ปากของฉางเฟิงเต็มไปด้วยเลือดและก่นด่าออกมาว่า “ขอโทษแม่แกสิ ตีเลย แกแน่จริงก็ตีฉันให้ตายเลย ไม่งั้น….”
เพี๊ยะ
เย่เซิ่งเทียนเองก็ไม่พูดอะไรอีกและตบหน้าเขาทันที
“อย่า อย่าตี ฉันขอโทษ ฉันขอโทษแล้วยังไม่ได้อีกหรือไง?”
ฉางเฟิงถูกทุบตีจนผวาไปแล้ว หากยังถูกทุบตีต่อไปแบบนี้อีก ใบหน้าของเขาก็เละเทะแล้ว
ลูกผู้ชายไม่ยอมเสียเปรียบ
รอฉันให้ดีเถอะ คอยดูว่าฉันจะจัดการกับพวกแกยังไงหลังจากนี้
ดวงตาของฉางเฟิงฉายแววโกรธเกรี้ยวชั่วร้าย เขากัดฟันเอ่ยว่า “คุณครู ขอโทษด้วย เป็นฉันที่ผิดเอง ฉันไม่ควรสร้างปัญหาขึ้น”
หญิงสาวตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไรไปนานแล้ว เธอมองดูเย่เซิ่งเทียนอย่างทำอะไรไม่ถูก
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องแบบนี้
เธอไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรดี
เย่เซิ่งเทียนราวกับว่ามองไม่เห็นแววตาชั่วร้ายของฉางเฟิง เขาพูดเสียงเรียบ “ฉันชื่อเย่เซิ่งเทียน ถ้าต้องการแก้แค้นก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าฉันรู้เมื่อไหร่ว่านายกำลังสร้างปัญหาให้คุณครู ฉันจะทำให้นายไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะสำนึกเสียใจ”
“ไม่ ไม่กล้า ฉันไม่แก้แค้นแน่”
ฉางเฟิงรับคำอย่างว่าง่าย เขาก้มศีรษะลง ในดวงตามีประกายโหดเหี้ยมวาบขึ้น
รอดูเถอะ ว่าฉันจะฆ่าพวกแกยังไง
เย่เซิ่งเทียนเองก็ไม่สนใจเขา สำหรับของพวกนี้ จะโมโหใส่เขาก็ยังรังเกียจ
“คุณครู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เย่เซิ่งเทียนอุ้มซือซือและเอ่ยถาม
“อ่า? ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ ฉัน เขา ต้องทำยังไงดีคะเนี่ย”
หญิงสาวกังวลมากจนแทบจะร้องไห้ ฉางเฟิงเป็นผู้จัดการฝ่ายบริหารของบริษัทหนานเทียน ซึ่งอยู่ภายใต้ตระกูลหนานกง
ฉางเฟิงให้ลูก ๆ ของเขามาเรียนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ ก็เพราะผอ.โรงเรียนเป็นฝ่ายไปขอร้องมา จุดประสงค์ก็เพื่อให้ฉางเฟิง มาลงทุน
แต่ตอนนี้ เพิ่งจะลงทะเบียนเสร็จก็ดันไปทำให้ฉางเฟิงขุ่นเคืองเข้าแล้ว
ทำอย่างไรดี?
กว่าที่ตนเองจะเข้ามาเป็นครูในโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ได้ก็ไม่ง่ายเลย ถ้าเธอถูกไล่ออกเพราะเรื่องนี้ กลับไปต้องถูกพ่อแม่ด่าตายแน่
“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ ไม่เป็นไร”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มอย่างปลอบโยนให้เธอ
เขาย่อมรู้ว่าบริษัทเทียนหนานเป็นของตระกูลหนานกง แต่ว่า แล้วยังไงกัน?
“เกิดอะไรขึ้น?”
การเคลื่อนไหวทางด้านนี้ ทำให้ผอ.ที่เพิ่งจะมาถึงตกใจ
กว่าเขาจะดึงฉางเฟิงมาที่นี่ได้ไม่ง่ายเลย จะให้เกิดเรื่องขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด
ทันทีที่เขาปรากฏตัว ก็เห็นฉางเฟิงกำลังนอนอยู่บนพื้น ใบหน้ามีเหงื่อออกและซีดขาว
ทันใดนั้นเขาก็ตะลึงงันไปทันทีและรีบวิ่งเข้าไปแล้วพูดว่า “คุณฉาง ประธานฉาง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ใครเป็นคนทำ?”
“จางหงถู ไอ้เวรเอ๊ย”
ฉางเฟิงตบหน้าจางหงถู จากนั้นก็พูดอย่างเหี้ยมเกรียมว่า “ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าแก ให้ลูกฉันมาลงเรียน แต่คนของแกกลับกล้ามาตะคอกใส่ฉัน แถมยังให้คนมาทุบตีฉัน แกรอฉันให้ดีเถอะ!”
พูดจบ เขาก็ไม่กล้ามองเย่เซิ่งเทียนเพราะกลัวว่าจะถูกทุบตีอีกครั้ง จากนั้นก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวรีบอธิบาย “ผอ. ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เป็น…”
“หุบปาก!”
จางหงถูโกรธจนแทบคลั่ง ฉางเฟิงเป็นนักลงทุนที่กว่าเขาจะดึงมาได้ไม่ง่ายเลย มาตอนนี้ กลับถูกคนที่เพิ่งเข้ามาทำงานไปทำให้ขุ่นเคืองเข้า
ช่างไร้สาระ ช่างไร้สาระจริงๆ
กล้าทำให้พ่อนายทุนของเขาขุ่นเคือง ช่างกินหัวใจหมีดีเสือดาวมาจริงๆ!
“ฟางหยวน!”
จางหงถูกดเสียงของเขาลงต่ำจนเกือบจะแค่นออกมา “เธอ เธอถึงกับกล้าทำให้ประธานฉางขุ่นเคือง เธอรู้ไหมว่าฉันต้องดื่มเหล้าไปมากเท่าไหร่ ลงแรงใจไปมากเท่าไหร่ถึงดึงนักลงทุนมาได้? ตอนนี้ เธอกลับแม่งทำให้เขาขุ่นเคืองไปแล้ว!”
หยวนฟางตกใจจนใบหน้าซีดขาวด้วยความหวาดกลัว น้ำตาของเธอไหลออกมาและรีบพูดว่า “ผอ. ฉันขอโทษ เป็นความผิดของฉัน ฉันยินดีรับโทษ”
“รับโทษ? หึหึ”
จางหงถูกัดฟันอย่างโกรธเคืองและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เธอคิดว่าลงโทษเธอแล้วสามารถแก้ปัญหาได้หรือไง? ประธานฉางถูกตีจนสภาพแบบนั้น เธอรับโทษแล้วแก้ไขได้? เวรเอ๊ย วันนี้ฉันจะต้องจัดการเธอให้ดีๆ”