เธอมองหน้าฮ่อหยุนเฉิงกำลังโกรธอยู่ ก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลง แล้วพูด
“ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร รอให้เขาผ่าตัดผ่านไปก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน ไม่งั้นหากเรื่องแพร่งพรายออกไปจะไม่ดีเอา”
ฮ่อหยุนเฉิงถึงแม้จะโมโหโกรธ แต่ก็ยอมรับว่าตอนนี้ซูฉิงพูดถูก เขาก็ฝืนพูดเสียงนิ่งขรึม
“งั้นฉันจะรอจนกว่าเฉินจุนเหยียนผ่าตัดเสร็จ พวกเราค่อยมาคุยเรื่องปัญหานี้กัน เธอต้องอธิบายให้ฉันฟัง”
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ อย่างช้าๆ ห้องผ่าตัดก็แสดงป้ายไฟขึ้นว่า:กำลังทำการผ่าตัด
ซูฉิงไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่กองถ่ายเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ ในหัวมีแต่คำพูดที่เฉินจุนเหยียนพูดกับเธอ ฮ่อหยุนเฉิงนั้นก็เดินไปเดินมา
ภายนอกห้องผ่าตัดที่บรรยากาศที่เงียบสงบ
เวลาผ่านไปประมาณสองชั่วโมงแล้ว ป้ายไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ไม่นาน คุณหมอก็เปิดประตูเดินออกมา
ซูฉิงได้ยินเสียงก็รีบเดินเข้าไปถาม:”คุณหมอคะ เฉินจุนเหยียนเขา……..ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง”
ฮ่อหยุนเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอนที่ได้ยินชื่อเฉินจุนเหยียนก็อดที่จะคิ้วขมวดไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่พูดอะไร
คุณหมอถอนหายใจออกมา น้ำเสียงดูผ่อนคลายลงไปไม่น้อย”ไม่ต้องเป็นห่วง การผ่าตัดของเขาสำเร็จไปด้วยดี ดีที่พวกคุณมาพาเขามาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา และกระสุนไม่ได้โดนจุดตำแหน่งหัวใจ อยู่ห่างออกมาเพียงนิดเดียว ตอนนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว แต่ว่าเขาจะต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวหลายเดือน และช่วงหลายเดือนนี้จะให้เขามีอารมณ์รุนแรงไม่ได้ และจะออกกำลังกายหนักไม่ได้ จำเป็นต้องนอกพักที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการ จะต้องได้รับการยืนยันว่าแผลหายดีแล้วถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ว่าก็ต้องพักผ่อนรักษาตัวก่อน”
ซูฉิงที่รู้สึกหนักใจก็ได้ถอนหายใจโล่ง ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ได้ค่ะ ฉันจะจำไว้ รบกวนคุณหมอแล้ว……”
“ไม่เป็นไรครับ “คุณหมอส่ายหน้าไปมา “ตอนนี้ผลของการผ่าตัดพึ่งออกมา เขายังกำลังพักผ่อนอยู่ พวกค่อยก็เสียงเบาๆ หน่อย อย่าไปรบกวนเขาก็พอ”
“ค่ะ ได้ค่ะ……”
ซูฉิงที่มองดูคุณหมอเดินจากไปถึงได้วางใจ เมื่อกี้เธอกลัวจริงๆ
ถ้าหากเฉินจุนเหยียนตายเพื่อเธอ เธอจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่
ฮ่อหยุนเฉิงที่สังเกตสีหน้าของซูฉิงตลอด ตอนที่เห็นซูฉิงถอนหายใจโล่งนั้น เขาก็เม้มปากแน่น หันไปทางอื่นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ไม่มีผู้ชายคนไหน อยากจะเห็นแฟนจองตัวเองรู้ตกใจและหวาดกลัวเพื่อคนอื่นหรอก
หึงก็ใช่
“พวกเรา….”ฮ่อหยุนเฉิงถึงได้เอ่ยออกมา ซูฉิงก็หันหลังเดินเข้าไปยืนหน้าห้องผู้ป่วยแล้ว
เธออยู่อยู่หน้าประตูที่ปิดสนิทมองดูเฉินจุนเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้สติ แววตาเต็มไปด้วยความสับสน แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือความดีใจ
คำพูดที่เฉินจุนเหยียนพูดกับเธอก่อนที่จะทำการผ่าตัดนั้น……
เฮ่อ ช่างเถอะ ไม่อยากจะคิดแล้ว
“ตอนนี้เขาไม่เป็นอะไรแล้ว เธอเล่าให้ฉันอย่างละเอียดได้แล้วใช่มั้ย”
ฮ่อหยุนเฉิงที่เอ่ยปากถาม เขาพยายามความคุมอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงเพื่อคุยกับซูฉิง
ซูฉิงเหลือบตามองต่ำลง เธอไม่รู้เลยว่าตันจะตอบแทนความรู้สึกของเฉินจุนเหยียนยังไง โดยเฉพาะที่เขาเกือบเอาชีวิตมาทิ้งเพราะตนเอง
จากเหตุการณ์ตอนนี้ ก็ยังไม่แน่ใจ
แม้แต่ฮ่อยหนยุนเฉิง…..
