ตระกูลอู๋
อู๋เฟิงชี้ไปทีไป๋เฉินและด่าอย่างเย็นชา “ไป๋เฉินทางที่ดีคุณควรล้มเลิกความคิดของคุณ การที่คุณเย่ไม่สนใจคุณ ถือว่าคุณโชคดีที่สุดแล้ว เข้าใจไหม? คุณเย่นั้นไม่ใช่คนที่คุณจะเอื้อมถึง”
ใบหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไป และขมวดคิ้ว “ไอ้อู๋ ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง? คำพูดของคุณค่อนข้างทำร้ายจิตใจคน”
อู๋เฟิงหรี่ตาและกล่าวเยาะเย้ย “ทำร้ายจิตใจ? ไป๋เฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่พวกเรารู้จักกันมานานหลายปี ผมจะไม่สนใจความเป็นความตายของคุณหรอก เข้าใจไหม?
และคุณอย่าไปสืบเรื่องของคุณเย่ และไม่ต้องคิดที่จะไปขอโทษคุณเย่ เมื่อมีโอกาสผมจะไปหาคุณภายหลัง แต่ถ้าคุณกล้ารบกวนคุณเย่ คุณตายไปแล้วก็ยังไม่รู้ว่าตนเองตายได้อย่างไร”
“ไป๋เฉิน คุณจำไว้ให้ดี คุณเย่ เป็นคนที่คุณกับผมไม่สามารถยั่วยุได้ อย่าคิดว่าคุณมีทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้าน ตระกูลอู๋ของผมก็มีทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้านเช่นกัน แต่แล้วยังไงล่ะ? พวกเราไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้คุณเย่ด้วยซ้ำ!”
ไป๋เฉินรู้สึกตกตะลึง เขานึกไม่ถึงว่าอู๋เฟิงที่คบหาสมาคมกับตนเองมานานหลายปี จะพูดออกมาเช่นนี้
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะใส่ใจ
เดิมทีเขาคิดว่าสถานะดีที่สุดของเย่เซิ่งเทียน นั้นคือเป็นอาจารย์ของหมอเทวดาหัว แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้อู๋เฟิง ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลที่น่าเกรงขามนั้นหวาดกลัวเขามากขนาดนี้
เขาเห็นความหวาดกลัวและความจำนงอยู่ในสายตาของอู๋เฟิงแล้ว!
ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อู๋เฟิงเป็นถึงผู้นำตระกูลอู๋เชียวน่ะ! !
เขาอยากจะถามอีก แต่อู๋เฟิงรู้อยู่ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “อย่าถามอะไรอีกเลย ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ผมบอกคุณอีกครั้ง ทางที่ดีคุณอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับคุณแย่ พวกเราไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องของคุณเย่ เข้าใจไหม?”
ไป๋เฉินมองอู๋เฟิงด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
อู๋เฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และกล่าวว่า “บางเรื่อง ไม่รู้จะดีกว่า ยิ่งคุณรู้มาก คุณจะยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น”
สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของอู๋เฟิง เขาก็หยุดถามทันที
ข้อสงสัยทั้งหมดเน่าเปื่อยอยู่ในท้อง
บุคคลที่สามารถทำให้อู๋เฟิงหวาดกลัวขนาดนี้ เขาไม่สามารถถูกยั่วยุได้ และไม่สามารถสืบได้
……
เจียงหนาน ตระกูลโจว
ดวงตาของโจวอู่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ซึ่งความแค้นนั้นมากเหมือนทะเลสาบ เป็นการยากที่ใครจะสามารถเข้าใจความเกลียดชังที่อยู่ในใจของเขา!
มันคือความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต!
ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้มาก่อน! !
และคนที่ทำให้เขาต้องทนความอัปยศอดสูที่ใหญ่หลวงเช่นนี้ เป็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่อายุยี่สิบกว่า! !
นี่เป็นความอัปยศที่ใหญ่หลวง!
เขาเป็นถึงท่านรองของตระกูลโจว และเมื่อเขาโกรธขึ้นมา ห้ามณฑลในเจียงหนานจะสั่นสะเทือน
นึกไม่ถึงว่าเขาถูกเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมบังคับให้คุกเข่า และถูกตบหน้าต่อหน้าทุกคน! ! !
“บัดซบ!”
โจวอู่ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เขาใช้เท้าเตะโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าจนกระเด็น เลือดไหลออกมาจากใต้ผ้าก๊อซที่พันรอบใบหน้า เขากระตุกมุมปากด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดบนใบหน้า จะสู้ความเจ็บปวดในใจได้อย่างไร! !
“คุณลุง พวกเราต้องไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน!!”
โจวหมินหมินกัดฟันและกล่าวด้วยความแค้น ใบหน้าของเธอบวมเหมือนหัวหมูเช่นกัน
เรื่องนี้ทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกในรุ่น
ไม่นึกเลยว่าตนเองจะถูกกบในกะลาคนหนึ่งของเมืองเฉียนถังจัดการ และยังไม่กล้าแตะต้องเขา และถูกเขาบีบบังคับให้คุกเข่าเป็นเวลาสามชั่วโมง จนกระทั่งอารองปรากฏตัวพร้อมกับหน้าที่บวมเหมือนหัวหมู ถึงสามารถพาพวกเขาสองพี่น้องกลับมาได้
เสียหน้าไปจนหมดสิ้นแล้ว!!
เป็นความอัปยศที่ลืมไม่ลงอย่างแท้จริง! !
“คราวนี้ผมประมาทเกินไป ไม่คิดว่าเขาจะมีทักษะฝีมือที่แข็งแกร่งขนาดนั้น”
โจวอู่ระงับความโกรธ และพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “ถ้าไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อย่างหยวนปินตาย เหตุการณ์คงจะไม่ถึงขนาดนั้น!! ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนั้น ไม่ตายช้าหรือเร็วกว่านี้ ดันมาหัวใจวายตอนนั้น คราวนี้ จะไม้ให้เกิดเรื่องผิดพลาดแบบนี้อีก ผมจะทำให้เขาตายทั้งเป็น!!”