“เย่เซิ่งเทียน ทุกคนแค่พูดความจริงเท่านั้น ทำไมแกต้องลงมือทำร้ายคนด้วย?”
ขณะนี้ หลี่เฟิงยืนออกมา นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะดึงคนในตระกูลมาเป็นพวกตนเอง
เขารู้สึกว่าขอเพียงตนเองควบคุมคำพูดได้ เย่เซิ่งเทียนก็จะไม่ลงมือทำร้ายตนเอง ขณะเดียวกันเขาก็สามารถได้ใจคน เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
“คำพูดของหลี่เผิงเฉิงแรงเกินไป และเขาพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด มันเป็นความผิดของเขาจริง ๆ แต่การที่คุณลงมือทำร้ายคน คุณก็มีความผิดด้วย”
หลี่เฟิงแสดงท่าทางของผู้อาวุโสและสั่งสอนว่า “คุณและหวางซีเป็นรุ่นน้องในตระกูล คุณไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัวหรือ? การล่วงเกินตระกูลซ่ง เดิมทีมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอยู่แล้ว เดิมมันก็เป็นความผิดของหวางซี พวกเราตระกูลหลี่ไม่สามารถพูดอะไรได้แม้แต่ประโยคเดียวเลยเหรอ?”
หวางซีกล่าวด้วยความโมโหว่า “คุณลุง นี่คือเรื่องของการพูดผิดเหรอ? ฉันคิดว่าสามีของฉันทำร้ายคนไม่ผิด พวกคุณใช้ความเป็นผู้อาวุโสมาบีบบังคับคนอื่น และพูดดูหมิ่นครอบครัวของฉัน แล้วพวกเราไม่สามารถโต้แย้งได้เหรอ? หลี่เผิงเฉิงเป็นคนปากเสีย คนแบบนี้สมควรได้รับบทเรียน!”
ความเกลียดชังอย่างรุนแรงประกายอยู่ในดวงตาของหลี่เฟิง เดิมเขาต้องการตำหนิเย่เซิ่งเทียน แต่เมื่อเขาเห็นดวงตาที่เย็นชาของเย่เซิ่งเทียนแล้ว ทำให้เขาเหมือนรู้สึกตกลงไปในห้องใต้ดินน้ำแข็ง ทำให้เขาไม่กล้าพูดมาก และกล่าวแบบไร้เหตุผลว่า “ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ควรลงมือทำร้ายเขา ตอนนี้ผู้อาวุโสอยู่ที่นี่สามคน ส่วนมันจะยุติธรรมหรือไม่พวกเขาจะเป็นคนตัดสินเอง? และการที่ให้คุณมอบอำนาจบริหารของหลี่ซื่อกรุ๊ปออกมา ก็เป็นการตัดสินใจของคณะอาวุโส ตอนนี้คนในตระกูลเห็นด้วยทั้งหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้ถึงคุณจะถ่วงเวลามันก็ไม่มีประโยชน์”
หลี่เฟิงไม่กล้าพูดจาโหดเหี้ยม ตอนนี้ภายนอกของเขาดูเข้มแข็ง แต่ข้างในขี้ขลาดตาขาว เพราะเขาถูกเย่เซิ่งเทียนทำร้ายจนกลัวแล้ว
หลี่กั๋วเฉียงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก และกล่าวว่า “ฮึ่ม! หลานชายของผมถูกทำร้ายในตระกูลหลี่! นี่คือทายาทที่หลี่กั๋วหรงเลือก! นี่คือคนที่หลี่กั๋วหรงไว้วางใจ! หลี่กั๋วหรงแก่จนเลอะเลือนไปแล้ว แต่ผมหลี่กั๋วเฉียงยังไม่เลอะเลือน ให้คนนอกมารังแกคนในตระกูลตนเอง!”
หลี่เซิ่งซึ่งเป็นตัวแทนของญาติสายรอง และเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสของคณะอาวุโสที่เงียบตลอดมา ขณะนี้เขากล่าวว่า “มันมากเกินไปจริง ๆ เย่เซิ่งเทียน คุณควรจะขอโทษ! เพราะภรรยาคุณทำให้หลี่ซื่อกรุ๊ปเกิดปัญหาใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นความรับผิดชอบของพวกคุณ! ตอนนี้พอคนอื่นพูด พวกคุณก็รู้สึกไม่พอใจ แล้วยังกล้าทำลงทำร้ายคนอีกด้วย คุณคิดจะต่อต้านเหรอ?”
“เอาสิ เอาสิ เย่เซิ่งเทียน เจ้าเด็กนอกคอก ถ้าแกแน่จริงก็ทำร้ายฉันด้วยสิ!”
หลี่กั๋วเฉียงเหมือนอันธพาล พุ่งเข้าไปหาเย่เซิ่งเทียนทันที
หลี่กั๋วเฉียงคำรามด้วยความโมโห “กำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว กล้าลงมือทำร้ายคนต่อหน้าคนตระกูลหลี่ เย่เซิ่งเทียนแกไม่เคารพกฎเกณฑ์มากเกินไปแล้ว หวางซี นี่คือสามีที่ดีของเธอเหรอ?! ครอบครัวของพวกแกเป็นตัวซวยจริง ๆ ถ้าพวกแกไม่กลับมาตระกูล ตระกูลหลี่จะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้! เย่เซิ่งเทียน หวางซี หรือไม่พวกแกก็ทำร้ายฉันด้วย หรือไม่พวกแกก็คุกเข่าขอโทษแล้วยอมรับความผิด และมอบอำนาจบริหารของหลี่ซื่อกรุ๊ปออกมา!”
“มาสิ เจ้าเด็กนอกคอก แกเข้ามาทำร้ายสิ วันนี้ถ้าแกไม่ทำร้ายฉันตาย ฉันก็จะใช้แซ่ตามแก! เจ้าเด็กนอกคอก ทำร้ายหลานชายต่อหน้าฉัน แกคิดว่าบ้านสามรังแกได้ง่าย ๆ เหรอ?”
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เมื่อเผชิญกับคำขอเช่นนี้ เย่เซิ่งเทียนก็ไม่ได้เกรงใจแม้แต่น้อย ยกมือขึ้นและตบหน้าหลี่กั๋วเหว่ยและหลี่กั๋วเฉียง
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสหลี่กั๋วเหว่ยและหลี่กั๋วเฉียงทั้งสองคน ถูกเย่เซิ่งเทียนตบหน้า ทุกคนในตระกูลหลี่ต่างตกตะลึง
ผู้อาวุโสทั้งสองถูกทำร้าย เย่เซิ่งเทียนกล้าลงมือจริง ๆ! !
บ้าระห่ำมาก!
กล้าทำร้ายแม้แต่ผู้อาวุโส!
“ผมเคยเห็นคนขอทานมากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนขอให้ทำร้าย”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวด้วยความไม่แยแส
“พวกแกก่อกวนกันพอหรือยัง?!!”
ทันใดนั้นเสียงคำรามด้วยความผิดหวังที่ไม่ได้ดังที่คาดหวังดังเข้ามา
หลี่หลานเข็นหลี่กั๋วหรงที่นั่งรถเข็นปรากฏตัวขึ้น
สีหน้าของหลี่กั๋วหรงที่นั่งอยู่บนรถเข็นเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม และมีความเจ็บปวดอยู่ในดวงตา
ผิดหวังที่ไม่ได้ดังที่คาดหวัง!