงาของถังถัง
เพื่อกำจัดอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้เหล่านี้ ซูฉิงชี้ไปที่เอกสารบนโต๊ะและพูดอย่างเย็นชาว่า “เอาเวลาไปดูเอกสารข้อมูลพวกนี้เถอะ งานแถลงข่าวตอนบ่ายเราจะพลาดไม่ได้ ฉันจะกลับไปทำงานก่อน”
หลังจากที่ซูฉิง พูดคำเหล่านี้เสร็จ เธอก็หันหลังและจากไป
บ่ายสองโมง งานแถลงข่าวจะเริ่มตรงเวลา
ณ ห้องประชุม ผู้สื่อข่าวต่างก็เตรียมพร้อม ติดอาวุธด้วยปืนยาวและปืนสั้น เพื่อยึดภูมิประเทศที่เอื้ออำนวย เพราะกลัวว่าจะพลาดข่าวแรกไป
ซูฉิงนั่งอยู่ตรงมุมห้องเงียบๆ มองดูชายที่พร่างพรายนั่งอยู่บนพลับพลาที่กำลังมองลงมาจากมุมสูงดูสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ
ภายใต้การจ้องมองทุกคนที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ฮ่อหยุนเฉิงยืนขึ้นและกระแอมในลำคอ “ยินดีต้อนรับสู่งานแถลงข่าวของฮ่อกรุ๊ป”
เขาหยุดสักครู่ แล้วพูดต่อ “เนื้อหาหลักของงานแถลงข่าวนี้คือการแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันและคำอธิบายต่อเหตุการณ์ ‘น้ำแข็งและไฟ’ที่ผ่านมา อย่างที่เราทราบกันดีว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีหลายเหตุการณ์เกิดจากการสวมเครื่องประดับ ‘น้ำแข็งและไฟ’ ของฮ่อกรุ๊ป ฮ่อกรุ๊ปให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเหตุการณ์นี้ หลังจากการทดสอบที่ผ่านมาหลายวัน เราพบว่าเครื่องประดับที่เป็นปัญหานั้นมาจากสาขาในฝรั่งเศส และ ‘น้ำแข็งและไฟ’ ที่ผลิตโดยสำนักงานใหญ่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น นี่คือรายงานการทดสอบของเรา ”
ฮ่อหยุนเฉิงหันไปมองหลินเหยียนเฟิง หลินเหยียนเฟิงก็เข้าใจได้ทันทีและแสดงรายงานการทดสอบให้ทุกคนทราบ “นี่คือรายงานการทดสอบขององค์กรที่เชื่อถือได้ ผลการทดสอบพิสูจน์ว่าเครื่องประดับที่ผลิตในสำนักงานใหญ่ภายนอกนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน คุณสามารถซื้อและสวมใส่ได้อย่างมั่นใจ ”
นักข่าวอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ขอโทษนะคุณฮ่อ เนื่องจาก ‘น้ำแข็งและไฟ’ ที่ผลิตโดยโรงงานสาขาในฝรั่งเศสของบริษัทคุณได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีปัญหา คุณจะดำเนินการอย่างไร”
ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างจริงจังว่า “เราได้เรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องทั้งหมดและดำเนินการทำลายโดยปราศจากมลภาวะ สำหรับสาเหตุของเหตุการณ์นี้ ผมจะไปฝรั่งเศสเพื่อตรวจสอบด้วยตนเอง และผมจะไม่ให้อภัยผู้ที่กระทำความผิดของเหตุการณ์นี้!
สำหรับลูกค้าที่เคยใส่ “น้ำแข็งและไฟ” แล้วถูกพิษ พนักงานของฮ่อกรุ๊ปของเราได้ติดต่อรและเจรจากับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทั้งหมด และได้ทำข้อตกลงเรื่องค่าชดเชยแล้ว ผมกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจต่อพวกเขา ณ ที่นี้ด้วยครับ! ”
คำกล่าวของฮ่อหยุนได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมทุกคนที่อยู่ในที่ประชุม
นักข่าวถามคำถามอีกสองสามข้อ “ขอโทษนะคุณฮ่อ คุณมีคำอธิบายเกี่ยวกับปัญหาในฝรั่งเศสไหมคะ?”
“พรุ่งนี้ผมจะไปฝรั่งเศสเป็นการส่วนตัวเพื่อสอบสวนและค้นหาความจริงโดยเร็วที่สุด หากได้รับการยืนยันว่ามีปัญหาภายในฮ่อกรุ๊ปจริงๆ ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างหนักแน่น
“คุณฮ่อ ไม่ทราบว่าในเหตุการณ์นี้มีคนในของฮ่อกรุ๊ปเป็นคนตั้งใจทำหรือไม่?” นักข่าวอีกคนถาม
ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างนิ่งเฉย “ผมไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ หลังจากผลการสอบสวนออกมา ผมจะให้คำตอบกับทุกคนอย่างตรงไปตรงมาและยุติธรรม”
การแถลงข่าวครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากคำพูดของฮ่อหยุนเฉิง ราคาหุ้นของฮ่อกรุ๊ปก็หยุดตกและเริ่มดีดตัวขึ้น
ซูฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อย่างไรก็ตาม งานแถลงข่าววันนี้เป็นเพียงแผนการรับมือที่ควรทำ การเดินทางไปฝรั่งเศสในวันพรุ่งนี้คือกุญแจสำคัญ ที่ฝรั่งเศสเธอและฮ่อหยุนเฉิงยังคงมีการต่อสู้ที่ยากลำบากรออยู่