วันเดียวกับที่การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์สิ้นสุด เผ่าวาทวาโยได้เผยแพร่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเขตหวงห้ามไร้มรณะออกไป
ไม่อาจไม่พูดถึง ใบต้นข่าวสารทองคำทรงอานุภาพยิ่ง เพียงวันเดียวในเขตแคว้นต่างๆ ของสี่แดนวิภูในดินแดนรกร้างโบราณ ข่าวเกี่ยวกับกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในนั้นอันดับของกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์คือสิ่งที่ผู้ฝึกปราณทุกคนสนใจที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่เมื่อรู้ว่าอันดับหนึ่งคือหลินสวิน คนหนุ่มที่มาจากโลกชั้นล่างคนนี้ ก็ก่อให้เกิดเสียงฮือฮานับไม่ถ้วน
บุคคลขอบเขตมกุฎของขุมอำนาจสำนักโบราณมากมายเข้าร่วม แต่กลับปล่อยให้คนที่ไร้สำนักไร้พรรคคนหนึ่งแย่งชิงอันดับหนึ่งในตอนท้ายไป!
ในอดีตที่ผ่านไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน!
“มีสิทธิ์อะไร เทพมารหลินแข็งแกร่งเช่นนั้นจริงหรือ แม้แต่บุคคลขอบเขตมกุฎของสำนักโบราณเหล่านั้นล้วนสู้เขาไม่ได้รึ”
นี่คือปฏิกิริยาแรกของผู้ฝึกปราณจำนวนมาก
ทว่าเมื่อเผ่าวาทวาโยทยอยเผยการต่อสู้ของหลินสวินในเขตหวงห้ามไร้มรณะออกมา ความแปลกใจและไม่เข้าใจทั้งมวลต่างได้รับคำตอบ
ยามขึ้นเขาและครองภูผา ทันทีที่ภาพหลินสวินคนเดียวปะทะเหล่าผู้กล้านั่นเปิดเผยก็ก่อให้เกิดความอึกทึกครึกโครม ทำเอาผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนตกตะลึงอ้าปากค้าง
ทุกคนล้วนมองออก เทียบกับผู้ฝึกปราณของสำนักโบราณอื่นแล้ว สถานการณ์ที่หลินสวินประสบยามครองภูผาเลวร้ายที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย
เขาถูกเห็นเป็นหนามยอกอก ไม่ว่าใครล้วนอยากกำจัดเขา!
แต่สุดท้ายเขาคนเดียวกวาดล้างผู้กล้าทั้งหมด ใช้ท่าทีหยิ่งผยองที่หนึ่งคนเฝ้าด่านหมื่นผู้กล้าไม่อาจกล้ำกรายครองยอดเขาลูกหนึ่งได้สำเร็จ ดันตนขึ้นสู่สามสิบหกอันดับแรกของกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์!
ดังนั้นจึงมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรอบที่สอง
และความสามารถของหลินสวินในการแข่งขันรอบที่สองก็ยิ่งเจิดจรัสหาใดเปรียบ โดดเด่นเป็นสง่า ยามเผยการต่อสู้ระหว่างเขากับโก่วหยางเจิน หลี่ชิงผิง ปี้ตงหลิ่ว ใต้หล้าล้วนโกลาหลไปด้วย!
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
นี่คือปฏิกิริยาของผู้ฝึกปราณทุกคน แม้โก่วหยางเจินจะระเบิดตัวเองก็ยังทำเทพมารหลินตกรอบไม่ได้ นี่ช่างเหมือนปาฏิหาริย์
กระทั่งเข้าสู่การประลองรอบสุดท้าย
ไม่ว่าจะเป็นการพนันสามกระบวนท่ากับจินมู่อวิ๋น หรือการประลองแห่งยุคกับมารกระบี่เยี่ยเฉิน กระทั่งหนึ่งกระบวนท่าตัดสินแพ้ชนะกับดาบคลั่งเซี่ยวชางเทียนในการต่อสู้สุดท้าย ล้วนทำให้เกิดเสียงฮือฮา อัศจรรย์ใจ หวั่นตระหนกไม่รู้เท่าไหร่
ดินแดนรกร้างโบราณกว้างใหญ่ระดับใด แบ่งเป็นสี่แดนใหญ่และเขตแคว้นนับไม่ถ้วน แต่วันเดียวกันนี้ ในต่างแดนดิน ต่างเขตแคว้นนี้ ชื่อของหลินสวินเป็นดั่งดาวหางพุ่งสู่ครรลองสายตาของผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนอย่างแข็งกร้าว!
“เทพมารหลิน!”
“เทพมารหลิน!”
“เทพมารหลิน!”
หลังเห็นความสามารถต่างๆ ของหลินสวินในการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์กับตา การกระทู้ถามและความตื่นตะลึงทั้งมวลต่างเปลี่ยนเป็นความชื่นชม ยกย่อง อัศจรรย์ใจ
ชายหนุ่มที่มาจากโลกชั้นล่างคนหนึ่ง กลับสามารถอาศัยพลังตัวเองเหยียบร่างผู้กล้ามากมายทะยานสู่เบื้องบน คว้ามงกุฎของกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ไปในคราเดียว นี่จะไม่ให้คนชื่นชมได้อย่างไร
แม้แต่สำนักโบราณบางส่วนล้วนสั่นสะเทือนด้วยเหตุนี้ จดจำหลินสวินคนหนุ่มคนนี้ไว้อย่างแม่นยำ
“นับแต่นี้ไปในใต้หล้ายังมีใครไม่รู้จักเขา”
วันนี้ไม่รู้มีผู้ฝึกปราณเท่าไหร่ทอดถอนใจเช่นนี้
แต่ไม่ช้าก็มีข่าวแพร่ออกมาอีก…
“เทพมารหลินล่วงเกินสำนักโบราณมากมาย ครั้งนี้เป็นไปได้สูงที่จะประสบเคราะห์หลังออกจากเขตหวงห้ามไร้มรณะ!”
“พายุคลั่งที่หมายหัวเทพมารหลินจวนเปิดฉาก เทพมารหลินที่ถูกขุมอำนาจมากมายมองเป็นศัตรู อาจกลายเป็นยอดมกุฎรุ่นเยาว์คนแรกที่อายุสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์!”
“จากแหล่งข่าวน่าเชื่อถือ ขุมอำนาจมากมายอย่างสำนักกระบี่เทียมฟ้า แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ สำนักยุทธ์สมุทรคราม ต่างเคลื่อนกำลังระดับราชันแล้ว!”
“เทพมารหลินไม่รู้เป็นตายร้ายดี คนหนุ่มที่เด่นผงาดราวดาวหางคนนี้จะตายก่อนวัยอันควรหรือไม่”
เมื่อเผ่าวาทวาโยแพร่ข่าวเหล่านี้ออกมา ทั้งดินแดนรกร้างโบราณก็โกลาหลโดยสมบูรณ์ ก่อให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมไม่รู้เท่าไหร่
“ต่ำช้า! สำนักโบราณพวกนี้รังแกกันเกินไปแล้ว!”
ผู้ฝึกปราณชั้นล่างมากมายขุ่นเคือง รู้สึกไม่ยุติธรรม เป็นกังวลแทนหลินสวิน
“คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ไม้เด่นเกินไพรลมพัดหักโค่น ความสามารถของเทพมารหลินนี่ยิ่งสะดุดตาก็ยิ่งพบเจอการกดดันที่คาดไม่ถึงโดยง่าย!”
