“อย่างมึงคู่ควรด้วยรึ!!”
อยู่ดีๆ เย่เซิ่งเทียนก็พูดเสียงสูงขึ้นมา ทำให้ทุกคนตกใจ สีหน้าเปลี่ยนไปตามกัน!
วันนี้ ที่นี่มีปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่3คนเป็นประธาน มีเจ้าสัวใหญ่มากมาย ปรมจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หานเฟิง ยังลงมือเองอีกด้วย!
เย่เซิ่งเทียนยังจะกล้าอวดดีแบบนี้อีก!
บ้ามาก!
โอหังมาก!
บ้าอย่างกล้าดีเกินไป!
ถึงได้มาตะคอกใส่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแบบนี้!
ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง ถึงได้มาเหยียดหยามปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบู๊แบบนี้!!
สีหน้าอำมหิต ในดวงตาทั้งสองข้างเกิดเป็นเส้นเลือดสีแดงขึ้นมา กัดฟันพูดว่า “ไม่รู้จักเป็นตายเลยนะมึง วิชาแมวสามขาแบบมึง เตะต่อยได้นิดหน่อยก็ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าไม่เบาเลยนะ แต่พื้นเพอันต่ำต้อยของมึง
“จะตายอยู่แล้ว ยังจะพูดจาโอหังอีก มาเล่นกับปรมาจารย์หาน รนหาที่ตายจริงๆ”
“เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเขาตระกูลผู้หญิง จะมีวิสัยทัศน์กว้างไกลได้ที่ไหนเล่า? ให้ปรมาจารย์หานฆ่าเขาเองกับมือ ก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้วล่ะ!”
โจวหมินหมินตะโกนเสียงแหลมว่า “เย่เซิ่งเทียน ต่อหน้าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ยังจะกล้าทำแบบนี้อีก คิดว่าตัวเองเป็นใคร!มดตัวน้อยๆ อย่างแก ก็กล้ามาท้าทายบารมีของตระกูลโจวฉันหรือ ยังจะกล้ามาทำร้ายฉันอีก แกตายแน่!ฉันจะคอยดูปรมาจารย์หานฆ่าแก!”
สายตาของโจวเทียนฉีก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น เขาไม่มีวันลืมเลย ว่าคืนนั้นเย่เซิ่งเทียนบีบบังคับให้เขาคุกเข่าลงไปอย่างไร ไม่มีทางลืมภาพที่ถูกตบบ้องหูต่อหน้าผู้คนมากมาย!
ว่า “บ้าแบบนี้ ไม่สมควรเป็นเห็นใจมัน มีชีวิตต่อไปก็เปลืองทรัพยากรเปล่าๆ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หานครับ อีกเดี๋ยวตอนฆ่ามัน อย่าให้มันตายได้ง่ายๆ นะครับ ทรมานมันหน่อย
“ถูกต้อง กล้ามาท้าทายกับบารมีของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ จะให้มันตายไปง่ายๆ ไม่ได้!ไม่อย่างนั้น สำนักพลังบวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!พี่ใหญ่ คืนนี้ก็เชือดไก่ให้ลิงดู ให้คนอื่นๆ ยำเกรงสำนักพลังบวกของเราบ้าง!!”
คนของสำนักพลังบวกก็พูดออกมาอย่างร้ายกาจ
พวกเขาเกลียดเย่เซิ่งเทียนเข้ากระดูกดำ!
อาจารย์ตายไปเพราะหมอนี่ ทำให้สำนักพลังบวกเสียหน้าไปไม่น้อย ถ้าไม่สับหมอนี่ให้เป็นหมื่นชิ้น สำนักพลังบวกก็จะกลายเป็นตัวตลก
“ศิษย์พี่ครับ หักแข็งหักขามันก่อน ให้มันมาร้องขอชีวิตเหมือนหมาบนพื้น!กระทืบมันให้ตายทั้งเป็น จะได้แสดงบารมีของสำนักพลังบวกเรา!”
ทุกคนก็พูดจาว่าร้ายกันไป ด่าทอไป
เย่เซิ่งเทียน กลายเป็นศัตรูของทุกคน!
ชายวัยกลางคนอายุ50กว่าๆ คนหนึ่ง ก็พูดนิ่งๆ ว่า “เสี่ยวเฟิง ในเมื่อมันไม่รู้จักที่ตาย อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเมตตา ให้ทุกคนได้รู้ว่า ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่มิอาจจะถูกเหยียดหยามได้!คนที่ดูถูกปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ต้องฆ่าให้หมด!ฆ่าล้างตระกูล!”
คนที่พูดนี้ ก็คือหลี่เสี่ยวเซิง หนึ่งในสามปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกบู๊แห่งเจียงหนาน
โลกบู๊แห่งเจียงหนาน มี3ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ หานเฟิงอายุน้อยที่สุด เห็นได้ชัดว่ามีพรสวรรค์ของเขา
ไม่อาจจะดูถูกได้เลย
โจวเทียนฉียิ้มเย็นพูดว่า “ไอ้ลูกนอกคอก ตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออกเลยหรือวะ? มึงเก่งมากแน่มากไม่ใช่หรือไงวะ? ห้ะ? มึงเก่งสิวะ มึงบ้าออกมาดิ หลังจากคืนนี้ไป ครอบครัวมึงก็จะไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป รวมทั้งลูกสาวมึงด้วย”
เย่เซิ่งเทียนจ้องเขาเขม็ง สายตาเย็นชาเข้ากระดูก “คำพูดของมึง กูจำไว้แล้ว ตระกูลโจว จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เหลืออีกเลย”
“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่3คน พวกเจ้าสัวทั้งหลาย ก็เป็นแค่กองขยะ พวกไก่อ่อน คู่ควรมาพูดกับกูหรือไง?!”
“ได้ตายในมือกู ถือว่าเป็นบุญที่มึงทำมา3ชาติแล้ว!”
เย่เซิ่งเทียนมองหานเฟิง “กูจะจัดการกับขยะอย่างมึงก่อนเลย ทำความสะอาดให้กับถนนในเจียงหนาน”