นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 540 ฮ่อหยุนเฉิงสูญเสียการควบคุม
ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีออกมาจากหัวใจของเธอ ซูฉิงจ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิง ตอนแรกเธอต้องการจะเหยียดมือออก
“หยุนเฉิง นายเป็นอะไรไป? ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า?”
เช่นเดียวกับความรู้สึกตามสัญชาตญาณของซูฉิง ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกว่ามีเสียงบางอย่างดังก้องอยู่ในใจของเขา สิ่งที่อยู่ข้างหน้าเขาพร่ามัวเล็กน้อย และสิ่งเดียวที่เขามองเห็นได้ชัดเจนก็คือซูฉิง
แต่สำหรับเขา ซูฉิงที่อยู่ตรงหน้า…
มีความอันตรายที่ไม่สามารถบรรยายได้
เมื่อเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่พูดอะไร ซูฉิงก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและมองตรงเข้าไปในดวงตาของฮ่อหยุนเฉิง
อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา ฮ่อหยุนเฉิงก็พุ่งเข้ามาและคว้าคอของซูฉิง
จากสัญชาตญาณของร่างกายของเธอ ซูฉิงยกมือขึ้นเพื่อต่อต้าน แต่ในท้ายที่สุด เมื่อเห็นท่าทีเจ็บปวดของฮ่อหยุนเฉิง เธอก็ยังฝืนทนกับมัน
“คุณยังจำฉันได้ไหม?”
ดวงตาของซูฉิงลุกโชน เผาไหม้ผ่านหัวใจของฮ่อหยุนเฉิงราวกับเปลวไฟ แต่มันยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดตรงหน้าอกมาขึ้นอีก
ฝ่ามือของฮ่อหยุนเฉิงยังคงบีบแน่นและดูเหมือนว่าอีกไม่กี่วิคอที่เรียวๆของซูฉิงจะเปราะบางมากเรื่อยๆเมื่ออยู่ภายใต้มือของเขา
เสียงในจิตใต้สำนึกเตือนให้ฮ่อหยุนเฉิงปล่อยมือ แต่แขนขาของเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของสมองเลย หรือพูดให้ถูกคือ จิตใจของฮ่อหยุนเฉิงอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
“เธอ…” ฮ่อหยุนเฉิงหอบหายใจ และเลือดก็เริ่มกระจายไปทั่วดวงตาขาวของเขา
เขาจ้องไปที่ซูฉิงง ราวกับว่าเขากำลังถืออะไรบางอย่างไว้ เกิดความตึงเครียดที่เส้นเลือดที่คอ
ใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ซูฉิงกัดริมฝีปากล่างของเธอ แต่เธอก็ยังไม่ต่อสู้ เธอจ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิงและพูดคำต่อคำออกมา
“ฮ่อหยุนเฉิง! นายยังจำฉันได้ไหม?”
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆฮ่อหยุนเฉิงถึงกลายเป็นแบบนี้ ถ้าเธอดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ฮ่อหยุนเฉิงในสถานะนี้มันก็จะโกรธอย่างแน่นอน
มีเพียงการแสดงออกของซูฉิงที่ดูไม่แยแส แต่มือข้างหลังเธออยู่ใกล้กับขวดไวน์แดงบนโต๊ะแล้ว
เธอไม่ต้องการให้ฮ่อหยุนเฉิงสูญเสียควบคุมไปจริงๆ
ประโยคนี้เหมือนกับการปลุกให้ตื่น ทุบเข้าไปในจิตใจของฮ่อหยุนเฉิง มือของเขาสั่นรุนแรง และหลังจากนั้นเขาก็รู้ตัวว่าเขาเพิ่งทำอะไรไป
การรู้สึกเสียวซ่าในสมองของเขาทำให้ฮ่อหยุนเฉิงเดินโซเซถอยหลังไปสองสามก้าว เขามองไปที่ซูฉิงด้วยท่าทางที่เย็นชาอย่างน่ากลัว
“กระแอม……”
ซูฉิงได้รับการปล่อยตัวในที่สุด และก็อดไม่ได้ที่จะจับคอของเธอไว้ การรู้สึกเสียวซ่าในลำคอของเธอ ทำให้เธอไออย่างไม่สามารถควบคุมได้ และเธอก็สูดหายใจสองสามครั้งเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว หวนนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งทำในใจ และรู้สึกเกิดความรำคาญขึ้นมา
“นี่ฉันเป็นอะไรไปกันแน่?”
ฉันจะทำร้ายซูฉิงอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้!
“นายเป็นยังไงบ้าง?” เสียงของซูฉิงยังคงแหบเล็กน้อยและเธอก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อมองดูฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อมองลงไป เขาเห็นรอยนิ้วมือพร่างพรายบนคอของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงไม่เพียงแค่ไม่สามารถยกฝ่ามือของเขาได้ และแม้แต่ข้อต่อของเขาก็สั่นสะเทือนไปหมด
“ขอโทษนะ นี่ฉันทำอะไรลงไป…” ฮ่อหยุนเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ
ซูฉิงโล่งใจเล็กน้อยที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงอยู่ในสภาพดังกล่าว ที่จริง เธอยังกลัวมากว่าฮ่อหยุนเฉิงจะสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง
“เมื่อกี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? หรือมีอะไรแปลกๆ หรือเปล่า?”
หลังจากสอบถามอย่างรอบคอบแล้ว ซูฉิงก็รู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ แปลกมาก
“มันแปลกมาก ราวกับว่ามีบางอย่างขัดขวางความคิดของฉัน” ฮ่อหยุนเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบช้า ๆ ความรู้สึกเสียวซ่านในสมองของเขาลดลงเล็กน้อย แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่แน่ใจว่าสภาพที่ควบคุมไม่ได้นี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง
ซูฉิงขมวดคิ้ว ฮ่อหยุนเฉิงอยู่กับเธอตลอดเวลาในวันนี้ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสัมผัสคนอื่นหรือสิ่งของอะไรอื่น
มันเริ่มมีอะไรที่ไม่ค่อยชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ซูฉิงเพียงแค่ส่ายหัว: “ให้ฉู่เหยามาตรวจดูว่ามีปัญหาอะไรตรงไหนไหมแบบนี้ดีกว่านะ”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็แตะแก้มของซูฉิงเบา ๆ และดวงตาของเขาก็ยังคงตกอยู่ที่คอของเธอ
“ฉันขอโทษ” ฮ่อหยุนเฉิงต้องการกอดซูฉิง แต่สุดท้ายก็ลังเลที่จะปล่อยมืออกไป
“หยุดขอโทษได้แล้ว” เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซูฉิงจึงเริ่มโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิงและกอดเอวของเขาเบา ๆ “นอกจากนี้ ฉันไม่มีทางหนีไปไหนเด็ดขาด ฉันเชื่อว่าคุณจะไม่ทำร้ายฉันจริงๆหรอก”
“ขอบคุณนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงก้มศีรษะลงและจูบผมของซูฉิง แต่ดวงตาของเขาดูเย็นชามาก
“ระหว่างฉันกับนายจะมาขอบคุณอะไรกันล่ะ” ซูฉิงโค้งมุมริมฝีปากของเธอ
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของซูฉิง นิ้วหัวแม่มือของฮ่อหยุนเฉิงก็ลูบเบา ๆ ที่แก้มของเธอ “ถ้าฉันทำร้ายเธอแบบนี้อีกครั้ง ซูฉิง ฆ่าฉันซะ … ”
เสียงของฮ่อหยุนเฉิงลดเบาลง และซูฉิงก็เอานิ้วมือวางลงบนริมฝีปากของเขา
“เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
……
หลังจากนั้นไม่นานฉู่เหยาก็ถูกเรียกมาโดยฮ่อหยุนเฉิง และเธอก็ทำการตรวจสอบฮ่อหยุนเฉิงอย่างระเอียดในทันที
“คงจะต้องใช้เวลาสักครู่ กว่าผลการตรวจเลือดจะออก นอกนั้น ร่างกายของคุณไม่ได้ผิดปกติอะไรอื่นๆเลย”
ฉู่เหยาผลักแว่นตาที่พาดผ่านสันจมูกของเขา แต่จากการแสดงออกของซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิง สิ่งต่าง ๆ อาจไม่ง่ายอย่างนั้น
“แปลก…” ซูฉิงพึมพำ นิ้วของเธอบิดผมยาวของเธออย่างช่วยไม่ได้ และออกแรงเล็กน้อย
ถ้าไม่มีปัจจัยภายนอก…
สายตาของเธอจ้องไปที่ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง และในตอนนี้ซูฉิงก็บีบครั้นความคิดที่ไร้สาระนี้ในหัวของเธอ
ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงดูบูดบึ้ง นิ้วของเขาถูไปโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นซูฉิงก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรบางอย่างออกและหันไปมองฮ่อหยุนเฉิง
“หยุนเฉิง คุณเคยเจอคนแปลก ๆ ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ไหม?”
“อืม?” ฮ่อหยุนเฉิงตอบเบา ๆ และยืนขึ้นช้าๆ
ซูฉิงขยับสายตาของเธอไปที่ฉู่เหยา เมื่อฉู่เหยาที่กำลังดูแฟ้มในมือของเธอสังเกตเห็นสายตาที่จ้องมานั้น เธอก็พูดกับซูฉิง
ห
“ช่วงนี้คุณฮ่อนอกจากจะอยู่กับคุณแล้ว เขาก็เคยไปแค่ที่เดียว”
ดวงตาของซูฉิงขยับและเธอก็ก้าวไปข้างหน้าและจับมือฮ่อหยุนเฉิง “ฉันจะไปกับคุณ”
หยุนเฉิงที่ตอนแรกต้องการให้ซูฉิงอยู่ที่นี่ แต่พอนึกถึงสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ฮ่อหยุนเฉิงก็พยักหน้าอย่างประนีประนอม
“คุณไปพบใครมา?” ซูฉิงยักคิ้วและถามอย่างสงสัย อย่างไรก็ตาม เธอคาดเดาไม่ได้จริงๆ
“คนๆ เดียวกับที่ฉันเคยจับได้มาก่อน ฉันตรวจสอบภูมิหลังของพวกเขาแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงจับมือซูฉิงและอธิบาย
“พวกเขามีประโยชน์อะไรงั้นเหรอ?” ซูฉิงถาม แต่หลังจากคิดดูดีๆแล้ว คนเหล่านี้ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่หรือ?
“มีนิดหน่อย” ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้า “หนึ่งในคนที่พวกเขาเคยทำงานด้วยมาก่อนคือเจ้านายจากซินเยว่ไห่ ซึ่งฉันต้องการที่ดินในมือเขามาตลอด”
อันที่จริง เหตุการณ์นี้เกินความคาดหมายของฮ่อหยุนเฉิง แต่เมื่อขุดลึกลงไป เขาพบหลายสิ่งหลายอย่างจริงๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูฉิงก็ยิ้มและพูดว่า “เจ้าเล่ห์นัก นายทำแบบนี้แปลว่านายใช้สายเทากินสายเทางั้นเหรอ?”
ฮ่อหยุนเฉิงสั่นจมูกของซูฉิงแล้วยิ้ม
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน จุดหมายปลายทางก็มาถึงแล้ว