เมืองเฉียนถัง
“พ่อค่ะ ครูฟางหยวนยังไม่กลับมาเลยนะ”
ไม่ได้เจอครูฟางหยวนหลายวันแล้ว ซือซือไม่มีความสุข มุ่ยปากเล็กๆ ดวงตากลมโตแวววาวสดใส เต็มไปด้วยละอองน้ำ
ความรู้สึกของเด็กไร้เดียงสากว่าผู้ใหญ่ แม้ว่าผ่านไปช่วงหนึ่งจะลืมเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้าที่ไม่ลืมนั้นก็เซ้าซี้มาก
การร้องไห้ เป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของเด็ก ตราบใดที่มุ่ยปาก อ้าปากแผดเสียงร้องขึ้นมา น้ำตาก็ไหลออกมา รับรองว่าทำให้คุณจนปัญญาแล้วก็สติแตก
“ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้องแล้วนะ ครูฟางหยวนมีธุระต้องไปต่างจังหวัด ผ่านไปช่วงหนึ่งก็จะกลับมา”
เย่เซิ่งเทียนเริ่มปลอบโยนอย่างตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ปวดหัวแล้ว ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เด็กฟังยังไง
“หนูคิดถึงครูฟางหยวน”
ซือซือพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ น้ำตาเม็ดโตทำให้ขนตายาวงอนแบกรับไม่ไหว ไหลลงมา
“ผ่านไปช่วงหนึ่งครูฟางหยวนก็กลับมาแล้ว ไม่ต้องร้องนะ ไม่ต้องร้องแล้ว”
เย่เซิ่งเทียนสงสาร และข่มขู่ว่า: “อย่าร้องไห้เด็ดขาด เดี๋ยวแม่กลับมาจะโกรธเอาได้”
ซือซือพูดอย่างไม่พอใจว่า: “พ่อค่ะ ทำไม ทำไมพ่อต้องหาภรรยาที่ดุแบบนี้ด้วย เธอยังตีหนูด้วย เปลี่ยนแม่ให้หนูได้มั้ยค่ะ”
เย่เซิ่งเทียนมีความสุขในทันที
ซือซือจ้องมองเย่เซิ่งเทียนสักพัก จู่ๆก็ถอนหายใจ ทำหน้าบึ้ง บ่นพึมพำ: “ช่างเถอะ พ่อขี้ขลาดขนาดนี้ แม่โกรธ พ่อก็กลัวแล้ว พ่อไม่ได้เรื่องจริงๆ กลัวภรรยา ไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยสักนิด”
ร่างกายของเย่เซิ่งเทียนแข็งทื่อ รู้สึกได้ทันทีว่าลูกสาวคนนี้ไม่น่ารัก เด็กบ้านี่ อายุน้อยๆ ทำไมแทงใจขนาดนี้น่ะ?
“พ่อ พ่อชอบเอามาแม่มาขู่หนู นี่ก็คือ คืออาศัยบารมีของแม่รังแกหนูเหรอ? เดี๋ยวแม่กลับมา พ่อก็รินน้ำให้กับแม่ ถือกระเป๋าให้ ในการ์ตูนบอกว่านี่ก็คือสุนัขรับใช้ พ่อ
เย่เซิ่งเทียนไม่พอใจ ไม่อยากพูดอะไร
ทำได้เพียงแค่ปลอบตัวเองในใจ: อย่าโกรธ ลูกแท้ๆ ลูกแท้ๆ
ในไม่ช้า ซือซือก็ลืมไปว่าตัวเองร้องไห้ทำไม ตามตื๊อเย่เซิ่งเทียนอย่างมีความสุข ต้องการให้เย่เซิ่งเทียนเป็นสุนัขรับใช้ของเธอ และเล่นได้สนุกสนานมาก
ตอนที่หวางซีกลับมา ในบ้านถูกซือซือและเย่เซิ่งเทียนทำให้รกรุงรังไปหมด เย่เซิ่งเทียนกำลังคลานอยู่บนพื้นเห่าเหมือนกับสุนัข ซือซือหัวเราะจนกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น
“เย่เซิ่งเทียน เย่เยว่ซือ!!!”
เสียงคำรามของเสือ พายุก็โผล่ขึ้นจากพื้นดิน!
ในที่สุด นิทานเทพนิยายสองพ่อลูกที่ร่วมมือกันต่อสู้กับเสือโคร่ง ก็จบลงด้วยการที่สองพ่อลูกพ่ายแพ้
เด็กหนึ่งและผู้ใหญ่หนึ่ง ยืนอยู่ที่มุมกำแพง หันหน้าเข้าหากำแพง หวางซีเก็บกวาดบ้านด้วยความโกรธ
เย่เซิ่งเทียนทำหน้าทะเล้นใส่ซือซือ ซือซือก็ถูกทำให้หัวเราะเสียงดังลั่นนั่งอยู่บนพื้น โกรธจนหวางซีตีเย่เซิ่งเทียน
“เจ้าคนนายคนแล้ว ช่วยเป็นผู้ใหญ่กว่านี้หน่อยได้มั้ย!”
ตอนที่แม่ยายซื้อผักกลับมา สองพ่อลูกยังคงหันหน้าเข้าหากำแพง ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อย่างหวางซีนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มนมเปรี้ยว และดูละครโทรทัศน์อย่างเพลิดเพลิน
“คุณย่าค่ะ คุณย่า มีคนรังแกเด็กดีอย่างหลานสาวของย่าด้วยค่ะ”
ซือซือเห็นว่าที่พึ่งพาที่ใหญ่ที่สุดของตัวเองกลับมา ก็วิ่งเข้าไปในทันที กอดขาของหลี่หลาน แหงนใบหน้าเล็กๆขึ้นแล้วฟ้อง
หลี่หลานรู้สึกขบขัน เอานิ้วถูจมูกของซือซือ และพูดว่า: “เด็กไม่น่ารัก หลานมีเรื่องด้วยไม่ได้ดันอยากมีเรื่องด้วย มานี่ มาช่วยย่าล้างผัก”
“แม่ครับ ผมก็ช่วยแม่ล้างด้วย”เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างยิ้มแย้ม
หลี่หลานเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง และพูดอย่างกลั้นหัวเราะไม่อยู่: “ลูกอย่านอนโซฟาอีกเหรอ?”
“ผมยืนต่อไปดีกว่าครับ”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
หวางซีพูดอย่างได้ใจว่า: “เจ้าตัวเล็ก แม่ยังจัดการนายไม่ได้เหรอ?”
ในเวลานี้ ได้ยินแค่ซือซือแอบพูดกับหลี่หลานว่า: “คุณย่าค่ะ เมื่อคืนนี้พ่อแม่หนูฉวยโอกาสตอนที่หนูนอนหลับ แอบคุยกันด้วยค่ะ”
หลี่หลานถาม: “คุยอะไรกัน?”
ซือซือเรียนแบบเสียงของหวางซี พูดเบาๆว่า: “แม่หนูบอกว่า ลูกนอนหลับแล้ว มาสิ ขึ้นมา……ขึ้นมานอนบนเตียงของฉัน”
เย่เซิ่งเทียนตกตะลึงจนตาค้าง วิตกกังวลมาก
หวางซีที่ดื่มนมเปรี้ยว นมเปรี้ยวพุ่งกระจายไปทั่วหน้า