Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1260 สังหาร!

ตอนที่ 1260 สังหาร!

เฮอะ!

ริมฝีปากหลินสวินขับเสียงแผ่วเบาหนึ่งออกมา นี่คือนัยเร้นลับเสียงคำรามผูเหลา คลื่นเสียงราวแก่นแท้แผ่กระจายออกมาปะทะเสียงคำรามของยุงโลหิตแปดปีกนั่น

ระหว่างทั้งคู่เกิดการระเบิดใหญ่ ครั่นครืนกลางฟ้าดิน!

ชิ้ง!

พร้อมกันนี้หลินสวินทะยานตัวราวเจินหลงเหินฟ้า ดาบหักใช้อานุภาพประหนึ่งทำลายได้ทุกสิ่งพุ่งสังหารออกไป

ประกายคมไร้เทียมทานเจิดจรัสพาให้ฟ้าดินไร้สี

ยุงโลหิตแปดปีกส่งเสียงคำราม ปากยาวเรียวดุจเหล็กหมาดปลายแหลมที่เฉียบคมหาใดเปรียบ เพียงจิกลงเบาๆ ก็สามารถทำลายการป้องกันทุกอย่างให้แตกออกจากกัน

นี่คือวิชาพรสวรรค์ของมัน เมื่อใดที่ถูกมันกัด พลังทั่วร่างจะถูกดูดจนแห้งในพริบตา กลายเป็นซากไร้วิญญาณ!

ตูม!

ดาบหักถูกขวางอีกครั้ง ถูกปีกสีเลือดแปดคู่สลายการโจมตี ส่วนปากเรียวแหลมของยุงโลหิตแปดปีกก็ปะทะเข้ากับหมัดของหลินสวิน

ประกายไฟพุ่งสาดทั่วทิศ ฝ่ามือหลินสวินพลันปวดแปลบ ผิวหนังเกือบถูกแทงทะลุ

ฟึ่บ!

นัยน์ตาสีเลือดของยุงโลหิตแปดปีกสาดลำแสงเขียวเข้มคู่หนึ่งออกมา พุ่งสังหารไปทางหลินสวินราวดาบสวรรค์ที่ไขว้สลับกัน

มันยิ่งคลั่งขึ้นแล้ว การโจมตีรวดเร็วรุนแรง ป่าเถื่อนหาใดเปรียบ ทำให้หลินสวินรู้สึกเกินกำลังและเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างยิ่ง

เดิมทีพลังปราณเขาก็ด้อยกว่าช่วงหนึ่ง ตอนนี้ยังมาเจอปีศาจไร้เทียมทานเช่นนี้อีก ทำให้แรงกดดันพลันเพิ่มขึ้นทันที

หลินสวินเคยสังหารยุงโลหิตหกปีกมากมายที่นอกเขตต้องห้ามแม่น้ำนรกมาก่อน แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าบุตรนรกในร่างยุงโลหิตแปดปีกจะมีพลังต่อสู้ร้ายกาจเช่นนี้

ฟุ่บ!

เพียงชั่วขณะหลินสวินก็ถูกแสงโลหิตที่วิวัฒน์จากอักษรนรกสายหนึ่งโจมตีใส่ ที่แขนถูกทะลวงจนเกิดรูโหว่ชุ่มเลือด เลือดเนื้อถูกกัดกร่อน

การโจมตีของยุงโลหิตแปดปีกรวดเร็วรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ยามปีกทั้งแปดของมันขยับก็ว่องไวดุจย้ายมวลสาร น่าตกตะลึงหาใดเปรียบ

อีกทั้งปีกแต่ละคู่ยังประทับอักษรนรกสีเลือดหนาแน่น สามารถปล่อยลำแสงโลหิตออกมาได้ พลังสังหารน่าตะลึง

ส่วนดวงตาและปากเรียวแหลมของมันก็มีความร้ายกาจต่างกันไป!

กล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งด้านพลังต่อสู้ที่ปีศาจตัวนี้มี สามารถทำให้เทพผีหวั่นหวาด

ตู้ม!