เหล่าผู้อาวุโสส่วนหนึ่งต่างทอดถอนใจไม่หยุด รู้สึกเสียดายแทนหลินสวิน
“พูดกันตามจริง ไม่ใช่ว่าเห็นเทพมารหลินตัวคนเดียว ไร้คนหนุนหลัง จึงคิดว่าจะกลั่นแกล้งเขาอย่างไรก็ได้หรือ”
“เฮ้อ โมโหแล้วอย่างไร ล่วงเกินสำนักโบราณมากขนาดนั้น ครั้งนี้เทพมารหลินคงยากพ้นเคราะห์แล้ว”
“น่าเสียดายเหลือเกิน…”
วันนี้เรื่องที่ว่าหลินสวินจะร่วงหล่นหรือไม่นั้น ได้สั่นคลอนใจผู้ฝึกปราณแต่ละคน
ส่วนใหญ่รู้สึกได้ไม่คุ้มเสียและเสียดายแทนเขา
ทั้งดินแดนรกร้างโบราณล้วนไม่สงบอีกต่อไป ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนกำลังรอข่าวใหม่อย่างร้อนรน ขุมอำนาจเหลือคณาก็ต่างกำลังติดตาม
นี่ก็คืออิทธิพลของอันดับหนึ่งในกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ เพียงพอทำให้เมฆลมในใต้หล้าเปลี่ยนแปลงไปตามเขา
หลินสวินก่อนหน้านี้แม้กิตติศัพท์โด่งดัง แต่ก็จำกัดอยู่แค่ในแดนฐิติประจิมและแดนชัยบูรพา ยังไม่อาจทำให้ชื่อเสียงกระจายไปทั่วดินแดนรกร้างโบราณได้
แต่ตอนนี้ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง!
…
แน่นอนว่าหลินสวินยังไม่ตาย
การต่อสู้ในทะเลหมากดารา เขาทยอยสังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันยี่สิบกว่าคน นอกจากผู้แข็งแกร่งส่วนน้อยที่หนีไปได้ คนอื่นต่างถูกกำจัดสิ้น
นี่คือเรื่องใหญ่สะท้านฟ้า พลบค่ำวันที่สองก็ถูกแพร่ออกไป หินก้อนหนึ่งก่อเกิดคลื่นพันชั้น ทำให้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนที่กำลังร้อนใจติดตามอยู่ก่อนแล้วต่างถูกสั่นสะเทือน
เทพมารหลินยังไม่ตาย!
อีกทั้งเขายังแสดงแสนยานุภาพ ไม่หลบหนี ไม่บาดเจ็บ ตัวคนเดียวพิฆาตเหล่าราชันอย่างแข็งกร้าว!
ที่สำคัญที่สุดคือ เจ้าหนุ่มนี่ยังสังหารราชันที่ก้าวสู่มรรคาอมตะอีกหลายคน เทพมารหลินนี่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
แม้แต่สมบัติอริยะหกชิ้นที่แต่ละขุมอำนาจใช้ออกมายังทำอะไรเทพมารหลินไม่ได้!
ทันทีที่ผลงานเจิดจ้าเช่นนี้แพร่ออกไปก็ก่อให้เกิดคลื่นลมล้นฟ้าทันที สำนักโบราณส่วนหนึ่งต่างสั่นสะเทือนด้วยเหตุนี้ คนทั่วไปยังไม่รู้ แต่ขุมอำนาจที่หูตาไวบางส่วนล้วนถูกทำให้ตระหนกแล้ว
“ใครบอกข้าได้บ้าง เทพมารหลินทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร”
ผู้ฝึกปราณมากมายแทบคลุ้มคลั่ง คนหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งกลับสังหารโหดเหล่าราชันอย่างแข็งกร้าว นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“ครั้งนี้สำนักโบราณพวกนั้นล้มตายกันเป็นเบือ ได้ยินว่าทะเลหมากดาราล้วนถูกโลหิตย้อมจนกลายเป็นสีแดงไปหมด!”
