บทที่ 453คุกเข่าขอโทษผม
“ห๊ะ?”
การแสดงออกของหยูฝาน เจียงเหมย อู๋เจิงหยและจ้าวปิง ทำให้ มู่ซิ่วหลินรู้สึกตกตะลึง
เขาเป็นเขยแต่งเข้าของตระกูลหลี่มานานหลายปีแล้ว และเขาเป็นคนสร้างซิ่วหลินกรุ๊ปขึ้นมาเองกับมือ ตระกูลหยูและตระกูลเจียงเป็นคู่ค้าที่สำคัญของเขา
ถึงแม้ว่าการร่วมมือทำธุรกิจกับตระกูลจ้าวจะไม่ค่อยสำคัญ แต่ตระกูลจ้าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเมืองใหม่ในเมืองเฉียนถัง และซิ่วหลินกรุ๊ปต้องการที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ จึงมีความจำเป็นต้องร่วมมือทำธุรกิจกับตระกูลจ้าว
สำหรับตระกูลอู๋แล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซิ่วหลินกรุ๊ปมุ่งเน้นไปที่งานของวงการบันเทิง ซึ่งการร่วมมือทำธุรกิจกับ W Entertainment นั้นมีความสำคัญมาก
แต่ตอนนี้ เพียงเพราะหลี่เซียงหลันภรรยาโง่เขลาของตนเอง ไปล่วงเกินครอบครัวของหลี่หลาน การร่วมมือทำธุรกิจทั้งหมดระหว่างครอบครัวเหล่านี้จึงยุติลง!
สำหรับตระกูลจ้าวและตระกูลอู๋นั้นไม่เท่าไหร่ เพราะทางเจียงหนานยังมีพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ
แต่สำหรับตระกูลหยูและตระกูลเจียง ล้วนเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง และพวกเขาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญอย่างยิ่งของตระกูลหลี่
ตอนนี้ เพราะภรรยาของตนเอง ทำให้สองตระกูลนี้ยุติการร่วมมือทำธุรกิจกับตนเองทันที นี่เป็นการโจมตีอย่างร้ายแรงต่อซิ่วหลินกรุ๊ป
เพราะสองตระกูลนี้มีอิทธิพลมาก เมื่อทั้งสองตระกูลยุติการร่วมมือทางธุรกิจกับตนเองแล้ว พันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ เหล่านั้นก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
บางทีไม่แน่ ซิ่วหลินกรุ๊ปอาจจะล้มละลาย!
มู่ซิ่วหลินตกตะลึงและไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นเวลานาน
เย่เซิ่งเทียนเป็นเพียงทหารผ่านศึกเท่านั้น และเป็นแค่เขยแต่งเข้าเท่านั้น เขามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้ได้อย่างไร?
พวกเขายังเคารพเย่เซิ่งเทียนมากอีกด้วย!
แม่งฉิบหาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นนี่!
สวรรค์ ผู้หญิงโง่เขลาคนนี้ไปยั่วยุเป็นใครกันแน่?!
หลี่เซียงหลันที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เธอนึกไม่ถึงว่าตนเองเพียงแค่ต้องการระบายความโกรธ และเหยียบย่ำครอบครัวของหลี่หลานเท่านั้น แล้วทำให้ถึงได้ทำให้คนเหล่านี้ขุ่นเคืองได้?
“ประธานหยู คุณนายหยู นี่เป็นความเข้าใจผิด เป็นความเข้าใจผิด”
สามารถมองเห็นเหงื่อบนหน้าผากของมู่ซิ่วหลิน
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที
“เข้าใจผิด?”
จ้าวปิงกล่าวเยาะเย้ย “ประธานมู่เมื่อสักครู่ผมบอกคุณไปแล้วว่านี่เป็นความเข้าใจผิด และบอกให้คุณอย่าล่วงเกินคุณเย่ แล้วตอนนั้นคุณพูดว่าอะไร?”
ไม่ว่าจะยังไงจ้าวปิงก็เป็นผู้นำตระกูลเหมือนกัน ถึงแม้ว่าขนาดของจ้าวซื่อกรุ๊ปจะใกล้เคียงกับซิ่วหลินกรุ๊ปและไม่สามารถเทียบตระกูลหลี่ได้ แต่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาไม่เพียงไม่ให้เกียรติตนเอง แต่ยังตบหน้าตนเองอีกด้วย แล้วตนเองจะเอาหน้าไปไว้ไหน?
“นี่…….ผม……..ประธานจ้าว ผมขอโทษ ผมเลอะเลือนชั่วครู่… เลอะเลือนชั่วครู่ เห็นแก่หน้าผมเถอะ นี่เป็นความเข้าใจผิด”
รอยยิ้มของ มู่ซิ่วหลินน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะตกต่ำจนถึงจุดนี้
อู๋เจิงหยงกล่าวถากถางว่า “เข้าใจผิด? เข้าใจผิดอะไร? ธุรกิจของซิ่วหลินกรุ๊ปเจริญรุ่งเรือง แล้วจะมาสนใจคนอย่างพวกเราทำไม? ซิ่วหลินกรุ๊ปเก่งนักไม่ใช่หรือ? ถึงจะไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจอย่างพวกเรา ซิ่วหลินกรุ๊ปคงไม่ตายหรอก พวกเราไม่คู่ควรที่จะได้รับคำขอโทษจากประธานมู่”
มู่ซิ่วหลินเกือบจะร้องไห้ออกมา เขาไม่สนใจตระกูลจ้าวและตระกูลอู๋ได้ แต่ถ้าเขาไม่สามารถดึงตระกูลหยูและตระกูลเจียงกลับมาได้ งั้นเขาก็จะไม่สามารถเป็นประธานของ ซิ่วหลินกรุ๊ปได้อีกต่อไปแล้ว
และมีความเป็นไปได้สูง ที่จะถูกท่านเฒ่าหลี่ขับไล่ออกไปจากตระกูล!
เขามองหยูฝานและภรรยาด้วยสายตาอ้อนวอน “ประธานหยู คุณนายหยู ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ ผมยินดีจะขอโทษ”
ประธานหยูกล่าวด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรว่า “ขอโทษ? มู่ซิ่วหลินเมื่อสักครู่ถ้าผมมาไม่ทัน คุณคงลงมือทำร้ายครอบครัวของคุณเย่แล้วใช่ไหม? คุณช่างมีความน่าเกรงขามเสียจริง ๆ คุณทำผิดเป็นด้วยเหรอ?”
เจียงเหมยพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา “คุณเย่ช่วยชีวิตพ่อสามีและลูกสาวของฉัน ถ้าพวกคุณทำร้ายคุณเย่ ก็เท่ากับพวกคุณกำลังประกาศสงครามกับตระกูลหยูและตระกูลเจียง ซิ่วหลินกรุ๊ปไม่สนใจแม้แต่พันมิตรทางธุรกิจอย่างประธานจ้าว แล้วจะมาสนใจพวกเราสองตระกูลได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มู่ซิ่วหลินรู้สึกอยากจะตาย หันไปตบหน้าหลี่เซียงหลันสองครั้ง และด่าอย่างรุนแรงว่า “คุณมันโง่ ยังไม่รีบไปขอโทษพี่ใหญ่อีก และขอโทษคุณเย่ด้วย!!”
“คุกเข่าขอโทษพร้อมกับผม! เมื่อไหร่ที่พี่ใหญ่และคุณเย่ให้อภัย ค่อยลุกขึ้นเมื่อนั้น!”
หลังจากกล่าวจบมู่ซิ่วหลินก็คุกเข่าต่อหน้าเย่เซิ่งเทียนทันที