อะไรน่ะ?
ยังให้จ้าวชวนขอโทษเด็กนอกคอกอีกด้วย?
เขายังบอกว่าถ้าตอนนี้ไม่ขอโทษ อีกสักครู่คุกเข่าขอร้องก็ไม่มีประโยชน์?
เขายังไม่ตื่นมั้ง นี่มันยโสโอหังเกินไปแล้ว?
เขาเป็นคนโง่หรือ? กล้าพูดเช่นนี้กับคนตระกูลจ้าว?
คนหนุ่มที่ยังมองโลกไม่รอบด้าน จึงไม่รู้สึกกลัวอะไร ซึ่งมันเป็นการรนหาที่ตายเอง
ผู้ปกครองที่เหลือต่างตกตะลึง
“เมื่อสักครู่จ้าวชวนแค่อยากจะหักขาของเขาข้างหนึ่ง แต่เขากลับยโสโอหังขนาดนี้ แล้วมันจะไม่ง่ายแค่หักขาข้างหนึ่งแล้ว”
ครูโจวจับหน้าและกล่าวด้วยความโมโหว่า “ประธานจ้าว ไม่จำเป็นต้องพูดไร้สาระกับคนรนหาที่ตาย ดูสิว่าเขาทำร้ายภรรยาและลูกของคุณจนมีสภาพเช่นนี้ เสี่ยวเป๋าอายุแค่ห้าขวบเท่านั้น เขายังลงมือทำร้ายได้ลงคอ”
“แม่งฉิบหาย ต่อหน้าผมจ้าวชวนแล้วยังกล้าเสแสร้งเช่นนี้อีก เดิมทีคิดจะตัดขาข้างหนึ่ง ตอนนี้หักแขนขาของมันซะ”
จ้าวชวนกล่าวด้วยความผยอง “ลูกเสี่ยวเป๋า ไปตบหน้าเด็กนอกคอกเพื่อจะได้ระบายความโกรธ”
เสี่ยวเป่ากล่าวด้วยความโมโหว่า “เย่เยว่ซือ เด็กนอกคอก คอยดูว่าฉันจะจัดการเธออย่างไร”
อันธพาลสิบกว่าคนพุ่งเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“คุณพ่อค่ะ หนูกลัว”
ซือซือก้มหน้าซุกเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เซิ่งเทียน
“ซือซือ หลับตาลง”
เย่เซิ่งเทียนลูบศีรษะเล็ก ๆ ของเธอ
ทันใดนั้น ร่างของเย่เซิ่งเทียนเปล่งประกายดุดันราวกับเสือที่พร้อมจู่โจม
ขาของเขาเหมือนล้อหมุนความเร็วสูง และชั่วพริบตา อันธพาลทั้งหมดล้มลงบนพื้นทันที
“ขาของผม”
“แขนของผม”
“…………..”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ทำให้คนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกหนังศีรษะชา
“คุณไม่คู่ควรเป็นครู”
ก่อนที่คนอื่นจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เย่เซิ่งเทียนตบครูโจวกระเด็นออกไป
จากนั้นก็เดินมาอยู่หน้าจ้าวชวน
“คุณ คุณคิดจะทำอะไร? ผมจะบอกคุณว่าผมเป็นคนของตระกูลจ้าวเชียวน่ะ”
จ้าวชวนตกใจจนไม้เบสบอลร่วงลงบนพื้น
ทำไมไอ้โรคจิตคนนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
เย่เซิ่งเทียนใช้เท้าเตะไปที่หน้าของเขา
จ้าวชวนกระเด็นออกไป
และไม่สามารถลุกได้เป็นเวลานาน
“คุณ คุณกล้าทำร้ายสามีฉัน ฉันจะสู้ตายกับคุณ”
เมื่อเห็นจ้าวชวนถูกทำร้าย พี่หลานรีบวิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เย่เซิ่งเทียนตบหน้าจนตัวเธอนั้นหมุนไปสามรอบ
“คุณรอเดี๋ยว ผมจะโทรหาพี่ชาย ถ้าคุณแน่จริงก็อย่าเพิ่งหนีไป”
จ้าวชวนลุกขึ้น เช็ดใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วโทรศัพท์ให้พี่ชายทันที
“เขาไม่กลัวตายจริงหรือ? กล้าทำร้ายจ้าวชวน?”
“เขามีประวัติความเป็นมาอย่างไร? ถึงได้ต่อสู้เก่งขนาดนี้ แต่ถึงแม้เขาจะสู้เก่ง ก็ต้องตายอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเขาได้ล่วงเกินตระกูลจ้าวแล้ว”
ครูโจวลุกขึ้น และด่าเหมือนมนุษย์ป้า “ไอ้ชายชู้ คุณกับเด็กนอกคอกรอความตายพร้อมกันเถอะ ฉันได้โทรแจ้งตำรวจแล้ว”
ซือซือตกใจจนหน้าซีดเผือด และกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “คุณพ่อ พวกเรากลับกันเถอะ หนูไม่ชอบที่นี่”
“โอเค พวกเรากลับบ้าน”
เย่เซิ่งเทียนมองจ้าวชวนและคนอื่น ๆ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณต้องขอบคุณลูกสาวของผม มิฉะนั้นพวกคุณตายไปแล้ว”
“นี่จะหลบหนีเพราะกลัวความผิดใช่ไหม? อย่าให้เขาหนีไปได้เด็ดขาด”
“ถูกต้อง คนตระกูลจ้าวและตำรวจกำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ คิดจะหลบหนีหรือ? ฝันไปเถอะ”
“คุณยังไปไม่ได้ ทำร้ายคนเสร็จก็คิดจะไปหรือ? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
ผู้ปกครองสิบกว่าคนยืนขวางทางไว้
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้ว คนเหล่านี้ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด?
และขณะนี้ รถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งขับรถเข้ามาในโรงเรียนอนุบาล
และมีรถขับตามหลังสิบกว่าคัน
“พี่ชายผมมาถึงแล้ว คุณกล้าทำร้ายผม คุณต้องตายแน่นอน”
จ้าวชวนเปลี่ยนเป็นอวดเก่งทันที และรีบไปเปิดประตูรถ
จ้าวห้าวที่นั่งอยู่บนรถเข็น กล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า “ใครกล้าทำร้ายคนตระกูลจ้าว เบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม?”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวราบเรียบว่า “คนตระกูลจ้าวล้วนไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเลยหรือ?”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ จ้าวห้าวรู้สึกตกตะลึง แล้วมองไป
หลังจากนั้นสีหน้าของเขาซีดเผือด ร่างกายกระตุกราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
เขาตกใจกลัวจนร่วงลงมาจากรถเข็น