เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 411
สีหน้าของเธอ ค่อยๆโกรธขึงขึ้นมา
จนท้ายที่สุด ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ราวกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ!
เย่เมิ่งเหยียนสบถออกมาอย่างน้อยครั้งจะได้เห็น : “เกินไปแล้ว! เลวทรามต่ำช้า! ตระกูลหลันทำไมเปลี่ยนไปได้อย่างน่ากลัวขนาดนี้?”
บันทึกทุกๆเรื่องด้านใน แต่ละอาชญากรรมที่พวกนั้นก่อ ล้วนทำให้ผู้คนตระหนกตกใจ
ถ้าบันทึกพวกนี้เป็นเรื่องจริง
เกรงว่ายิงคนตระกูลหลันทุกคนให้ตายสิบครั้งก็ยังเป็นเรื่องที่ยอมรับได้!
เย่เมิ่งเหยียนไม่คิดเลย ว่าตระกูลของคุณตาเธอ จะน่ารังเกียจขนาดนี้!
กลายเป็นแมงดูดเลือดเกาะอยู่บนตัวของชาวเมือง!
หยางเฟิงกล่าวถามด้วยใบหน้าเย็นชา : “เสือขาว ในบันทึกพวกนี้เป็นเรื่องจริงหมดเลยหรือ?”
เสือขาวตกใจ เขารู้สึกได้ถึงเจตนาสังหารที่รุนแรงจากตัวของหยางเฟิง แล้วรีบพูดว่า : “ท่านแม่ทัพ ผมเอาข้อมูลพวกนี้ทั้งหมดส่งให้หม่าตงแล้วครับ ผมเชื่อว่าในไม่ช้าจะทราบผลครับ”
หยางเฟิงพยักหน้า : “ดีมาก!”
ตอนนี้หม่าตงควบคุมพื้นที่สีเทาทั้งหมดในตงไห่
การให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้ เหมาะสมที่สุดแล้ว
ขณะที่เขาพูดไป สองดวงตาของหยางเฟิง ก็ประทุไปด้วยเจตนาสังหารอย่างเยือกเย็น
เขาพูดกับตัวเองด้วยเสียงเย็นว่า : “หวังว่าตระกูลหลันคงไม่อยากทำร้ายตัวเองหรอกนะ!”
ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ หยางเฟิงก็ไม่อยากลงมือกับตระกูลหลัน
อย่างไรเสีย ตระกูลหลันก็เป็นญาติฝั่งแม่ของหลันซิน
หลันเจิ้นคือคุณตาของเย่เมิ่งเหยียน!
แต่ถ้าพวกเขากดขี่ข่มเหงชาวเมืองจริงๆ
นั่นก็เท่ากับว่าแตะต้องจุดอดทนต่ำสุดของเขา
อย่างนั้นหยางเฟิง ก็ทำได้เพียงฆ่าพวกมัน!
เย่เมิ่งเหยียนที่ด้านข้างก็รู้สึกได้ถึงรังสีสังหารที่เยือกเย็นจากตัวของหยางเฟิง
ในตอนนี้
เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไร
ได้แต่ภาวนาในใจเงียบๆ หวังว่าทั้งหมดนี่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิด!
ขณะเดียวกัน
ย่านเล็กๆที่เงียบสงบ
ที่นี่คือชุมชนหนึ่งในตงไห่
คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่คือคนจากที่อื่นเข้ามาทำงาน อาชีพของพวกเขา ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าพนักงานรักษาความปลอดภัย กรรมกร คนทำอาหาร พนักงานเซิร์ฟ พนักงานทำความสะอาด
ล้วนเป็นชาวเมืองชนชั้นล่างสุดของเมืองนี้
“อย่าทำฉัน! อย่าทำฉันเลย! ฉันเจ็บ!”
เสียงร้องไห้คร่ำครวญ ดังออกมาจากบ้านทีผุพังและมืดมน
ชายร่างใหญ่กลุ่มหนึ่ง กำลังรุมทำร้ายสาวน้อยวัยประมาณยี่สิบปี
สาวน้อยร่ำไห้เปียกปอน ตะโกนร้องไม่หยุด พยายามหลบเลี่ยง
แต่ชายร่างใหญ่กลุ่มนี้ไม่แยแสสักนิดเลย
“เอาล่ะ พอได้แล้ว!”
ในตอนนี้ ร่างอ้วนในชุดสูท สูบซิการ์เข้าปอดเฮือกหนึ่ง แล้วกล่าวเสียงเรียบ
ชายร่างอ้วนคนนี้ เป็นญาติฝั่งแม่ของตระกูลหลัน ชื่อของเขาคือหลันฮ๋าว!
มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเย่เมิ่งเหยียน!
ในฐานะญาติของตระกูลหลัน
หลังจากที่ตระกูลหลันกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในตงไห่
สถานะของหลันฮ๋าวก็สูงขึ้นตามไปด้วย
ในตอนนี้หลันฮ๋าว คือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในเขตพื้นที่สีเทาของตงไห่
กิจการทั้งหมดของตระกูลหลันในเขตพื้นที่สีเทา เขาคือคนที่กำกับดูแล
ได้ยินคำของหลันฮ๋าว
ชายร่างใหญ่ทั้งกลุ่มก็หยุดทันที
บนร่างกายของสาวน้อยเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เธอขดตัวอยู่ที่มุมห้อง
หลันฮ๋าวเดินเข้าไป ย่อตัวลง มองไปที่สาวน้อยแล้วถามเสียงเข้ม: “บอกฉันมา แม่แกมันไปไหน?”
ก่อนหน้านี้ไม่นาน
หลันฮ๋าวรู้ข่าวว่า เสือโบราณลูกน้องที่เก่งกาจของเขาถูกกลุ่มคนลึกลับจับตัวไป
ได้ข่าวว่า ที่เสือโบราณถูกจับไปมันเกี่ยวกับโจวซู่เอ๋อร์
พวกเขาคนตระกูลหลัน เคยโดนใครในตงไห่กลั่นแกล้งเสียเมื่อไหร่?
หลังจากได้ยินข่าวนี้
หลันฮ๋าวก็พาคนมาบุกบ้านโจวซู่เอ๋อร์ทันที
คิดไม่ถึงเลยว่า
โจวซู่เอ๋อร์จะไม่อยู่บ้าน มีเพียงลูกสาวปัญญาอ่อนของเธออยู่
โจวเสี่ยวเฉ่ามองไปที่หลันฮ๋าวอย่างหวาดกลัว สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ทั้งหัวเราะอย่างไร้เหตุผลทั้งร้องไห้ : “ฮือฮือ! พวกแกไอ้คนไม่ดี!”
เห็นดังนั้น หลันฮ๋าวก็ขมวดคิ้ว
ลูกน้องด้านข้างจึงพูดว่า : “พี่ฮ๋าวครับ อีนี่มันปัญญาอ่อน เกรงว่าถามไปก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ”
“เหอะ!”
หลันฮ๋าวลุกขึ้นยืน กล่าวเสียงต่ำเย็นเยียบ : “แม่มันทำให้ตระกูลหลันของฉันไม่พอใจ ความผิดนี้ไม่อาจอภัยได้ ถ้าหาแม่มันไม่เจอ ก็ให้มันใช้หนี้แทนแม่ก็แล้วกัน!”