หลินสวินโคจรมรรคดับดารากลืนกินโดยไม่ลังเลอีก

ชั่วพริบตาทุกคนที่อยู่ตรงนั้นพลันใจสะท้าน รู้สึกได้ถึงความหนาวเยือกอย่างไม่อาจอธิบาย

เมื่อมองไปทางหลินสวินอีกครั้งก็เห็นเงาร่างเขาดุจเหวลึกกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด ห้วงอากาศที่ยืนอยู่ราวทรุดตัวลงเหมือนจะถูกกลืนกิน!

อานุภาพไร้รูปเช่นนั้นทำเอาทุกคนหน้าเปลี่ยนสีทันใด

“นี่คือพลังอะไรกัน”

มีคนตกตะลึง

“มหามรรคกลืนกินรึ มิน่าถึงมีคนพูดว่าเขาครอบครองมรรคอัศจรรย์ที่คล้ายอวิ๋นชิ่งไป๋!”

และมีคนไหวหวั่น

“พูดถึงการเก็บซ่อนพลัง แม้แต่บุตรนรกก็สู้หลินสวินไม่ได้ จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งใช้ไพ่ตายของตน!”

ยอดบุคคลบางส่วนตกตะลึง

เพียงชั่วขณะการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายทั่วร่างหลินสวินก็ชักนำให้มวลชนหันมามอง

โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งบางส่วนที่เคยเห็นการต่อสู้ของอวิ๋นชิ่งไป๋กับตาตนเอง ในใจยิ่งยกขึ้นมาเปรียบเทียบกับหลินสวิน

ตูม!

ยุงโลหิตแปดปีกพุ่งสังหารอีกครา กระพือปีกด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ ก็เห็นลำแสงโลหิตหลากสายนั่นโฉบพุ่งขึ้นไปบนอากาศ ร้อยถักเข้าด้วยกันเป็นคัมภีร์โบราณสีเลือดเล่มหนึ่งกดอัดลงมา

ดวงตาของมันปลดปล่อยประกายแสงเขียวเข้มแปลกประหลาด

เมื่อหลินสวินร้องตะโกน หุบเหวหนึ่งพลันปรากฏ ภายในนั้นมีดวงดาวนับไม่ถ้วนดับสลายอยู่รางๆ ส่งเสียงปะทะชวนประหวั่นเข้าขวางคัมภีร์โบราณสีเลือดนั้นอย่างแข็งกร้าว

ทั้งสองต่างปะทะกันอย่างรุนแรง ทำให้ห้วงอากาศใกล้เคียงปั่นป่วนโดยสมบูรณ์

ในห้วงนิมิตหลินสวินพลันสั่นสะเทือน ปรากฏลำแสงสีเขียวเข้มหลากสายพุ่งสังหารไปยังรูปจำลองจิตวิญญาณทั้งสามของเขา!

นี่คือวิชายอดสังหารของยุงโลหิตแปดปีกโดยไม่ต้องสงสัย!

ใช้คัมภีร์โบราณสีเลือดกดกำราบก่อน จากนั้นก็จู่โจมจิตวิญญาณอย่างไม่ทันตั้งตัว เปลี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งคนอื่น ต่อให้ขวางหนึ่งในการโจมตีนี้ได้ก็ต้องถูกการโจมตีอื่นจู่โจมกะทันหัน!

แต่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้ทำอะไรหลินสวินไม่ได้!

รูปจำลองจิตวิญญาณทั้งสามของหลินสวินเคี่ยวกรำถึงขั้นสูงสุดนานแล้ว ทั้งมีเสี่ยวอิ๋นที่พัฒนาเป็นราชันหนอนกินเทพคอยดูแล ไม่ต้องหวาดกลัวการสังหารจิตวิญญาณใดๆ เลย

ฟุ่บๆ!