ซูฉิงมองต่ำลง คิดอยู่ชั่วครู่ แล้วพูดกับฮ่อหยุนเฉิง:”หยุนเฉิง งั้นนายกลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะโทรหานายเอง ตอนนี้ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนเฉินจุนเหยียนก่อน”
เฉินจุนเหยียนได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ ถ้าเธอออกไปกับฮ่อหยุนเฉิงตอนนี้ ซูฉิงคงทำไม่ได้
ฮ่อหยุนเฉิงที่ควบคุมอารมณ์โกรธอยู่นั้น พอได้ยินซูฉิงพูดมาอย่างนี้ เขาก็หน้าเคร่งแล้วเดินไปเผชิญหน้ากับซูฉิง พูดอย่างจริงจังว่า:”ซูฉิง เธอเป็นแฟนของฉันนะ ตอนนี้เฉินจุนเหยียนก็ฟื้นแล้ว มีคุณหมอคอยดูแลเขาอยู่”
“เขาได้รับบาดเจ็บเพราะฉัน ฉันคิดว่าฉันควรที่จะอยู่ก่อน…….อื้อ!”
ซูฉิงพูดยังไม่ได้จบ ปลายคางก็ถูกจับแน่นให้เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็เข้ามาประกบจูบแลกลิ้นกัน
จูบที่เอาแต่ใจของเขาเหมือนจะทำให้ซูฉิงหายใจไม่ออก เธอกึ่งเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับสองแขนยื่นออกไปผลักฮ่อหยุนเฉิงออกได้
ซูฉิงหายใจหอบ ตอนนี้เธอก็รู้สึกโมโหมากแล้วจริงๆ หน้าแดงก่ำพร้อมกับตบหน้าฮ่อหยุนเฉิงไปหนึ่งที
“นายบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ!”
ฮ่อหยุนเฉิงที่ถูกตบจนหน้าหัน เขาก็อึ้ง ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะตบหน้าตน
เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นมาลูบหน้าที่โดนตบเบาๆ ปลายลิ้นที่ดันกระพุ้งแก้ม หันไปมองด้วยแววตาเย้ยหยัน แต่ความโกรธยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“เพื่อเขาเธอถึงกับตบหน้าฉันเลยใช่มั้ย”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดออกมาพร้อมกับแววตาที่เปลี่ยนไป มองซูฉิงด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจและเคือง ตะคอกเสร็จแล้ว ก็ไม่มีอะไรพูดอีก ก็หันหลังเดินจากไป
ซูฉิงที่มองเบื้องหลังของเขาด้วยแววตาที่เจ็บและชา แต่ก็ไม่ได้เรียกฮ่อหยุนเฉิงไว้
วันนี้เขาหึงมากจนเกินไป ก็ควรให้เขากลับไปคิดเองแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงกลับมาที่เมืองใหม่สุ่ยเยว่ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ถังรั่วอิงที่นั่งดูทีวีอยู่โซฟา พอเห็นเขาเดินเข้ามาก็ยิ้มหวานให้ทันที
“พี่เฉิง วันนี้พี่ไปไหนมาหรอคะ”
ฮ่อหยุนเฉิงก็ทำเพียงแค่เงยหน้ามองเธอ เขาแค่แสดงละครกับถังรั่วอิง และยิ่งกว่านั้นเพราะข้อสงสัยของซูฉิง ตอนนี้เขารู้สึกแย่มาก ทำมันยังจะเล่นกับความรู้สึกของเขาอีกหรอ
“ไม่มีอะไร ที่บริษัทมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ”
เขาก็พูดออกมาไม่กี่คำแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน ถังรั่วอิงที่สังเกตได้ถึงอารมณ์ของเขา ก็รีบไปรินน้ำแล้วถือขึ้นไปให้กับฮ่อหยุนเฉิง พร้อมกับพูดปลอบ
“เรื่องที่บริษัทมีปัญหาเยอะมากยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ ในเมื่อกลับมาบ้านแล้ว ก็อย่าเอาแต่คิ้วขมวดเลย มา ดื่มน้ำหน่อยจะได้อารมณ์ดีขึ้น ก็สั่งให้ลูกน้องทำก็ได้”
ฮ่อหยุนเฉิงที่ตอนนี้อารมณ์ไม่ดี แต่ก็ยังเห็นแก่หน้าเธอดื่มน้ำจนหมดแก้ว จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน
ถังรั่วอิงก็เดินไปมาอยู่ห้องรับแขก แล้วก็เอาขนมที่ตัวเองทำออกมาจากตู้เย็น ถือเอาไปวางที่ข้างๆ มือของฮ่อหยุนเฉิงที่ห้องทำงาน พร้อมกับยิ้มพูด :”พี่เฉิง พี่กลับมาดึกป่านนี้น่าจะหัวแล้ว วันนี้ฉันเรียกทำขนมด้วยตัวเอง พี่ลองชิมหน่อยสิว่าอร่อยมั้ย”
พร้อมกับนั่งลงข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิง พร้อมกับมือคล้องแขนเขา พร้อมกับตั้งใจเอาหน้าอกนุ่มเสียดสีไปมา
ฮ่อหยุนเฉิงกลับมีท่าทีเย็นชา “ตอนนี้ฉันไม่หิว เดี๋ยวค่อยกัน ตอนนี้ยังยุ่งอยู่”
“พี่เฉิง ฉันใช้เวลาทำตั้งนานนะ พี่ก็เห็นแก่ฉัน กินสักคำหน่อยสิคะ”
ฮ่อหยุนเฉิงจับแขนถังรั่วอิงที่คล้องอยู่ออกจากแขนของเขา แล้วเลิกคิ้วเป็นปม มือลูบจมูกพร้อมกับหายใจฮึดฮัด ด้วยน้ำเสียงโมโห”ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ และก็ยังทำงานอยู่ ถ้าเธอไม่มีอะไร ก็ออกไปก่อนเถอะ”