“ครั้งนี้ ตระกูลหวางของเรากำลังจะก้าวหน้าแล้วจริงๆ แม้ว่าเราจะลงทุนไป 2.2 พันล้าน แต่ขอแค่โครงการเหล่านั้นเสร็จสิ้น พวกเราก็จะได้รับผลตอบแทนมากกว่าหมื่นล้าน”
“ใช่ ด้วยอานุภาพของเจ้าเทพที่ช่วยสนับสนุน เมืองใหม่นี้จะกลายเป็นมหานครระดับนานาชาติ ว่ากันว่าบุคคลสำคัญในต่างประเทศก็ได้เริ่มจองแล้วเพื่อเอาใจเจ้าเทพ”
“ฮ่าฮ่า หมื่นล้านนี้ก็เป็นแค่เพียงผลตอบแทนหลังจากเสร็จสิ้นโครงการเมืองใหม่ จากนี้ไปจะยิ่งมีผลตอบแทนมากกว่านั้นอีก”
คนในตระกูลหวาง มีความสุขกันถ้วนหน้า
แม้ว่าที่ดินของบรรพบุรุษจะถูกขายไป และเรื่องนี้ทำให้ผู้เฒ่าบางคนไม่พอใจอยู่บ้าง
แต่ทันทีที่พวกเขาได้ยินผลตอบแทนที่สูงมากขนาดนั้น อีกทั้งยังเป็นเกาเจี๋ย อดีตเลขาของจ่งตูเปิดเผยข่าวออกมาเอง พวกเขาทั้งหมดก็สนับสนุนหวางหงในการขายที่ดินของบรรพบุรุษทันที
มันก็แค่ที่ดินผืนหนึ่งไม่ใช่หรือ?
สิ่งที่ทุกคนกังวลคือการต้องย้ายสุสานบรรพบุรุษและหอบรรพบุรุษจะถูกทำลาย
แต่เกาเจี๋ยบอกแล้วว่า เขาจะไม่แตะต้องสุสานบรรพบุรุษและหอบรรพบุรุษของตระกูลหวาง
อย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
ที่ดินผุพังผืนหนึ่งวางอยู่ตรงนั้นก็ไร้ประโยชน์ ขายไปเสียยังดีกว่า
“ในเมื่อทุกคนรู้หมดแล้ว อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไปแล้ว ขอแค่โครงการเมืองใหม่เสร็จสิ้นลง พวกเราตระกูลหวางก็มีโอกาสที่จะเป็นตระกูลชั้นหนึ่งในเฉียนถังทันที”
หวางหงมองไปที่ฝูงชนและพูดอย่างภาคภูมิใจ
โครงการเมืองใหม่เป็นการลงทุนที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเขา
นี่ถือเป็นรายได้ที่มองเห็นอยู่จะราวกับกำลังเข้าไปรับเงินมา
“หึหึ พูดขึ้นมา ก็ยังต้องขอบคุณ หวางซีและเย่เซิ่งเทียนคู่สุนัขชายหญิงนั่น ถ้าไม่เพราะเย่เซิ่งเทียนช่วยเจ้าเทพบังลูกกระสุนเอาไว้ พวกเราตระกูลหวางคงไม่ได้โครงการดีๆ แบบนี้มา”
“ไม่ผิด หวางซีนังชั้นต่ำนั้น ในที่สุดก็มีประโยชน์ขึ้นมาแล้ว โครงการทั้งหมดในการสร้างเมืองใหม่ล้วนถูกตระกูลหวางและตระกูลหมิงกินรวบไปหมดแล้ว แม้แต่ทั้งสี่ตระกูลก็ยังไม่มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย”
คนในตระกูลหวางล้วนเอ่ยอย่างพอใจ
นายหญิงใหญ่หวางถอนหายใจ แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับการขายที่ดินของบรรพบุรุษอย่างยิ่ง แต่สถานการณ์ในตอนนี้เธอนั้นไม่สามารถควบคุมได้เลย
นอกจากนี้ การต่อต้านของเธอก็ไร้ประโยชน์ ลูกชายคนโตไม่ฟังเธอเลยสักนิด
หวางหงยิ้มจางๆ จากนั้นก็ค่อยเผยอีกข่าวขึ้นมา “เกาเจี๋ยเชิญพวกเราไปชมพิธี เขาบอกว่าอันที่จริงเป็นเจ้าเทพที่ถูกใจที่ดินบรรพบุรุษของเรา”
“อะไรนะ?”
