Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 612 โยนความผิดให้คนอื่น
ซ่งหยวนลี่มองเย่เซิ่งเทียนและ เย่ว์อิ่นหลงด้วยดวงตาที่ดุร้าย
สองคนนี้รนหาที่ตาย กล้าทำร้ายเขาจริง ๆ!
เขาต้องทำให้สองคนนี้รู้ว่าการยั่วยุเขาซ่งหยวนลี่นั้นจะมีจุดจบอย่างไร
เพี๊ยะ!
หลังจากซ่งหยวนลี่ด่าจบ เย่ว์อิ่นหลงซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเย่เซิ่งเทียนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ยกมือแล้วตบไปที่หน้าของเขา
“แกคิดว่าตนเองเป็นใคร ยังกล้ามาดูหมิ่นคุณเย่อีก!”
การตบหน้าครั้งนี้ทำให้ซ่งหยวนลี่หมุนสามรอบ เลือดไหลออกมาจากมุมปาก เขาอ้าปากแล้วถุยฟันออกมาสองสามซี่
ท่านจินแอบรู้สึกไม่พอใจซ่งหยวนลี่ที่ไม่รู้จักแยกแยะ ทั้งที่รู้ว่าพวกเขาสองคนเป็นคนพวกไม่กลัวตาย ตอนนี้พญาบู๊เฉินยังมาไม่ถึง ซ่งหยวนลี่ก็ยังไปยั่วยุพวกเขาอีก
คุณคิดว่าไม่มีใครกล้าแตะตัวคุณจริง ๆเหรอ?
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมีภูมิหลังของตระกูลซ่ง คุณหยิ่งผยองขนาดนี้ คุณคงถูกฆ่าตายนานแล้ว!
เดิมทีเรื่องนี้คลี่คลายไปชั่วคราวแล้ว ขอเพียงแค่พญาบู๊เฉินมาถึง อยากจะแก้แค้นอย่างไรก็ได้ แต่ท่านจินไม่คิดว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ซ่งหยวนลี่จะไปยั่วยุอีกฝ่าย นี่มันเป็นการรนหาความตายเอง?
เป็นคนที่ไร้ประโยชน์จริง ๆ แค่เรื่องนี้ก็มองไม่ออก โง่เขลาเสียจนเหลือเพียงแค่ภูมิหลังของตระกูลเท่านั้น!
“คุณชายซ่ง ทุกอย่างรอให้ท่านเฉินมาถึงแล้วค่อยจัดการ”
ท่านจินส่งสายตาเป็นนัยให้ซ่งหยวนลี่ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องยั่วยุสองคนนี้ มิเช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีใครสามารถมีชีวิตรอดได้
คนไม่กลัวตายพวกนี้ ไม่สนใจภูมิหลังของซ่งหยวนลี่อยู่แล้ว มิเช่นนั้นคืนนี้พวกเขาคงจะไม่ลงมือฆ่าคนโดยตรง
ท่านจินอยู่ในยุทธภพมาทั้งชีวิตแล้ว เขารู้ดีว่าสุนัขที่กัดไม่เห่า คนที่น่ากลัวที่สุดคือชายหนุ่มที่มุทะลุแบบนี้ ถ้าโมโหขึ้นมาแล้วจะไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าภูมิหลังของคุณจะใหญ่โตแค่ไหน เขาก็จะลงมือโดยตรง
ถ้าอีกฝ่ายทำเพื่อเงิน มันก็จะเคลียร์ได้ง่ายขึ้น
“พวกคุณสองคนทำร้ายคุณชายซ่งจนมีสภาพแบบนี้ และการที่เขาจะรู้สึกโกรธมันก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อคนทางฝ่ายของผมมาถึงแล้ว พวกเราค่อยเคลียร์ คุณว่าไง?”
ท่านจินพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาน้ำเสียงของเขาให้สงบ และไม่ปล่อยให้ตนเองตื่นตกใจ
เพี๊ยะ
“ไอ้สุนัขแก่ ยังกล้าพูดเงื่อนไขกับคุณเย่อีก? แกคู่ควรเหรอ?”
เย่ว์อิ่นหลงไม่ให้เกียรติเขา ยกมือขึ้นแล้วตบไปบนหน้าของท่านจิน
ท่านจินกัดฟันอย่างลับ ๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไรอีก
เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้เป็นคนประเภทที่ไม่กลัวฟ้าดิน เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าทำไมซ่งหยวนลี่ถึงได้ไปยั่วยุคนประเภทนี้ได้
ถ้าอีกฝ่ายไม่ประมาทขนาดนี้ ถ้าพวกเขาต้องรอให้พญาบู๊เฉินมาถึงก่อน เกรงว่าพวกเขาจะตายอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว
ท่านจินแอบเสียใจเล็กน้อย เขาน่าจะรู้เรื่องอย่างชัดเจนก่อนแล้วค่อยเข้ามาแทรกแซง ตอนนี้เขาไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ดวงตาทั้งคู่หมองหม่น และเขากลัวว่าสุดท้ายจะมีอะไรผิดพลาด
แต่เมื่อคิดว่าถ้าตนเองสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เขาก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซ่งได้ แล้วร่องรอยความเสียใจของจิท่านจินก็หายไป
“จินโจง ใครที่จองหองขนาดนี้ และไม่ยอมให้เกียรติแม้แต่ผมเฉินซือเลี่ยง?”
เสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังดังเข้ามา ทำให้สีหน้าของท่านจินและคนอื่น ๆ ต่างเต็มไปด้วยความสุข พญาบู๊เฉินมาถึงแล้ว!
ท่านจินรีบทักทายเขาและกล่าวว่า “ท่านเฉิน ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว น้องชายประสบปัญหา ผมอ้างชื่อของคุณแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้เกียรติผม ดังนั้นผมจึงต้องรบกวนคุณมาด้วยตัวเอง แล้วผมจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่เป็นการขอบคุณอย่างแน่นอน”
เย่เซิ่งเทียนหันหลังให้ประตูและไม่แยแส
ซึ่งร่างของท่านจินนั้นปิดกั้นการมองเห็นของเฉินซือเลี่ยง ดังนั้นเฉินซือเลี่ยงจึงจำเย่เซิ่งเทียนไม่ได้
“ฮ่า ๆ ผมอยากจะเห็นว่าใครที่น่าเกรงขามขนาดนี้ และไม่ยอมให้เกียรติแม้แต่ผมเฉินซือเลี่ยง”
เฉินซือเลี่ยงยิ้มด้วยความไม่แยแส
“พญาบู๊เฉิน ผมชื่อซ่งหยวนลี่แห่งตระกูลซ่ง ถ้าวันนี้คุณช่วยผม ตระกูลซ่งจะไม่มีวันลืมบุญคุณ”
เมื่อเห็นเฉินซือเลี่ยงมาถึงแล้ว ซ่งหยวนลี่แทบรอไม่ไหวที่จะชี้ไปที่เย่เซิ่งเทียนและกล่าวว่า “คนสองคนนี้จงใจยั่วยุและยังทำร้ายผม เมื่อสักครู่ท่านจินอ้างชื่อของคุณแล้ว แต่พวกเขาสองคนไม่แยแส แล้วยังบอกว่าถึงแม้สุนัขแก่อย่างเฉินซือเลี่ยงมา พวกเขาบอกว่าจะตัดศีรษะของคุณด้วยเช่นกัน”
ท่านจินแอบชื่นชม เหตุผลที่เขาพูดเช่นนั้น ก็เพื่อจะทำให้เฉินซือเลี่ยงโกรธ และซ่งหยวนลี่มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว และร่วมมือกับตนเอง
ตอนนี้ ไม่ว่าพวกเขาสองคนจะพูดเช่นนี้หรือไม่ เฉินซือเลี่ยงก็จำเป็นต้องลงมือเคลื่อนไหวแล้ว มิเช่นนั้นเขาจะอับอายขายหน้า