Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 565 มายากล
“ฉันว่านะ อย่าเสียเวลากับไอ้เด็กนั่นเลย ยังคิดจะปรุงยาอีก ปรุงแม่มันรึไง มันคิดว่าตัวเองจัดการผีอย่างนักพรตอยู่เหรอ”
หมอคนหนึ่งก่นด่า
“นี่มันเป็นความอัปยศของพวกเราทุกคน ถึงแม้ว่าพวกเราจะปรุงยาออกมาไม่ได้ แต่ก็เคยเห็นท่านหมอปรุงยา ใครจะทำแบบนี้ละ”
ตัวแทนของตระกูลกู่ขึ้นเสียง พูดเสริม”ท่านหมอสมาคมทางการแพทย์ทุกท่าน พวกท่านปกติก็ปรุงยากันใช่ไหมล่ะ? พวกท่านดูสิ นี่เรียกว่าการปรุงยาเหรอ? นี่ก็แค่การทำให้พวกเราทั้งหมดดูเป็นคนไงล่ะ!”
ตัวแทนจากตระกูลเซียวพูด “ไม่ต้องรอรอแล้ว ให้เวลาไอ้เด็กพรรค์นี้อีกสิบปีก็ปรุงออกมาไม่ได้หรอก ทำให้มันตายไปเสียได้แล้ว”
ตัวแทนจากตระกูลซุนประนามว่า “เย่เซิ่งเทียน พอแล้ว ไม่ต้องแกล้งทำต่อไปแล้ว อย่าคิดว่าพวกฉันไม่รู้ว่าแกกำลังแกล้งพวกฉันอยู่ แกคิดว่าพวกฉันโง่รึไง?”
ตระกูลหวางแห่งลังงายิ้มเย็นแล้วพูดว่า “ทุกท่านไม่ต้องรอแล้ว รีบทำให้มันตายไปเสียแล้วกัน มันทำไม่สำเร็จหรอก เด็กแบบนี้มาปรุงยา ก็เหมือนทำให้เรากลายเป็นคนโง่ไงล่ะ”
คนของตระกูลผู้ดี จะรักษาความเงียบสงบให้เย่เซิ่งเทียนได้ปรุงยาดีๆได้อย่างไร ตั้งใจพูดคุยเสียงดังโวยวาย อีกทั้งยังทำเสียงรบกวนไม่หยุดหย่อน นั่นก็เพราะว่าอยากจะรบกวนสมาธิของเย่เซิ่งเทียน ทำให้เย่เซิ่งเทียนไม่สามารถปรุงยาออกมาได้
“คิดไม่ผิดเลยจริงๆ นี่ก็เป็นแค่การทำตัวโอ้อวดหลอกลวง ฉันดูคนไม่ผิดแน่ แต่ฉันจะรอดูว่าแกจะเสแสร้งไปจนถึงเมื่อไหร่ ฮึ!”
มู่หว่านชิงมองเย่เซิ่งเทียนที่ทำมั่วๆเช่นนั้น ความสุขเล็กๆเกิดขึ้นในใจไม่หยุด
ตั้งแต่ยังเด็กไป๋อวิ๋นเฟยและเธอโตมาด้วยกัน ทั้งสองตระกูลต่างก็คาดหวังให้แต่งงาน แม้ว่าจะยังไม่ได้พูดกัน แต่ทุกคนก็รู้ดี
แต่ตอนนี้ไป๋อวิ๋นเฟยถูกเย่เซิ่งเทียนฆ่าตาย แล้วเธอจะไม่เคียดแค้นเย่เซิ่งเทียนได้อย่างไร
“ถ้าพวกแกยังไม่อยากตายก็หุบป่ากเดี๋ยวนี้!!!”
ทันใดนั้นเอง หูชิงหนิวตะโกนเสียงดังไปที่เจ็ดตระกูลเก่าแก่!
คนจากตระกูลเหล่านั้นต่างตกตะลึง
เกิดอะไรขึ้น?
หมอเทวดาหูทำไมถึงโมโหกันล่ะ?
ที่พวกเขาทำอยู่นี่ก็กำลังช่วยพวกท่านไงล่ะ แล้วทำไมต้องมาโมโหใส่พวกเขาด้วย?
แต่ว่าพวกเขากลับไม่กล้าพูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว หกหมอเทวดานิสัยแปลกประหลาด หากพวกเขาทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าแม้เพียงครั้งเดียว แล้วทำให้หกหมอเทวดาโกรธ ทางตระกูลไม่มีทางให้อภัยพวกเขาเป็นแน่
อีกทั้งในเวลานี้ หกหมอเทวดากำลังจดจ่ออยู่กับกระบวนท่ามือของเย่เซิ่งเทียน เหมือนดั่งกำลังลุ่มหลงมัวเมา ไม่ได้สนใจคนจากตระกูลผู้ดีหรือตระกูลเก่าแก่เหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
“เขา……เขากำลังควบคุมไฟ!!! นั่น นั่นคือกระบวนท่ามือของการควบคุมไฟ!”
ทันใดนั้น หมอผีจั่วอู๋เต้าพูดเสียงเบา ในที่สุดก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่ผิดปกติ
เพราะเปลวไฟที่อยู่ในเตากลั่นยา ในทุกๆครั้งที่เย่เซิ่งเทียนใส่สมุนไพรลงไป ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
“นี่……นี่มันเป็นไปได้ยังไง ทำไมเขาถึงควบคุมไฟได้? หรือว่า นั่น นั่น……”
โก้วหวยตกใจจนพูดไม่ออก สีหน้าตื่นตกใจ ราวก็บว่าพึ่งไปเห็นผีมา พลางมองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างตกตะลึง
“วิชา……ควบคุม……ไฟ”
หมอกู่หวังหลิงงุนงงอยู่ครู่ใหญ่ ถึงจะพูดคำนี้ออกมาได้!
พวกเขาล้วยเป็นหมอกันทั้งนั้น เป็นหมอตัวแทนแห่งต้าเซี่ยด้วย รู้ไวกับเรื่องแปลกประหลาดระหว่างการปรุงยามาก
คนข้างกายยังมองไม่ออก พวกเขายังมองไม่ออกได้อีกงั้นเหรอ?
ความเบาแรงของเปลวไฟ มีความเกียวข้องโดยตรงกับฤทธิ์ยา
มิน่าล่ะเย่เซิ่งเทียนถึงกล้าที่จะใส่สมุนไพรทั้งหมดลงไปในเตากลั่นยาโดยตรง เพียงแค่สามารถควบคุมไฟได้ก็จะสามารถป้องกันการที่เปลวไฟจะไหม้สมุนไพรทั้งหมดให้เป็นเถ้าถ่านได้
เพียงแค่สามารถควบคุมไฟได้ ก็จะสามารถควบคุมการระเหยของฤทธิ์สมุนไพรได้
นี่คือความลับของวิชาควบคุมไฟ!
“วิชาวิเศษวิชาควบคุมไฟ! วิชาลับที่หายสาบสูญไปตั้งพันปีของสมาคมทางการแพทย์ของพวกเรา! ตอนนี้กลับปรากฎขึ้นแล้ว ฉันนี่ช่างมีบุญเหลือเกินที่ได้เห็น!”
เผยชุนชิวตัวสั่นไปทั้งร่าง ทว่าบนใบหน้ากลับเกิดสีหน้าเหมือนกำลังแสวงบุญ
“ฉัน…ฉัน…ฉัน……”
เจียงหมิงเฉิงอยากพูดอะไรออกมา ทว่ากลับถูกคนอื่นอีกห้าคนขวางด้วยเสียงเย็นชาว่า ” หุบปาก ถ้าหากแกกล้ารบกวน พวกฉันจะตัดลิ้นแกเดี๋ยวนี้”
เจียงหมิงเฉิงงุนงง
แม่ง ทำไมพวกแกพูดได้ แต่ฉันพูดไม่ได้?
ก็พวกแกแสดงความคิดกันได้ แต่ห้ามฉันแสดงความตกใจงั้นเหรอ?
พวกแกนี่มันไม่ใช่คนแล้ว!
ไอ้สัตว์แก่ห้าตัว ไอ้สัตว์สี่ขา
แม่งเอ้ย!