พริบตานั้นรูปจำลองจิตวิญญาณทั้งสามก็โคจรเคล็ดมหาเวทบริกรรม เสี่ยวอิ๋นเองก็ออกโจมตีพร้อมกัน กำจัดลำแสงสีเขียวเข้มแต่ละสายนั้นจนสิ้น

ยุงโลหิตแปดปีกส่งเสียงร้องแหลม ได้รับผลสะท้อนกลับ

ตูม!

ในเวลาเดียวกันหุบเหวไร้สิ้นสุดแผ่อานุภาพไร้จำกัดออกมา กดอัดทลายคัมภีร์โบราณสีเลือดนั้นทีละน้อย ดูดกลืนไปจนสิ้น!

“ฟัน!”

ฉวยโอกาสนี้ ดาบหักถูกหลินสวินโคจรเต็มกำลังแล้วฟันผ่า

พรูด!

น้ำเลือดสาดกระจาย แขนทั้งสองของยุงโลหิตแปดปีกถูกตัดขาด หากไม่ใช่ว่ามันหลบได้รวดเร็วคงถูกผ่าออกเป็นสองซีกแล้ว

“สมเป็นเทพมารหลิน!”

มีคนตะโกนลั่น โลหิตเดือดพล่าน

การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นชั่วพริบตา อันตรายเกินคาดเดา น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง

และหลินสวินก็เริ่มโจมตีกลับอีกครั้ง จู่โจมยุงโลหิตแปดปีกกลับไปอย่างหนักหน่วงในคราเดียว

ยอดบุคคลบางส่วนไม่อาจไม่ยอมรับ ความแข็งแกร่งด้านพลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยให้เห็นตอนนี้อยู่นอกเหนือการคาดเดาของพวกเขาแล้ว

อันที่จริงเมื่อคิดอย่างละเอียด ตั้งแต่เริ่มต่อสู้จนถึงตอนนี้หลินสวินก็สามารถกลับร้ายเป็นดี พลิกสถานการณ์ได้ทุกครั้ง เดิมทีนี่ก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงอยู่แล้ว

ผู้แข็งแกร่งแดนนรกพวกนั้นต่างตะลึงนิ่งอึ้ง สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด

บนเขาจำศีลหัวโล้น พวกจี้ซิงเหยาอึ้งงันไปพักหนึ่ง ในการต่อสู้นี้เกิดเรื่องอันตรายมากเกินไปแล้ว ทำให้อารมณ์พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปมา

ตูม!

บนห้วงฟ้าหลินสวินใช้มรรคดับดารากลืนกินสำแดงกฎเกณฑ์แห่งตนออกมา อานุภาพต่างจากแต่ก่อนสิ้นเชิง เริ่มโจมตีกลับอย่างแข็งกร้าวแล้ว

ตัวเขาราวหุบเหวเคลื่อนขวาง ทุกหนแห่งที่พาดผ่านพายุม้วนทลายเมฆดูดกลืนทั่วทิศ ทุกการโจมตีล้วนถูกดับสลายสิ้น

อันที่จริงหลังถูกโจมตีกลับอย่างหนักหน่วง พลังต่อสู้ของยุงโลหิตแปดปีกก็ยังไม่อาจดูหมิ่นได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินกำราบอย่างสมบูรณ์

ไม่มีเหตุผลอื่นใด นอกจากตอนนี้หลินสวินได้ใช้ไพ่ตายของตนแล้ว!

ในอดีตที่ผ่านมา หากไม่ถึงขั้นหน้าสิ่วหน้าขวานหลินสวินก็ไม่มีทางใช้มรรคดับดารากลืนกินง่ายๆ

และสี่ปีที่ถูกขังอยู่ใต้แม่น้ำนรก หลินสวินก็หยั่งรู้พลังมหามรรคสะเทือนใต้หล้าสายนี้ถึงระดับ ‘ระเบียบมรรค’ นานแล้ว อานุภาพเช่นนั้นจะธรรมดาได้อย่างไร

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีพลังของโทสะหยาจื้อและวิชาอริยะยุทธ์เสริมมรรคดับดารากลืนกินอีก ทั้งสำแดงมรดกอักษรยอดของดาบหัก นั่นก็ไม่มีสิ่งใดที่ทำลายไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดกีดขวางแล้ว!