ข่าวกำลังแพร่สะพัดด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ตามเวลาที่ล่วงเลย ทั้งสี่แดนวิภูของดินแดนรกร้างโบราณล้วนตกสู่ความสั่นสะเทือน
ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจาก ความเจิดจรัสแห่งชัยชนะครั้งนี้ของหลินสวิน ทำผู้คนตื่นตระหนกกันถ้วนหน้า!
ที่ต้องพูดถึงคือผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยไม่ธรรมดาจริงๆ ใช้ใบต้นข่าวสารทองคำบันทึกการเข่นฆ่านองเลือดที่เกิดขึ้นใกล้ทะเลหมากดาราไว้ได้
หลังภาพเหล่านี้เผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นประเด็นที่ทั้งใต้หล้าให้ความสนใจทันที!
“สวรรค์! เทพมารหลินนี่พลิกฟ้าแล้ว ตัวคนเดียวสังหารจนราชันพวกนั้นไม่อาจต้านทาน!”
“เขายังมีปราณระดับกระบวนแปรจุติอยู่ใช่ไหม ตัวคนเดียวรับศึกราชันมากมาย ทำไมถึงแข็งแกร่งเช่นนี้”
“ผิด! นี่ไม่ใช่การรับศึก แต่เป็นการสังหารหมู่! เป็นเทพมารหลินคนเดียวพาดขวางห้วงอากาศสังหารราชันราวเชือดไก่ฆ่าลิง!”
ในภาพเหตุการณ์ ทั่วร่างหลินสวินอาบไล้ประกายดาราเจิดจรัสดั่งนายเหนือหัว ส่องประกายผิดธรรมดา ระหว่างที่ขยับเคลื่อนก็เปิดฉากฝนโลหิตคาววายุ
เขาคนเดียวสังหารเหล่าราชัน ทรงพลังไร้เทียมทาน ท่าทางผงาดง้ำเช่นนั้นช่างเหมือนเทพสวรรค์อุบัติบนโลก!
ไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกปราณทั่วไป ต่อให้เป็นเหล่าราชันที่ทรงพลัง หลังเห็นภาพต่างๆ เหล่านี้ก็ตกใจจนเหงื่อแตกไปทั้งตัว เกิดความหวาดหวั่น
ในนั้นยังมีราชันกลุ่มหนึ่ง แต่ผลกลับเป็นไร้คนต้านการสังหารเช่นนี้ได้ ล้วนถูกซัดทลายทีละคน จิตสิ้นวิญญาณสลาย!
หลินสวินในตอนนั้นประหนึ่งเทพมารที่แท้จริง คร่าชีวิตของผู้แข็งแกร่งในขุมอำนาจเหล่านั้นเหมือนถอนหญ้า
ภาพเหตุการณ์ที่เผ่าวาทวาโยบันทึกได้ทั้งหมด มีราชันถูกหลินสวินจู่โจมสังหารในคราเดียว ต้านไม่อยู่แม้แต่หนึ่งกระบวนท่า
ภาพนองเลือดนั้นแทบจะทำให้คนหายใจไม่ออก!
ทั้งหมดนี้ช่างน่าเหลือเชื่อดั่งปาฏิหาริย์
“จินตนาการได้เลยว่าเหล่าขุมอำนาจพวกนั้นขาดทุนไปมากขนาดนั้น หลังจากนี้ต้องเปิดฉากพายุคลั่งสะท้านฟ้าแน่!”
คนมากมายทำการวินิจฉัยเช่นนี้
ช่วงหลายวันต่อมาข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดบนทะเลหมากดาราก็แพร่กระจายไปอีกขั้น หมักบ่มจนร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ แพร่สะพัดไปทั่วดินแดนรกร้างโบราณ
และกิตติศัพท์ของหลินสวิน หลังได้อันดับหนึ่งในกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์แล้วก็ยกระดับไปอีกขั้น บรรลุถึงขั้นเป็นประวัติการณ์ ถูกผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนรู้จักคุ้นเคย
ไม่มีคนคาดคิด หลินสวินซึ่งก่อนหน้ายังถูกเห็นเป็นยอดมกุฎรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งที่อาจอายุสั้นที่สุดคนแรกในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์ กลับสามารถเคลื่อนกวาดกำลังพลของขุมอำนาจใหญ่ สังหารราชันมากมายด้วยตัวคนเดียว
เรื่องนี้ก่อให้เกิดคลื่นถาโถมโหมกระหน่ำ เรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองทั่วหล้า!