“เป็นเจ้าเทพที่ถูกใจที่ดินแดนบรรพบุรุษของเรา?”
“เจ้าเทพซื้อที่ดินผืนนี้ไปทำไมกัน?”
“พระเจ้า เป็นเจ้าเทพหรือเนี่ย แบบนี้ก็แทบจะพูดได้ว่า เจ้าเทพกำลังดูแลตระกูลหวางของพวกเรา”
ดวงตาของนายหญิงใหญ่หวางเป็นประกาย ใบหน้าที่แต่เดิมบูดบึ้งของเธอเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มราวกับดอกเบญจมาศทันที “ดูเหมือนว่า เจ้าเทพจะกำลังดูแลตระกูลหวางของเราจริงๆ ยังไงเสียหวางซีก็เป็นหลานสาวของตระกูลหวางเรา ส่วนเย่เซิ่งเทียนก็เคยช่วยเจ้าเทพบังกระสุนเอาไว้ ดังนั้นเจ้าเทพถึงได้คิดถึงตระกูลหวางของพวกเรา”
“ใช่”
อาสะใภ้สามพูดย้ำขึ้น “คนอย่างเจ้าเทพ สิ่งที่ให้ความสนใจมากที่สุดก็คือชื่อเสียง ขอแค่เขาดูแลตระกูลหวางของเราขึ้นมาบ้าง ก็ยิ่งได้รับชื่อเสียงมากขึ้น”
หวางหงพยักหน้าและเอ่ย “ใช่ อีกทั้งตระกูลหวางของเราก็กำลังสร้างโครงการเมืองใหม่อยู่ หากโครงการเมืองใหม่สร้างไม่ดี เจ้าเทพก็จะเสียหน้า ดังนั้นเขาถึงได้ใช้วิธีนี้มาดูแลตระกูลหวางของเรา ให้ตระกูลหวางของเราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างเมืองใหม่”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หวางหงก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไป ไปดูพิธีกันเถอะ จากที่เกาเจี๋ยบอก เจ้าเทพต้องการฝังผู้อาวุโสของเขาในที่ดินบรรพบุรุษตระกูลหวาง นี่คือความรุ่งโรจน์ของตระกูลหวางเรา”
เมื่อได้ยินดังนั้น คนในตระกูลหวางแต่ละคนก็มีสีหน้าตื่นตะลึงยินดีขึ้นมา
นี่เป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ เกาเจี๋ยเชื้อเชิญมา อย่างนั้นก็เทียบเท่ากับการเชื้อเชิญของเจ้าเทพไม่ใช่หรือ?
เจ้าเทพไม่เห็นด้วย เกาเจี๋ยหรือจะกล้าชวน?
“รีบไปเถอะ พวกเราอย่าได้ชักช้า”
หวางหงและคนอื่นๆ ทำราวกับกำลังไปเข้าร่วมพิธีอันยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง ทุกคนต่างก็แต่งกายเป็นเหมาะสมเป็นทางการ บนอกประดับดอกไม้สีขาว แทบเหมือนกับที่ตระกูลหวางจัดงานศพ
เพียงแต่ไม่รู้ว่า หากพวกเขารู้เข้าว่างานพิธีฝังศพอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขาตั้งใจไปร่วมในครั้งนี้ ก็คือพิธีฝังศพพ่อของหวางซีซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ฝังในหลุมศพบรรพบุรุษแล้วสีหน้าจะเป็นยังไง