แต่เท่านี้ก็รู้แล้วว่ายุงโลหิตแปดปีกแข็งกร้าวดุดันถึงที่สุดจริงๆ สามารถบีบให้หลินสวินเผยไพ่ตายออกมาเต็มกำลัง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ สามารถทำได้

“โฮก!”

ยุงโลหิตแปดปีกคลุ้มคลั่ง เรียกกระบี่ยอดสังหารออกมา

แต่กลับถูกหลินสวินใช้ผนึกป้าเซี่ยพันธนาการ ใช้พลังหุบเหวดูดกลืนกระบี่ร้ายกาจที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งตำนานนี้ไป

ทุกคนต่างจิตใจสะท้านไหว มองออกว่าหลินสวินกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว ความพ่ายแพ้ของยุงโลหิตแปดปีกอยู่ที่เวลาเท่านั้นแล้ว

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เวลานี้ยุงโลหิตแปดปีกคล้ายสังเกตเห็นว่าท่าไม่ดี ถึงกับพุ่งไปทางหลินสวินอย่างเอาเป็นเอาตาย!

ตูม!

ระหว่างการปะทะที่น่ากลัว แม้ยุงโลหิตแปดปีกจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ปีกสีเลือดทั้งแปดของมันกลับทลายการโจมตีของหลินสวินสำเร็จแล้วล้อมตัวหลินสวินไว้ในปีกทันใด

ฉึก!

ก็เห็นลำแสงสีเลือดหลากสายแผ่พุ่งทะลวงร่างของหลินสวินเป็นรูๆ น้ำเลือดย้อมผืนอากาศเป็นสีชาด

คนไม่น้อยร้องเสียงหลงออกมา

พวกจี้ซิงเหยาใจเคว้งลอยอยู่ตรงลำคอ กำหมัดแน่นเหมือนจะหายใจไม่ออก การห้ำหั่นสุดชีวิตครานี้เป็นไปได้สูงว่าจะทำให้หลินสวินและยุงโลหิตแปดปีกตายไปพร้อมกัน!

“จบกัน หลินสวินและบุตรนรกต้องตายแน่”

คนบางส่วนตื่นตระหนก

หืม?

แต่ไม่นานผู้คนก็สังเกตเห็นความผิดปกติ แม้หลินสวินจะถูกขัง บนร่างเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ไม่ทันไรก็ยืนมั่นแล้ว

ทั้งยังมีพลังกฎเกณฑ์ประหลาดชั้นหนึ่งยึดปีกสีเลือดทั้งแปดคู่ไว้จนไม่อาจขยับ

เป็นหุบเหวนั่น!

“เจ้าหลินสวินนี่ช่างกล้านัก ถึงกับลวงศัตรูให้ตกหลุมพราง เจตนาให้บาดเจ็บไปด้วยกันเพื่อรั้งยุงโลหิตแปดปีกนี่ให้อยู่กับที่!” มีคนร้องออกมา

นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่สู้กันจนตายไปข้าง หากแต่เป็นความตั้งใจของหลินสวิน!

ตูม!

ยามทุกคนมีปฏิกิริยากลับมา หลินสวินก็ระเบิดพลังมรรคดับดารากลืนกินถึงขีดสุดแล้ว หุบเหวหมุนวนเกิดเสียงดังครั่นครืน

ก็เห็นปีกทั้งแปดนั้นถูกกดอัดขาดสะบั้นในพริบตา ฝนโลหิตสาดพรมราวน้ำตก

“อ๊าก…!”

