หงเสี่ยวเหมยกลัวจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว เธอไม่คาดคิดเลยว่าเธอก็แค่ประชดประชันหวางซีเล็กน้อย ก็แค่อยากจะโอ้อวดต่อหน้าหวางซีเท่านั้น
เธอสวยกว่าฉันแล้วยังไง เมื่อก่อนเป็นดาวมหาลัยแล้วยังไง ตอนนี้ชีวิตฉันดีกว่าเธอ สามีที่เธอหาได้ก็ไร้ประโยชน์ ฉันมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่าเธอ
แต่ว่าเธอคาดไม่ถึง เพียงแค่พริบตาก็พลิกผัน
ผู้กำกับไป๋และซุนผิง เมื่ออยู่ต่อเย่เซิ่งเทียนแล้วกลับถ่อมตนมากขึ้น!
เธอไม่ได้โง่ เธอดูออก สองคนนี้เพียงแค่พยายามจะทำให้เย่เซิ่งเทียนพอใจ และทุบตีตัวเธอโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตัวเอง!
เธอขดตัวอยู่กับพื้นและไม่กล้าพูดอะไร
แม้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะปลอบใจแล้ว แต่หวางซีก็ยังโกรธและผิดหวังมาก
เธอไม่คิดเลยว่าตัวเธอหวังดีเช่นนี้ แต่หงเสี่ยวเหมยกลับเป็นคนแบบนี้
เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เซิ่งเทียนพูด เธอก็ไม่อยากช่วยหงเสี่ยวเหมยพูดอะไรแล้ว เธอในตอนนี้ ไม่ใช่หวางซีคนเดิมที่คอยให้คนอื่นคนอื่นรังแกอีกแล้ว
ไป๋เฉินยืนอยู่ข้างๆอย่างกล้าๆกลัวๆ สีหน้ายิ้มแย้มประจบประแจง “อาจารย์เย่ครับ เมื่อกี้พวกเราผิดไปแล้ว คุณว่าจะให้เกียรติพวกเราได้มีโอกาสขอโทษคุณหน่อยได้ไหมครับ”
เย่เซิ่งเทียนเพิกเฉย แต่หวางซีกลับตะลึงไป เมื่อกี้เธอถูกหงเสี่ยวเหมยทำให้โมโหจนเบลอไปหมด ตอนนี้ถึงได้เห็นชัดเจนว่าคนพวกนี้เป็นใคร รู้สึกอึ้งตะลึงขึ้นมาทันที!
ผู้กำกับไป๋!
นี่ถือเป็นผู้มีอำนาจในวงการบันเทิงเชียวนะ
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่? แล้วยังสุภาพนอบน้อมต่อเซิ่งเทียนเช่นนี้?
แล้วก็ยังมีซุนผิงที่เป็นดาราดัง แต่ทำไมเธอถึงดูกลัวเซิ่งเทียนละ?
“ผู้..ผู้กำกับไป๋?ซุนผิง? ใช่พวกคุณสองคนจริงๆด้วย?”
ตอนนี้ หวางซี่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย คนพวกนี้ล้วนเป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เธอไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาที่นี่
“สวัสดีครับคุณนายซี สวัสดี คุณสวยมากจริงๆ คู่ควรกับอาจารย์เย่มากๆ สวรรค์สร้างมาสมกันจริงๆครับ”
ไป๋เฉินรีบก้มหน้าทักทาย เขาไม่กล้าที่จะแสดงท่าทีอะไรต่อหน้าหวางซี แต่ว่าในใจเขาดีใจมาก ขอแค่เขาได้คุยกับภรรยาของอาจารย์เย่ แค่นี้ทุกอย่างก็ง่ายแล้ว
เห็นได้ชัดว่าคุณนายซีท่านนี้ คุยง่ายกว่าอาจารย์เย่มาก
“คุณเกรงใจกันเกินไปแล้วค่ะ”
หวางซีมองซุนผิงอย่างเขินอายเล็กน้อย พูดว่า “สวัสดีค่ะคุณซุน ไม่ทราบว่าคุณสะดวกเซ็นลายเซ็นให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
ทันทีที่คำพูดนี้พูดออกไป ไป๋เฉินและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจ ภรรยาของอาจารย์เย่ต้องการลายเซ็นของซุนผิง? นี่ถือเป็นเกียรติของซุนผิงอย่างมาก!
