“นายรู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันถ้าสู้กับฉันแบบเอากันให้ตายเท่ากับนายรนหาที่ตายเองนะ”
หยางเฟิงกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา
เขาไม่เข้าใจ
เจี้ยนเฟิงรู้ทั้งรู้ว่าต้องตายแล้วทำไมยังทำตัวเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟอีก?
ผ่านไปเนิ่นนาน
เจี้ยนเฟิงมีสีหน้าซับซ้อน“ผมรู้ตัวดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้คุณและรู้ว่าเป็นการรนหาที่ตายและผมก็เคยคิดที่จะใช้ลูกสาวคุณบีบให้คุณฆ่าตัวตายแต่…ผมเป็นนักบู๊ผมยอมตายอย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่ามีชีวิตอยู่รอดอย่างคนต่ำช้า!”
ได้ยินสิ่งนี้
ใบหน้าหยางเฟิงสะท้อนแสงของคลื่นอารมณ์สายหนึ่ง
ถึงแม้เจี้ยนเฟิงไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งทว่าก็มีคุณสมบัติของวีรบุรุษจุดนี้คุ้มค่าให้เขานับถือยิ่ง
ทว่าเจี้ยนเฟิงกลับลักพาตัวหยางพั่นพั่น
ไม่ว่าอย่างไร
เขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
หยางพั่นพั่นคือแก้วตาดวงใจของหยางเฟิงห้ามใครหน้าไหนแตะต้อง
หยางเฟิงกล่าว“เจี้ยนเฟิงก็แค่จางเวยที่ไม่ใช่คนสำคัญอะไรคุ้มแล้วเหรอที่นายทำแบบนี้?ที่จริงนายหนีไปได้และฉันก็ไม่ฆ่านายด้วย”
ตั้งแต่ต้นยังจบเขาไม่เคยคิดจะฆ่าเจี้ยนเฟิงเลย
เพราะในสายตาหยาเฟิงเจี้ยนเฟิงก็ไม่ต่างจากมดปลวกตัวหนึ่ง
ขอถามหน่อยช้างจะถือสาหาความกับมดตัวหนึ่งไหม?
ซึ่งเจี้ยนเฟิงก็รู้ทฤษฎีนี้ดี
ทว่าเขาไม่ได้หนี
เขาไปหู้ไห่ไปหาเฉ่าซือไห่เพื่อแก้แค้นให้กับท่านสาม!
หลังจากแก๊งเขียวมอดไหม้เขาก็กลับมาลักพาตัวหยางพั่นพั่นที่ตงไห่เพื่อล้างแค้นให้กับท่านสาม!
คล้ายกับว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อแก้แค้นให้ท่านสามอย่างเดียว!!!
ความห่อเหี่ยวใจแวบผ่านใบหน้าเจี้ยนเฟิงชั่ววูบ“คุณไม่เข้าใจ!มีคำหนึ่งกล่าวว่ายอมพลีกายเพื่อผู้ชุบเลี้ยงตนท่านสามมีพระคุณต่อผมเมื่อก่อนผมเป็นแค่คนพเนจรในยุทธภพถูกศัตรูไล่ฆ่าและบาดเจ็บปานตายแต่ท่านสามช่วยผมไว้ดังนั้นชีวิตของผมเป็นของเขา!”
“คุณฆ่าท่านสามหากผมไม่แก้แค้นให้ท่านสามแล้วผมจะมีชีวิตต่อไปทำไม?”
“ถึงรู้ว่าต้องตายแต่ผมก็ไม่เสียใจ”
ได้ยินดังนั้นหยางเฟิงก็เงียบงัน
เพื่อการแก้แค้นเจี้ยนเฟิงไม่ยำเกรงต่อความตาย
นี่คือนักบู๊อย่างแท้จริง!
นี่คือจอมยุทธที่แท้จริง!
“เมื่อเป็นแบบนี้งั้นฉันก็จะส่งเสริมนาย”
หยางเฟิงไม่พูดจาไร้สาระใดๆอีก
เขารู้แล้วว่าเจี้ยนเฟิงเตรียมตัวตายล่วงหน้าแล้ว
พูดมากก็ไม่เกิดผลอะไรอีก
“นายลงมือได้เลย”
หยางเฟิงกล่าวเสียงเรียบเฉย
อ๊าก!
เจี้ยนเฟิงโห่ร้องเสียงดังกลิ่นอายบนกายพุ่งกระฉูดแบบไม่ยั้ง
เสี้ยววินาทีนี้กลิ่นอายอันบ้าคลั่งแผ่ซ่านออกจากตัวเขา
ระดับแดนปรมาจารย์!
ภายในระยะเวลาอันสั้นเจี้ยนเฟิงพัฒนาจากระดับฮั่วจิ้งเป็นระดับแดนปรมาจารย์?
เพื่อการล้างแค้นให้ท่านสามเขาฝึกปรือทุกคืนวัน
ในที่สุดเมื่อคืนเขาก็เกิดแรงบันดาลใจและกระจ่างจนก้าวเข้าสู่แดนปรมาจารย์!
คนส่วนใหญ่จะติดอยู่แต่ระดับฮั่วจิ้งทั้งชีวิตไม่ว่าจะมุมานะอุตสาหะเพียงใดก็ไม่อาจทะลุสู่ระดับที่สูงกว่าได้
ฮั่วจิ้งกับปรมาจารย์แม้จะมีเพียงสิ่งขวางกั้นอย่างเดียวทว่ากลับเป็นร่องที่ยากจะก้าวผ่าน
เมื่อเห็นกลิ่นอายผู้มีฝีมือระดับปรมาจารย์จากตัวเจี้ยนเฟิงใบหน้าหยางเฟิงก็เกิดความเสียดายขึ้น
เจี้ยนเฟิงคือคนที่มีพรสวรรค์คนหนึ่ง
แต่เสียดายที่คิดแต่จะหาที่ตาย!
และที่สำคัญถึงเจี้ยนเฟิงจะอยู่ในขั้นปรมาจารย์
แต่สำหรับหยางเฟิงแล้วก็ยังคงเป็นมดปลวกตัวหนึ่งเช่นเดิม!
“ฆ่า”
หลังจากตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราดหนึ่งเสียง
เจี้ยนเฟิงจับดาบยาวด้วยดวงตาเดือดดาล
กลิ่นอายสังหารอันน่าสะพรึงกลัวพวยพุ่งสู่ฟากฟ้า
ฟิ้ว!
เงาร่างหนึ่งหายลับไปจากที่เดิม
ความเคลื่อนไหวของเจี้ยนเฟิงเร็วปานฟ้าแลบแค่พลิกกายก็เลือนหายเสียแล้ว
เมื่อเทียบกับตอนประชันฝีมือกับหยางเฟิงในอดีต
ตอนนี้จะใช้คำเดิมสาธยายฝีมือเจี้ยนเฟิงไม่ได้อีกต่อไป
เมื่อแหวกว่ายคมดาบ!
ก็เกิดรอยฟันบนพื้นกะทันหัน
ระยะห่างของหยางเฟิงกับเจี้ยนเฟิงมีเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น
เมื่อดาบแหวกกลางอากาศใบหน้าก็เกิดความเจ็บปวดจากการถูกบาด
เมื่อเผชิญหน้ากับการฟันดาบที่แกร่งกล้าที่สุดในชีวิตของเจี้ยนเฟิง
หยางเฟิงเพียงแค่ยืนกับที่ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องการพุ่งเข้ามาเพื่อเอาชีวิตของเจี้ยนเฟิงแบบไม่คลาดสายตา