ยุงโลหิตแปดปีกร้องโหยหวน ตีฝ่าวงล้อมอย่างบ้าคลั่ง มันรู้ตัวว่าถูกหลอกแล้วเช่นกัน

หลินสวินย่อมไม่อาจทนเห็นมันหลบหนี เริ่มฆ่าฟันไปทั่ว

นี่คือฉากต่อสู้บ้าระห่ำนองเลือดหาใดเปรียบ ผู้คนที่มองเห็นในใจล้วนตระหนกหวาดผวา หนาวสั่นไปทั้งตัว

ใครก็คิดไม่ถึงว่าการต่อสู้ชั้นยอดแห่งยุคนี้จะดำเนินมาถึงขั้นล่อแหลมอันตรายและนองเลือดเช่นนี้

ทุกคนต่างมองออกว่าตอนนี้มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าหลินสวินหรือบุตรนรกในร่างยุงโลหิตแปดปีกต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผลาญพลังกันไปมาก

แต่ผลแพ้ชนะก็ใกล้จะตัดสินแล้วเช่นกัน!

ตูม!

ทันใดนั้นเสมือนไม่พอใจที่ถูกหลินสวินล้อมสังหารเช่นนี้ ปากเรียวแหลมของยุงโลหิตแปดปีกพลันยิงแสงเขียวบาดตาสายหนึ่งออกมา

เป็นลูกตาข้างหนึ่ง!

ขนาดราวกำปั้นเด็ก ส่องแสงสีเขียวเข้มแปลกประหลาด แสงที่แผ่ออกมาเต็มไปด้วยไอมรณะล้นฟ้ายากจะบรรยาย

“ดวงตาเทพนรก!” มีคนส่งเสียงร้องแหลม

นี่เป็นสมบัติร้ายกาจอย่างหนึ่ง เล่าลือกันว่าเมื่อใดที่ถูกดวงตานี้จับจ้อง จิตวิญญาณจะตกสู่นรกขุมทมิฬในพริบตา ก้าวเข้าสู่ความตาย!

“เหี้ยมโหดนัก!”

มีคนตื่นตระหนก อดทนมาถึงตอนท้ายบุตรนรกถึงค่อยใช้ยอดอาวุธสังหารนี้ เรียกได้ว่าเป็นวิชาสังหารลับอย่างสมบูรณ์

ต่อให้เป็นหลินสวินก็คงไม่ทันตั้งตัวอยู่บ้าง

ทว่าเขากลับตอบสนองรวดเร็ว หมายใช้วิชาลับหนึ่งสลายการโจมตีนี้

ไหนเลยจะคิดว่าเวลานี้กลับมีโคมน้ำมันเหลืองนวลดวงหนึ่งปรากฏ

เงาโคมเหลืองนวลลายพร้อย แต่กลับมีพลังที่คาดไม่ถึงแผดเผาดวงตาเทพนรกนั้นจนเกลี้ยงในบัดดล!

พรูด!

ยุงโลหิตแปดปีกกระอักเลือดคำโต ส่งเสียงคำรามอย่างเดือดดาลหาใดเปรียบ “โคมมหามรรคไร้มลทิน มิน่าสวะอย่างเจ้าถึงรอดชีวิตมาจากแม่น้ำนรกได้ ที่แท้สมบัตินี้ก็ตกอยู่ในมือเจ้า!”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและไม่ยินยอม!

เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักสมบัตินี้

ตูม!

ทว่าหลินสวินมีหรือจะพูดมากความกับเขา ฉวยโอกาสนี้สำแดงกระบวนท่าสังหารออกมาโดยไม่ลังเล แสงมรรคพลุ่งพล่านไปทั้งตัว หุบเหวส่งเสียงกึกก้อง กดอัดสลายร่างยุงโลหิตแปดปีกไปครึ่งท่อน!

ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนหาใดเปรียบ มันพุ่งกระโจนออกไปทันที ร่างกายที่แตกสลายพลันกลายร่างเป็นบุตรนรกอีกครั้ง

เพียงแต่ไม่รอให้เขาได้ดิ้นรน ดาบหักที่ส่องประกายผุดผ่องก็โฉบออกมาฟาดฟันร่างเขาสิ้น กลางอากาศเลือดเนื้อสาดพรมลงมาราวน้ำตก

ทั่วลานเงียบสงัด เข็มตกยังได้ยิน

ทุกคนต่างเบิกตากว้าง ถูกทำให้ตกตะลึงจนพูดไม่ออก

…………………..

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท