เฮียหงตายไปแล้ว! !
ไม่มีแม้แต่โอกาสตอบสนอง ก็ถูกเตะตายไปแล้ว! !
มีคนเสียชีวิตในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณท่านโจว! ! !
และที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ฉากเช่นนี้ยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มคนนั้นได้!
เขาไม่แม้แต่จะมอง!
ยังคงเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ!
สถานที่นี้มีทั้งหมดสามโซน พวกเขาทั้งหมดอยู่ในโซนที่สาม คนที่อยู่โซนข้างหน้านั้นจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพล!
แม้แต่คนอย่างเฮียหงก็ได้นั่งอยู่ในโซนที่สามเท่านั้น แค่คิดก็รู้ว่าคนที่นั่งอยู่โซนหน้า สถานะของพวกเขานั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน!
แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่มีแต่ผู้มีอิทธิพล ชายหนุ่มคนนั้นยังคงเดินไปเรื่อย ๆ แล้วเขาก็เดินมาถึงโซนที่สอง! !
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาทั่วไป คงไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้ามาในโซนที่สาม ก็รู้สึกตกใจจนแย่แล้ว
ผู้มีอิทธิพลจากต่างแดน!
คนนี้คือผู้มีอิทธิพลจากต่างแดน!
“คนประหลาดคนนี้มาจากไหนกันแน่!”
“ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ต้องตายอยู่ดี! ถึงแม้เขาจะเดินไปถึงโซนที่สองแล้วอย่างไรล่ะ? ยิ่งคนที่อยู่โซนข้างหน้ายิ่งน่าสะพรึงกลัว ซึ่งโซนข้างหน้านั้นมีปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่อยู่สองคน!!”
“ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้มีอิทธิพลจากต่างแดน! ก็ทำได้เพียงหยุดอยู่ที่โซนที่สองเท่านั้น!”
คนที่นั่งอยู่โซนที่สาม มองเย่เซิ่งเทียนและกัดฟันด้วยความแค้น
พวกเขาไม่สามารถสกัดกั้นเขาไว้ได้!
โดยเฉพาะประโยคที่เย่เซิ่งเทียนกล่าวว่า “คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นเพียงขยะ คู่ควรอยู่ในสายตาของผมเหรอ?”
มันทำให้พวกเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกร่างของเย่เซิ่งเทียน!
โจวจื้อเฟิงถูกคนพยุงลุกขึ้น เขามองแผ่นหลังของเย่เซิ่งเทียนด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม!
เขาถูกคนทำร้ายที่บ้านตนเอง!
และเขาไม่สามารถต้านการเตะของชายสะพายดาบได้!
ช่างอับอายขายหน้าจริง ๆ!
“ไอ้หนู แกฆ่าตัวตายเองเถอะ การลงมือจัดการแก มันจะทำให้สถานะปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเราเสื่อมเสีย!”
ชาวจีนคนหนึ่งที่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยืนขึ้น เอามือไพล่หลังแล้วยืนขวางอยู่ข้างหน้า
“ไอ้หนู ออกไปคุกเข่าอยู่ด้านนอก แล้วรอการลงโทษ แกไม่คู่ควรที่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างพวกเราสองคนลงมือ”
เมื่อเห็นเขาออกหน้า คนที่นั่งอยู่โซนที่สามก็รู้สึกตื่นเต้นทันที
“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่โจงและปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลินลงมือเคลื่อนไหวแล้ว ไอ้หมอนี้ตายแน่นอน”
“คิดว่าฆ่าเฮียหง แล้ว ก็สามารถกำเริบสืบสานได้เหรอ? วันนี้ที่นี่มีคนที่เก่งแต่ไม่เปิดเผยตัว และแม้แต่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองยังนั่งอยู่ในโซนที่สองได้เท่านั้น การที่เขามาก่อกวนที่นี่ เขาคงไม่รู้คำว่าตายเขียนอย่างไรมั้ง?!”
โจวจื้อเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมสองคนนี้คิดว่าตนเองเป็นผู้มีอิทธิพลจากต่างแดน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเกรงใจพวกมันอีกต่อไปแล้ว ตีพวกมันให้พิการก่อน แล้วผมค่อยจัดการพวกมันทีหลัง”
ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่โจงกล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “ในเมื่อพวกคุณไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี งั้นก็อย่ามาโทษว่าพวกเรารังแกคนอ่อนแอกว่าล่ะ”
อย่างไรก็ตาม เย่เซิ่งเทียนไม่ได้มองพวกเขาแม้แต่น้อย ยังคงถือว่าพวกเขาเป็นอากาศธาตุ แล้วเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ
การละเลยเช่นนี้ ทำให้ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก
ไม่เคยมีใครกล้าละเลยพวกเขาเช่นนี้มาก่อน!
“พวกคุณเป็นตัวอะไร คู่ควรที่จะให้เจ้าพลเอ่ยปากเหรอ?!”
เฉินเทียนป้ายิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัว แล้วปล่อยหมัดทั้งสองออกมาทันที!
ใบหน้าของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนเปลี่ยนไปทันที ตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้ว่าความเร็วของอีกฝ่ายนั้น เร็วจนพวกเขาไม่สามารถตอบสนองได้!
ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองรีบลงมือเคลื่อนไหวทันที ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันลำบากอย่างยิ่ง ไม่มีลักษณะท่าทางก่อนหน้าเหลืออีกเลย
ปังปัง!
และขณะเดียวกัน ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองกระเด็นกลับหัวออกไป กระแทกโต๊ะและเก้าอี้ล้มมากมาย!
สีหน้าของคนที่นั่งอยู่โซนที่สองและโซนที่สามเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก!
นึกไม่ถึงว่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่สองคนนี้ ไม่สามารถต้านได้แม้แต่หมัดเดียวของชายสะพายดาบ!
ชายสะพายดาบคนนี้ มีความแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่!
ชายหนุ่มคนนั้นยังคงเดินไปข้างหน้า เขาเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงได้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่น่ากลัวขนาดนี้!
ยิ่งไปกว่านั้น ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่สองคนนี้ ไม่ได้มีอิทธิพลต่อชายหนุ่มที่หยิ่งผยองคนนี้แม้แต่น้อย!