“คุณนายเย่คะ ฉันสะดวกค่ะ สะดวกมากๆ ฉันจะเซ็นให้คุณเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ซุนผิงตื่นเต้นจนเป็นบ้า เธอไม่โง่ เธอรู้ว่านี้คือโอกาสที่ดีของตัวเอง เพียงแค่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณนายซี ขอแค่คุณนายซีช่วยเธอพูดสักหน่อย อาจารย์เย่ก็จะยกโทษให้ตัวเธอ
เธอรีบหยิบสมุดเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเธอ เซ็นลายเซ็นให้หวางซี มอบให้หวางซีด้วยสองมือ และถือโอกาสพูดว่า “คุณนายซีคะ เมื่อกี้ฉันไม่ระวังและทำให้อาจารย์เย่โกรธ ฉันขอโทษจริงๆค่ะ เพราะความผิดของฉันเอง จึงทำให้อาจารย์เย่ไม่พอใจอย่างมาก และฉันขอโทษจริงๆค่ะ”
“ขอบคุณคุณมากจริงๆค่ะ”
หวางซีรับมาอย่างมีความสุข แล้วมองไปที่เย่เซิ่งเทียน พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เขาก็นิสัยอย่างนั้นแหละค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกกลุ้มใจ
ภรรยาคนนี้เอาไม่ได้แล้ว ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย เธอก็โดนคนอื่นใช้ลายเซ็นซื้อใจไปแล้วงั้นเหรอ?
เชื่อไหมถ้าฉันให้ลายเซ็นเธอ แค่บอกไปว่า หากมีลายเซ็นของฉัน จะสามารถมาขอร้องให้ฉันทำอะไรให้ก็ได้หนึ่งเรื่อง เชื่อไหมว่าสามารถขายได้ในราคาร้อยล้านเชียวนะ
“มิกล้าค่ะมิกล้า คุณว่าอย่างนี้ดีไหมคะคุณนายซี พรุ่งนี้ผู้กำกับไป๋อยากจะเชิญอาจารย์เย่ไปทานข้าว เพื่อเป็นการไถ่โทษต่ออาจารย์เย่…”
ซุนผิงมองเย่เซิ่งเทียนอย่างระมัดระวัง กลัวว่าเขาจะแสดงความไม่พอใจออกมา
หวางซีเหลือบมองอู๋เฟิง และคิดเกี่ยวกับเส้นทางการพัฒนาในอนาคต กลัวว่าเย่เซิ่งเทียนจะไปมีปัญหากับคนอื่นไปทั่ว จึงรีบพูด “เรื่องนี้ไม่มีปัญหาค่ะ ฉันตอบตกลงแทนเขาเอง เขาก็นิสัยแบบนี้แหละค่ะ พวกคุณอย่าได้ถือสาเขาเลยนะคะ หากว่าเขาทำให้พวกคุณขุ่นเคือง ฉันขอ……”
หวางซียังพูดไม่จบ เย่เซิ่งเทียนก็โอบเอวของเธอและเดินจากไป พูดอย่างไม่พอใจ “คุณเป็นภรรยาของผม สูงส่งกว่าพวกเขาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ คุณทำแบบนี้ ทำให้ผมไร้ศักดิ์ศรีมากนะครับ”
อู๋เฟิงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขา มองไปที่ไป๋เฉินและคนอื่นๆ พูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้กำกับไป๋ พวกคุณควรจะดีใจที่ได้เจอกับประธานหวาง ไม่อย่างนั้นแม้ว่าพวกคุณจะคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน ก็ไม่มีสิทธิ์ร้องขอให้อาจารย์เย่ยกโทษให้ ประธานหวางมีแผนที่จะพัฒนาไปในวงการบันเทิง หากคุณต้องการได้รับการให้อภัยจากอาจารย์เย่ คุณควรจะคิดหาวิธีที่จะทำให้ประธานหวางพัฒนาในวงการบันเทิงได้สบายดีกว่านะครับ”