“เรื่องถึงหูท่านรองโจวแล้ว ไอ่เวรนี้ตายแน่”
“การเป็นถือเจ้าสำนักหยวน ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถมีเรื่องกับเขาได้ ตอนนี้ท่านรองโจวก็ออกมาแล้ว”
“ว่ากันว่าเจ้าสำนักหยวน ไปถึงระดับปรมาจารย์วิชาบู๊ และความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ”
“โลกบู๊มีความลึกลับตลอด และพวกเราไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่ฉันได้ยินมาว่า โลกใบนี้มีคนไม่ถึงแปดพันล้านคน แต่มีเพียงหนึ่งพันล้านคนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ได้จริงๆ และในหมู่คนนับพันล้านพวกนี้สามารถไต่ถึงระดับของปรมาจารย์ได้ มีแค่ห้าหมื่นคนเท่านั้น คุณคิดว่าแบบนี้มันคืออะไร? ”
มีคนรู้ดี ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา คนรอบข้างก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ในบรรดาผู้คนนับพันล้านคน มีผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้น้อยกว่าห้าหมื่นคนคน ซึ่งมันน่ากลัวมากๆ
หงเสี่ยวเหมยที่อยู่ด้านหลังได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเธอดีขึ้นทันที และเธอก็พูดว่า “หวางซี คนแบบคุณ สมควรแล้วที่โดนนอกใจ!! วันนี้ ฉันอยากเห็นครอบครัวของคุณแตกแยกกัน!!”
ไป๋เฉินขมวดคิ้ว เขารู้เรื่องเกี่ยวกับโลกบู๊แค่นิดเดียว และมันก็ลึกลับมากสำหรับคนธรรมดา โดยปกติแล้วคนพวกนี้ไม่มีอะไรมาก ไม่ค่อยทำอะไร
แต่การไม่เคลื่อนไหวไม่ได้แปลว่าไม่มีสิ่งลึกลับนี้ พรสวรรค์พวกนั้นคือขุมพลังที่แท้จริง แน่นอนว่า คนอย่างอาจารย์เอี๋ยนและอาจารย์หม่าเป็นแค่คนหลอกลวง
แต่ปรมาจารย์หยวนปินคนนี้ไม่ธรรมดา ลูกศิษย์ของเขาล้วนเป็นกังฟูที่รู้จักกันดี พวกเขาไม่ใช่กังฟูที่ใช้แสดง แต่เป็นกังฟูที่แท้จริง ซึ่งเขาได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว
แม้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะเป็นอาจารย์ของหมอเทวดาหัว แต่ถ้าเทียบกับคนที่อยู่ในโลกบู๊ ก็ยังไม่พอ ความสัมพันธ์ของหมอเทวดาหัว ไม่เกี่ยวอะไรกับโลกบู๊อยู่แล้ว!
ซุนผิงครุ่นคิด ถ้าเธอสามารถเข้าหาจัดการกับตระกูลโจวได้ ยังต้องมากลัวอาจารย์เหลวไหลนี้อีกเหรอ? มีคนสนับสนุนในโลกบู๊ ยังจะต้องกลัวคนมาฆ่าอีกเหรอ? พอคิดแบบนี้ ซุนผิงก็รู้สึกดี
นี่คือโอกาสของฉัน ฉันจะพลาดไม่ได้แล้ว
“ปรมาจารย์หยวน ท่านรองโจว พวกคุณจะปล่อยคนหลอกลวงคนนี้ไปไม่ได้!!”
ไป๋เฉินตกใจมาก ในหัวซุนผิงกำลังคิดอะไรอยู่? กระจอกๆ แบบเธอจะมาอวดเก่งได้เหรอ?
ฉันต้องห่างจากคนพวกนี้ เพื่อตัวฉันเอง
อู๋เฟิงขมวดคิ้ว และมองไปที่ซุนผิง
ยัยนี้กำลังรนหาที่ตายเหรอ?
อย่าพูดถึงหยวนปิน โจวอู่ หรือแม้แต่ผู้มีอิทธิพลในเจียงหนานมา อยู่ต่อหน้าเจ้าเทพก็สมควรตาย
ฉันขอมองดูพวกคุณตายอย่างเงียบๆ ดีกว่า!
กลุ่มคนงี่เง่า กล้ามีเรื่องกับเจ้าเทพ หาเรื่องตายจริงๆ!
ซุนผิงชี้ไปที่เย่เซิ่งเทียนและพูดว่า “คนหลอกลวงคนนี้เพิ่งโกหกอาจารย์ชิอิจิโร่ มิยาโมโตะ และไม่รู้ว่าใช้อีท่าไหนโกหกหมอเทวดาหัวด้วย ชอบรังแกคนอื่น เย่อหยิ่งมากๆ ต้องสั่งสอนมันให้ได้”
“เป็นคุณนี้เอง!!”
ลูกชายคนที่สองของตระกูลโจวโจวอู่กัดฟันพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันก็บอกว่าทำไมหมอเทวดาหัวและอาจารย์มิยาโมโตะไปโดยไม่บอกลา เป็นเพราะคุณนี้เอง ปรมาจารย์หยวน ไอ้โง่แบบนี้ไม่คู่ควรที่จะมาเสียเวลาด้วย เดี๋ยวฉันให้คนจัดการมันเอง”
แต่เย่เซิ่งเทียนไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาพูด เขาแค่ต้องการหาเหย้ซูหลิงให้เจอ และฆ่ามันให้ตาย
“ซีเอ๋อร์ ผมเพิ่งเห็นเหย้ซูหลิงแค่วันนี้เอง”
น้ำเสียงของเย่เซิ่งเทียนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ยิ่งเขาแคร์มากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งอดทนให้มากขึ้น
ถ้าเป็นคนอื่น เย่เซิ่งเทียนไม่มาเสียเวลาอธิบายหรอก
หวางซีก็เหมือนกัน ยิ่งแคร์ ก็ยิ่งโกรธ ถ้าเธอไม่แคร์เย่เซิ่งเทียน ไม่รักเย่เซิ่งเทียน เธอก็จะไม่สนใจว่าเย่เซิ่งเทียนจะทำอะไรแล้ว
หวางซียังรู้สึกว่าตัวเธอเองก็ทำเกินไป ไม่สามารถโทษเย่เซิ่งเทียน แค่เพราะว่าจดหมายฉบับนั้น “ขอ ขอโทษ”
เย่เซิ่งเทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“จะตายห่าอยู่แล้ว ยังจะมาสวีทกันอีก”
โจวอู่พูดอย่างเย็นชา
“โจวอู่ หยวนปิน พวกคุณหายเรื่องตายเหรอ? คุกเข่าขอโทษคุณชายเย่ซะ ไม่อย่างงั้น พวกคุณไม่ได้ตายดีแน่!”
อู๋เฟิงโกรธมาก และตะโกนพูด
เย่เซิ่งเทียนมองไปที่โจวอู่ หยวนปิน และคนอื่น ๆ และพูดอย่างเฉยเมยว่า “ขยะพวกนี้ กล้าหยิ่งทะนงต่อหน้าฉันเหรอ? ”