“ผม…….”
ฉียวนพูดอย่างสั่นเทาว่า: “คุณลุง ผมผิดแล้ว ผมผิดไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นแขกผู้มีเกียรติของคุณ ผมไม่รู้จริงๆ”
จ้าวปิงมองดูฉียวนอย่างเยือกเย็น และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ฉันก็ยังเคารพบูชาหมอเทวดาหัวเป็นบรรพบุรุษ แกทำร้ายเขา! ปีนี้เขาอายุเจ็ดสิบกว่า ทั้งประเทศต้าเซี่ยไม่มีใครกล้าเถียงเขาสักคำ แกทำร้ายเขา!!”
“ตระกูลจ้าวของพวกเราไม่ง่ายเลยที่จะได้รับการอภัยจากคุณเย่ ไม่นึกเลยว่าแกกล้าไม่ให้ความสำคัญกับเขา ฉันก็ถามแกหน่อยว่า ตอนที่แม่ของแกคลอดแกให้สมองแกไหม! ใครให้ความกล้ากับแก!!!”
“ลุงจ้าว ลุงปล่อยผมไปเถอะ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้ว ผมไม่กล้าอีกแล้ว เงินผมก็ไม่เอาแล้ว ผมยินดีชดใช้ ผมยินดีเอาเงินออกมาชดใช้ครับ”
ฉียวนกลัวจนขวัญกระเจิง น้ำตาและน้ำมูกก็ไหลลงมา ก้นคำนับขอความเมตตาอยู่บนพื้น
ผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ
หัวของฉียวนกระแทกอยู่บนพื้น
“หมอเทวดาหัว คุณเย่ ขอโทษด้วย ผมมีตาหามีแววไม่ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้ว”
เย่เซิ่งเทียนจับซือซือที่กลัวจนหลับตา และพูดว่า: “เขาแตะต้องขี้เถ้าและคนในครอบครัวของเพื่อนฉัน ยังทำให้ลูกสาวของฉันกลัวด้วย”
หัวเวิ่นยีพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “กล้าล่วงเกินอาจารย์ของฉัน ทำให้ศิษย์น้องหญิงของฉันกลัว จ้าวปิง นายจัดการตามสมควรเถอะ!!”
“จ้าวปิงเข้าใจ”
จ้าวปิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ตราบใดที่คุณเย่และหมอเทวดาหัวไม่ต่อว่าก็พอ
เขาลุกขึ้น ดึงผมของฉียวนไว้ในทันที น้ำเสียงเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน: “แกตามฉันออกมา”
ฉียวนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขากล้าออกไปที่ไหนกัน ตราบใดที่ออกไป ก็ต้องตายแน่
เขาพูดอย่างดิ้นรน: “ลุงจ้าว ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ขอร้องคุณได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ หมอเทวดาหัว คุณเย่ ผมยินดีชดใช้ ผมยินดีเสียสละทุกอย่างเพื่อชดใช้!!”
“นำตัวออกไปให้หมด ฝังทั้งเป็น!!!”
จ้าวปิงตบหน้าฉียวนไปหลายฉาด และพูดอย่าป่าเถื่อน
หลายคนเข้ามาในทันที ยกฉียวนออกไป
อันธพาลที่เหลือเหล่านั้น แต่ละคนก็ราวกับสุนัขตาย ไม่กล้าหายใจแรง หวาดกลัวจนขวัญกระเจิง
เย่เซิ่งเทียนหันหน้ากลับมา พูดกับฟางหยวนและคุณท่านฟางว่า: “ไม่ได้ปกป้องพวกคุณให้ดี เป็นการละเลยหน้าที่ของฉัน จากนี้ไปไม่มีใครมาก่อกวนพวกคุณอีก พวกเราไปฝังหงปินกันก่อน”
“พี่เซิ่งเทียน ขอบคุณพี่ ขอบคุณพี่”
ฟางหยวนถือโกศพี่ชายแล้วร้องไห้ น้ำตานองเต็มหน้า
ตอนนั้น ก็เป็นฉียวนที่ก่อกวนไม่เลิก ถึงได้ย้ายมาที่นี่ แต่คาดไม่ถึงว่าฉียวนก็ยังคงไม่ไปไหน ยังตามหาถึงที่
วันนี้ ถ้าไม่ใช่เย่เซิ่งเทียนอยู่ที่นี่ ผลที่ตามมาก็เกินจินตนาการ
“ลูกชายของฉันทำไมอาภัพขนาดนี้”
คุณท่านฟางน้ำตานองเต็มใบหน้า
สามสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตคนเรา:การสูญเสียพ่อในวัยเด็ก การสูญเสียภรรยาในวัยกลางคน และการสูญเสียลูกในวัยชรา
คุณท่านฟางกลับประสบกับสองสิ่งในชั่วข้ามคืน ภรรยาโดนบีบคั้นจนตาย ลูกชายถูกฆ่าตายในสนามรบ ตอนนี้ตายไปก็ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบ
ถ้าไม่ใช่ว่าตอนที่เย่เซิ่งเทียนรักษาเขาหาย รักษาโรคอื่นบนร่างกายของเขาหายดีด้วย เกรงว่าคุณท่านฟางจะเสียชีวิตด้วยความเจ็บปวดทั้งเป็นเมื่อกี้นี้ด้วย
หลังจากที่ฝังขี้เถ้าของฟางหงปินเสร็จ มองไปที่หลุมฝังศพ เย่เซิ่งเทียนก็หันหน้ามาพูดว่า: “ฟางหยวน คุณป้าถูกทั้งครอบครัวของหวางหญ่าอี๋บีบคั้นจนแขวนคอตาย ฉันจะพาเธอไปเรียกร้องความยุติธรรม”
ฟางหยวนนิ่งอึ้ง มองดูเย่เซิ่งเทียนอย่างตกตะลึง
ปีนั้น พ่อโดนหวางหญ่าอี๋ทั้งครอบครัวและฉียวน ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แม่ไปขอคำอธิบาย กลับถูกพวกเขาทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ต่อมาคิดไม่ตก แขวนคอตาย
หลายปีมานี้ เธอประคับประคองบ้านนี้อย่างยากลำบากคนเดียว
ไม่มีพี่ชาย ไม่มีแม่แล้ว พ่อเหมือนตายทั้งเป็น
ไม่มีใครรู้ว่า ในใจของเธอเศร้ามากแค่ไหน