เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 452
ตนเองก็ต้องกลายเป็นคนพิการ
หากเวลานี้ไม่เยาะเย้ยสักหน่อย
จะคู่ควรกับความโกรธที่ตนเองได้รับในปีนั้นได้อย่างไร?
ขณะที่หลันเจิ้นกำลังพูดประชดประชันเสียดสี
ทันใดนั้น
หลันเฟิงหลันจื่อสองพ่อลูก ก็วิ่งรีบร้อนเข้ามา
“พ่อ เรื่องใหญ่อุปสรรคมากคงจะไม่ค่อยราบรื่นแล้ว!”
หลันเฟิงส่งเสียงออกมาก่อน จากนั้นเมื่อเห็นเย่เทียน ก็หุบปากแน่น
หลันเจิ้นกล่าวตำหนิว่า: “เรื่องอะไรถึงรีบร้อนเช่นนี้? หลันเฟิง ตอนนี้เจ้าก็นับว่าเป็นผู้ตัดสินใจของตระกูลหลันแล้ว ทำงานก็ควรจะใจนิ่งใจเย็น”
“ครับๆๆ!”
หลันเฟิงรีบพยักหน้า
เห็นเช่นนี้
ความโกรธของหลันเจิ้นบรรเทาลงเล็กน้อย จึงกล่าวถามว่า: พูดมาเถอะ ตกลงมีเรื่องอะไร?”
“นี่………”
หลันเฟิงชำเลืองมองเย่เทียน แล้วลังเลใจเล็กน้อย
เห็นภาพนี้แล้ว
หลันเจิ้นก็เข้าใจ
เขาจึงลุกขึ้นยืน: “ไป พวกเรากลับไปแล้วค่อยคุยกัน!”
เห็นว่าหลันเจิ้นจะไป
เย่เทียนจึงยิ้มแล้วกล่าวถามว่า: “ทำไมจะไปแล้วละ? ไม่เล่นหมากรุกอีกสักสองสามกระดานเหรอ?”
หลันเจิ้นกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า: “ผีนะสิถึงจะเล่นหมากรุกกับคนไม่เก่งอย่างแก เสียเวลากูจริงๆ เลย!”
พูดจบ
หลันเจิ้นก็พาหลันเฟิงและคนอื่นๆ ออกไปอย่างรีบร้อน
เย่เทียนหรี่ตามอง
ดูท่า
ตระกูลหลันจะเจอปัญหาใหญ่แล้วล่ะ!
ทันใดนั้น
เงาดำเงาหนึ่ง ก็ปรากฏตัวข้างๆ เย่เทียน
อีกฝ่ายสวมชุดดำ
บนใบหน้าสวมหน้ากากผี
ซึ่งเห็นโฉมหน้าได้ไม่ชัดเจนโดยสิ้นเชิง
เย่เทียนกล่าวอย่างนิ่งๆ ว่า: “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“หยางเฟิงกลับมาแล้ว!”
เสียงของอีกฝ่าย คล้ายกับการเสียดสีของโลหะ แหบพร่าไม่น่าฟัง!
เพียงแต่ห้าคำนี้
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไปอย่างมากทันที
หยางเฟิง!
ชื่อนี้ เป็นฝันร้ายภายในใจของเย่เทียนจริงๆ
ทุกครั้ง ตอนที่ฝันร้ายย้อนกลับมากลางดึก เขาล้วนมีความเคียดแค้นต่อหยางเฟิง!
เย่เทียนกล่าวขึ้นทันทีว่า: “มิน่าล่ะหลันเฟิงถึงมีท่าทีลุกลี้ลุกลน ที่แท้ก็เพราะหยางเฟิงกลับมาแล้วนี่เอง ดูท่าครั้งนี้ตระกูลหลันจะเจอปัญหาใหญ่ซะแล้ว!”
พูดถึงตรงนี้
บนใบหน้าของเย่เทียนก็ปรากฏอารมณ์ที่ยินดีปรีดาในความทุกข์ของผู้อื่น
หลายมานี้ที่ตระกูลหลันอยู่ตงไห่ ได้แอบทำเรื่องชั่วช้ามากมายเพียงใด เขาก็ร้อยู่แก่ใจ
ถ้าหากเรื่องเหล่านี้ถูกหยางเฟิงล่วงรู้เข้า
เกรงว่าตระกูลหลันจะเจอภัยพิบัติครั้งใหญ่!
“สถานะของหยางเฟิง คุณตรวจสอบได้แล้วหรือยัง?”
สำหรับสถานะของหยางเฟิง
คล้ายกับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกเสมอมา
แต่ก่อน
เย่เทียนยังคิดว่าหยางเฟิงเป็นแค่ไอ้กุ๊ยธรรมดาทั่วไป
แต่ครั้งนี้ หลังจากที่หยางเฟิงกลับมาใหม่อีกครั้ง ก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งโดยสิ้นเชิง!
แต่ตนเอง ก็เปลี่ยนจากผู้นำตระกูลเย่ที่สูงส่ง กลายเป็นตาแก่พิการคนหนึ่งที่เจอภัยพิบัติครั้งใหญ่
ลูกชายสองคนของเขา รวมทั้งของครอบครัวพี่ชาย ก็ล้วนตายด้วยน้ำมือของหยางเฟิง
ความแค้นอันมหาศาลเช่นนี้
หากไม่แก้แค้น!
ก็คงจะละอายใจจริงๆ!
ตอนนี้ที่เย่เทียนเสียใจที่สุดก็คือ
ในปีนั้น
ทำไมถึงจะต้องเลือกหยางเฟิงเป็นเขยตระกูลเย่ด้วยนะ?
ถ้าหากไม่เลือกหยางเฟิง
เกรงว่าตนเองก็คงจะไม่มีจุดจบที่น่าเวทนาเช่นนี้!
“ตรวจสอบไม่ได้ครับ!”
ดวงตาทั้งคู่ของอีกฝ่ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากผีนั้น เยือกเย็นไร้ความปรานี ไม่มีความแปรปรวนของอารมณ์แม้แต่น้อย
เหมือนกับว่า เป็นคนตายคนหนึ่ง!
“อะไรนะ?”
ได้ยินเช่นนี้ เย่เทียนก็ตกใจอย่างมาก: “ด้วยพลังแห่งประตูผีของคุณ คาดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถตรวจสอบสถานะของหยางเฟิงได้เช่นนั้นหรือ?”
ประตูผีคืออะไร?
เย่เทียนรู้ชัดเจนเป็นอย่างดี!
นี่คือองค์กรหนึ่งที่ลึกลับและมีขนาดใหญ่
ทั่วทั้งต้าเซี่ย มีสายกระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ที่ทำให้คนหวาดกลัวก็คือ
กระทั่งสมาชิกของประตูผี ก็ไม่รู้จักสถานะของกันและกัน
บางที
ภรรยาของคุณ ลูกชายของคุณ พ่อของคุณ…..
คนข้างตัวของคุณ เพื่อนของคุณ…..
พวกเขาก็คือคนของประตูผี!
พวกเขาก็คือผีร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด