หยางเฟิงยิ้มถาม“ที่รักช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้าง?”
เย่เมิ่งเหยียนเอ่ย“ตอนนี้ทางหู้ไห่มั่นคงดีบริษัทจึงไม่มีปัญหาอะไร”
หลังจากแก๊งเขียวดับสูญสำนักหงก็กลายเป็นผู้มีอิทธิพลเจ้าใหญ่ในหู้ไห่ทันที
เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากสำนักหงเฟิงเมิ่งกรุ๊ปจึงเข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว
หยางเฟิงยิ้มน้อยๆถามว่า“คิกคิก!บริษัทไม่มีปัญหาอะไรงั้นพวกเราก็ออกไปเที่ยวหน่อยดีไหม?”
เย่เมิ่งเหยียนถามด้วยความสงสัย“เที่ยว?ไปเที่ยวที่ไหนเหรอ?”
“จินหลิง!”
หยางเฟิงตอบเสียงเรียบๆ
“จินหลิงเหรอ?”ดวงตาเย่เมิ่งเหยียนสว่างวาบ“ดีค่ะจินหลิงเป็นเมืองหลวงของหกราชวงศ์คือถิ่นรักษาวัฒนธรรมเก่าแก่ในภาคใต้และปัญญาชนของทุกยุคทุกสมัยก็ประวัติตรงนั้นเยอะมากด้วย”
หยางเฟิงยิ้มเอ่ย“ถ้าคุณไม่มีปัญหางั้นอีกเจ็ดวันพวกเราไปที่จินหลิงกัน!”
เย่เมิ่งเหยียนเอ่ยเสียงระรื่น“ตอนนี้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วเป้าหมายต่อไปคือจินหลิงการท่องเที่ยวครั้งนี้ก็ถือโอกาสสำรวจไปด้วยเลย”
หยางเฟิงส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา
นับวันภรรยาของเขาก็ยิ่งเหมือนหญิงแกร่งขึ้นทุกที
คาดว่าอีกหน่อยเขาที่เป็นเขยแต่งเข้าบ้านคงต้องกลายเป็นผู้ชายแมงดาแน่!
“ที่รักผมเห็นคุณเหนื่อยๆงั้นผมนวดให้นะ”
ทันใดนั้นหยางเฟิงปริปากพูดกะทันหัน
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้า“ดีจัง”
จากนั้นหยางเฟิงก็เริ่มนวดให้เย่เมิ่งเหยียน
“สบายจังเลย!”
เย่เมิ่งเหยียนอดพูดเสียงเบาไม่ได้
หยางเฟิงใช้แรงนวดได้พอเหมาะทำให้สบายทั้งกายและใจ
บางครั้งเย่เมิ่งเหยียนก็อดสงสัยไม่ได้ว่า
ห้าปีที่หยางเฟิงหายตัวไปคือไปเป็นทหารหรือไปเป็นหมอนวดกันแน่!
เย่เมิงเหยียนใบหน้าสดใสสวยงามออกมาแบบไม่ยั้ง
หัวใจหยางเฟิงไหวหวั่น
ภรรยาของเขาทำให้เขาหลงจนหัวปักหัวปำเลยทีเดียว
เขาคลี่ยิ้มจากนั้นมือก็ค่อยไปลูบไล้ลงไป
เย่เมิ่งเหยียนหน้าแดงระเรื่อ……
เวลาเจ็ดวันผ่านไปในชั่วพริบตา
หยางเฟิงพาเย่เมิ่งเหยียนนั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจไปที่จินหลิง
เวลาเดียวกัน
ณจินหลิง
แก๊งฟ้าดินเชื้อเชิญยอดยุทธในแถบตอนใต้ไปร่วมงานที่สำนักงานใหญ่ในเมืองจินหลิง
คนส่วนมากไม่รู้เจตนารมณ์ของการเชิญร่วมงาน
ทว่าแก๊งฟ้าดินมีอำนาจด้านวรยุทธในภาคใต้สูงผู้ที่อยู่ในวงการยุทธจักรจึงต้องเข้าร่วม
ทั่วทั้งเมืองจินหลิงจึงคึกคักเป็นพิเศษ
ณขณะนี้
สำนักงานใหญ่ของแก๊งฟ้าดินเฉินป้าเซียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ
โดยมีเฉ่าซือไห่ยืนอยู่ด้านหน้าแล้วถามด้วยความระมัดระวัง“ท่านบอสครับจัดงานงานประลองบู๊เพื่อโจมตีหยางเฟิงใช่ไหมครับ?”
เฉินป้าเซียนเอ่ยด้วยความดูถูก“นายเห็นความสำคัญของหยางเฟิงเกินไปหรือเปล่าที่ฉันจัดงานนี้ก็เพื่อรวบรวมนักบู๊ในภาคใต้เป็นหนึ่งเดียวแก๊งฟ้าดินจะได้กลายเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้อย่างแท้จริง!”
ในความคิดของเฉินป้าเซียนหยางเฟิงไม่ได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
หากเขาคิดจะกำจัดหยางเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องเอิกเกริกเพียงนี้
ได้ยินดังนั้นเฉ่าซือไห่ก็ไม่กล้าพูดมากอีก
ความผิดหวังแวบผ่านดวงตาเขาปราดหนึ่ง
สาเหตุที่เขามาจินหลิงก็อยากใช้อำนาจของแก๊งฟ้าดินช่วงชิงอิทธิพลในหู้ไห่กลับมา
ทว่าตอนนี้ดูเหมือนเฉินป้าเซียนจะไม่มีความคิดนี้
คล้ายกับอ่านใจเฉ่าซือไห่ออกเฉินป้าเซียนกล่าวเสียงเรียบพร้อมกับยิ้ม“คิกคิกเฉ่าซือไห่นายวางใจเถอะฉันใส่ใจเรื่องของนายเสมอฉันได้ส่งการ์ดเชิญไปให้หยางเฟิงและสำนักหงในหู้ไห่แล้ว”
ได้ยินดังนั้นดวงตาเฉ่าซือไห่สว่างจ้าทันที
เขาถามเสียงระมัดระวัง“บอสครับกลัวก็แต่หยางเฟิงกับคนสำนักหงไม่กล้ามาสิครับ?”
เฉินป้าเซียนยิ้มอย่างดูแคลน“ไม่มาก็ไม่เป็นไรรอให้ฉันผนึกกำลังนักบู๊ในภาคใต้เสร็จแล้วฉันจะใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดไปกวาดล้างเมืองหู้ไห่ถึงเวลานั้นสำนักหงก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง”