ครูกงถูกไล่ออกโดยตรง และไม่มีใครเห็นใจเขาเลยแม้แต่คนเดียว
หลี่เหวินโป๋เคยย้ำหลายครั้งว่า ไม่อนุญาตให้คุณครูปฏิบัติต่อเด็กอย่างแตกต่าง เห็นได้ชัดว่าครูกงไม่ได้ใส่ใจกับมัน ซึ่งทำให้หลี่เหวินโป๋เสียหน้าอยู่ต่อหน้าเย่เซิ่งเทียนอย่างยิ่ง
หากเป็นพ่อแม่ธรรมดาก็คงไม่เป็นไร มากสุดหลี่เหวินโป๋ก็แค่ขอโทษพวกเขาก็พอแล้ว แต่เย่เซิ่งเทียนเป็นถึงเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังโรงเรียนอนุบาล!
รับค่าจ้างของคนอื่น ยังรังแกลูกเขาอีก ไม่ว่าใครก็คงจะไม่ยอมหรอก?
อนาคตของครูกงจบสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว และคำพูดเหล่านี้ของหลี่เหวินโป๋ก็บล็อกเขาโดยตรงในเมืองเฉียนถัง นอกจากนี้ในอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาทุกคนก็จะรู้หมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลี่เหวินโป๋ยังให้คนในอุตสาหกรรมนี้แจ้งให้เพื่อนร่วมงานในวงการนี้ทราบเป็นพิเศษ
ไม่ต้องพูดถึงเมืองเฉียนถัง แม้แต่ในที่อื่น ครูกงก็ไม่ต้องคิดที่จะอยู่ในวงการนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ครูกงคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา ถูกหลี่เหวินโป๋สั่งให้คนโยนเขาออกไปโดยตรง
หลี่เหวินโป๋แทบอดไม่ไหวที่จะตบเขาแรงๆ สองที
ฉันจ้างคุณเข้ามา คือให้มาทำงาน ไม่ใช่ให้แม่งมาทำลายงานของฉัน!
หลังจากนั้น หลี่เหวินโป๋ได้จัดประชุมผู้ปกครองและคุณครูในตอนบ่ายทันที และขอโทษซือซือต่อหน้าคุณครู ผู้ปกครองและเด็กๆ ทุกคน และกล่าวว่าพ่อของซือซือเป็นวีรบุรุษ ที่ช่วยชีวิตคุณปู่และเด็กคนนั้นไว้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะให้รางวัลซือซือเจ้าตัวเล็กด้วยดอกไม้สีแดงสองดอก
ซือซือมีความสุขอย่างมาก เมื่อเธอได้ยินว่าให้เธอขึ้นไปรับดอกไม้สีแดง ใบหน้าเล็กๆ ที่ประหม่าของเธอก็เคร่งเครียด และพูดด้วยเสียงที่น่ารักว่า คุณพ่อเป็นไอดอลของเธอ และเธอจะเป็นเหมือนพ่อของเธอในอนาคต เป็นคนที่กล้าหาญ และช่วยเหลือผู้อื่น
ในฐานะที่เป็นพ่อคน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ยินว่าลูกสาวยกย่องตัวเอง
“ฮ่าฮ่า ลูกสาวของฉัน เด็กคนนี้นิ จริงๆเลย เรื่องแค่นี้ทำไมต้องพูดออกมาด้วย”
เย่เซิ่งเทียนที่เย็นชาอยู่เสมอ กลับพูดคุยกับผู้ปกครองที่อยู่ข้างๆ เขาอย่างกระตือรือร้นในเวลานี้
“ลูกของคุณช่างฉลาดมากเลย อายุเท่าไหร่แล้วเหรอ? เจ้าเด็กน้อยคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ”
“โอ๊ย ซนจะตาย อายุยังไม่ถึงสี่ขวบเลย”
“ลูกของฉันไม่เชื่อฟังเลยแม้แต่น้อย ของที่เขาอยากได้ถ้าไม่ซื้อให้ก็จะร้องไห้”
“ซือซือของเราจะไม่ค่อยโวยวาย มีของอร่อยก็จะเก็บไว้ให้ฉันอีกด้วย และยังนวดไหล่ให้ฉันด้วย”
เย่เซิ่งเทียนหัวเราะจนหุบปากไม่อยู่ มีความสุขอย่างยิ่ง ยิ่งเหมือนการอวด บนใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และผู้ปกครองที่อยู่ข้างๆ เขาต่างรู้สึกอิจฉากันอย่างมาก
กัดฟันอย่างลับๆ
จะอวดไปเพื่ออะไร ทำเหมือนก็ว่าเธอคนเดียวที่มีลูก ยังจะพูดคุยกันต่อไปได้อีกหรือไม่
เย่เซิ่งเทียนไม่สนใจกับสิ่งเหล่านั้น ไอ้คำว่าเจ้าเทพแห่งความรุ่งโรจน์ เป็นหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งกู้โลก ในเวลานี้ มันไม่ได้ทำให้เขามีความสุขไปกว่าคำพูดของซือซือเลย!
ความรู้สึกแบบนี้ มีเพียงคนที่เป็นพ่อแม่คนแล้ว ถึงจะสามารถสัมผัสได้
ลูก คือชีวิตของพ่อแม่ และเป็นหลักฐานว่าคุณเคยมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้
หลังจบการประชุมผู้ปกครอง โรงเรียนอนุบาลก็ได้เลิกเรียนไปเลย
ระหว่างทาง ซือซือกระโดดไปมาเหมือนกระต่าย พูดพล่ามไม่หยุด
ทันทีที่เข้าบ้าน สีหน้าของเย่เซิ่งเทียนก็เย็นชาลง เมื่อเห็นหยูฝานและสองพ่อลูกหลี่เย่าจู่
หยูฝานรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างระมัดระวังว่า “หมอ หมออัจฉริยะตัวน้อย ฉัน……”
เย่เซิ่งเทียนกลับไม่สนใจเขา และมองไปที่พ่อลูกหลี่เย่าจู่และหลี่อิงเจี๋ยอย่างไม่อดทน “มึงสองคนมาทำอะไรที่นี่? ไม่มีอะไรก็จากไปเถอะ”
หยูฝานหน้าแดง และรู้สึกอักอ่วนจนไม่รู้ว่าควรจะยืนหรือนั่งดี
“เจ้าเด็กคนนี้ทำไมถึงพูดจาอย่างนี้?”
หลี่หลานจ้องไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างโกรธจัด และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกคุณอย่าไปใส่ใจนะ นิสัยของเซิ่งเทียนก็เป็นแบบนี้แหละ พูดไม่ค่อยเป็น”
“ไม่กล้า ไม่กล้า”
หลี่เย่าจู่รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หลี่อิงเจี๋ยที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็รู้สึกประหม่าจนแทบจะฉี่ใส่กางเกง
“เจ้า……คุณเย่ พ่อลูกเรามาที่นี่เพื่อมาขอโทษคุณโดยเฉพาะ หลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา ยินดีที่จะโอนหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้กับคุณหวางซี และยังมีอีก……”
เย่เซิ่งเทียนขัดจังหวะและพูดว่า “สิ่งเหล่านี้ พวกคุณไปคุยที่บริษัทหัวหยวนโดยตรงก็พอแล้ว ทางด้านไอ้หัวเวิ่นยี จะไม่ไปหาเรื่องพวกคุณอีกแล้ว”
“ขอบคุณคุณเย่ ขอบคุณคุณเย่ งั้นเราก็ไม่รบกวนคุณแล้ว”
หลี่เย่าจู่รีบผลักรถเข็นของลูกชายและเดินจากไป
หยูฝานกลืนน้ำลาย และอยากจะพูดอะไรอีก แต่เมื่อเห็นว่าเย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจเขาเลย เขาจึงต้องเดินจากไปอย่างสิ้นหวัง โดยไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
การปรากฏตัวของพ่อลูกหลี่เย่าจู่ ทำให้เขาตกใจ
แม้ว่าตระกูลหยูของพวกเขาจะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองหลวง แต่พวกที่สามารถจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในแวดวงเมืองหลวงได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลยักษ์ใหญ่อย่างตระกูลหลี่แห่งเกาะดาวนั้นมันไม่ถือเป็นอะไรเลยจริงๆ
หลังออกจากประตู หยูฝานก็ถามอย่างสุภาพว่า “คุณท่านหลี่ หรือว่าคุณอยากจะให้หมอเทวดาเย่รักษาขาของคุณชายรองงั้นหรือ?”
หลี่เย่าจู่พูดอย่างจางๆ ว่า “ให้คุณเย่รักษางั้นเหรอ? เราไม่มีคุณสมบัติพอหรอก! ขาของอิงเจี๋ยก็เพราะเขาทำให้คุณเย่ขุ่นเคือง ถึงถูกฉันตีหักเอง! ถ้าคุณเย่ไม่ยกโทษให้ ฉันก็จะฆ่าเขาด้วยตัวเอง!”
“อะไรนะ?!”
หยูฝานตกตะลึงไปเลย!