เวลาเดียวกัน ขุมอำนาจต่างๆ เริ่มทยอยมุ่งหน้าสู่ส่วนลึกที่สุดของทุ่งน้ำค้างแข็งผลึกเร้นเพื่อสืบข่าว
“สวรรค์!”
ไม่ว่าเป็นขุมอำนาจใด เมื่อมาถึงชายฝั่งทะเลหมากดารา ได้เห็นภาพน่ากลัวในที่นั้นก็ต่างอุทานเสียงหลง ถูกสั่นสะเทือนจนสูดหายใจเย็นเยียบ
ถึงแม้ผ่านไปหลายวันแต่ที่นี่ยังทิ้งร่องรอยบ่อโลหิต แขนขาแหว่งวิ่น พื้นดินแตกระแหง สันเขาแต่ละลูกล้วนพังทลายย่อยยับ กลายเป็นโกรกธารแหลกลาญไปทั่ว
หลังภาพเหล่านี้ถูกแพร่ออกไป แต่ละแดนวิภูในใต้หล้าต่างถูกสั่นสะเทือน
นี่ยังใช่หลินสวินอยู่ไหม
“ฮ่าๆๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเทพมารหลินไม่มีทางแพ้ เหล่าขุมอำนาจที่รังแกเขาพวกนั้น ในที่สุดครั้งนี้ก็เจอการแก้แค้นนองเลือด!”
“ไร้สำนักไร้พรรคแล้วอย่างไร เทพมารหลินอาศัยพลังของตัวเองก็สามารถตีฝ่ามหามรรคเทียมฟ้าได้!”
คนที่ดีใจและยินดีที่สุดคือเหล่าผู้ฝึกปราณที่ยกย่องหลินสวินอย่างไม่ต้องสงสัย รู้สึกประทับใจในตัวหลินสวินจนเอ่ยชื่นชมไม่หยุด เมื่อทราบข่าวเหล่านี้ก็ต่างตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
เบื้องหลังเหตุการณ์อึกทึกครึกโครมนี้ เหล่าสำนักโบราณอย่างสำนักกระบี่เทียมฟ้า แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ล้วนจมสู่ความเดือดดาล
มีเพียงพวกเขาที่รู้ดีว่าความเสียหายครั้งนี้ไม่ใช่แค่บุคคลระดับราชันมากมาย ยังมีสมบัติอริยะถึงหกชิ้น!
นี่คือความอัปยศครั้งใหญ่ เป็นความแค้นบัญชีเลือด!
“คนตายได้ กระบี่เทียมฟ้า… ไม่อาจสาบสูญ!”
วันนี้ในเขตหวงห้ามสำนักกระบี่เทียมฟ้า เสียงราบเรียบเปี่ยมความสูงส่งสายหนึ่งก้องสะท้อนขึ้น
ขณะเดียวกันอานุภาพอริยมรรคชวนประหวั่นไร้ขอบเขตแผ่กระจายออกมา ทำเอาทั้งสำนักกระบี่เทียมฟ้าสั่นสะเทือน
และวันนั้นเอง ผู้อาวุโสชุดป่านเท้าเปล่า หน้าตอบคนหนึ่งก้าวสู่ความว่างเปล่า ชั่วพริบตาก็เคลื่อนย้ายไปกลางอากาศ
นี่คืออริยะผู้หนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย!
และมีเพียงอริยะ ถึงสามารถเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ ก้าวผ่านเขตแดนไร้สิ้นสุดได้โดยง่าย!