Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 664 ตระกูลหลี่เปลี่ยนอำนาจ
“แกเข้าใจสถานการณ์ของวันนี้แค่ไหน?”
ญาติห่างๆของตระกูลหลี่ ตอนนี้หลี่เซิ่งกำลังอบรมสั่งสอนหลี่เตี่ยนหลานของตัวเอง ลูกชายของเขาตายนานแล้ว ดังนั้นความหวังทุกอย่างจึงฝากฝังไว้กับหลานชาย
และหลี่เตี่ยนเองก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง อายุยังน้อยแต่มีความกระฉับกระเฉง
“คุณปู่ครับ ผมเข้าใจประมาณหนึ่งครับ”
หลี่เตี่ยนพูดเองเออเอง“ส่วนบ้านสามก็ไม่ต้องพูดเยอะ พวกเขากับเซิ่งเทียนก็เหมือนน้ำกับไฟ ดังนั้นแทบจะลงมือกันทันที ผมเดาว่าพวกเขาน่าจะลงมือแล้วล่ะครับ แต่ก็ต้องล้มเหลวไปด้วยเช่นกัน”
“คุณปู่ใหญ่ล่ะครับ เหมือนจะผิดหวังกับตระกูลหลี่เต็มทน แต่ความจริงแล้วฉลาดมากๆ รู้จักถอยเพื่อเข้า ด้านหนึ่งเพื่อให้คำอธิบายกับเย่เซิ่งเทียน อีกด้านหนึ่งทำให้เราไม่มีข้อแก้ตัวในการลงมือจัดการกับบ้านใหญ่”
“ทางฝั่งบ้านรอง ดูเหมือนจะกดดันทุกย่างก้าว แต่กลับเหลือทางหนีทีไล่ เรื่องล่วงเกินผิดใจคนอื่นบ้านสามล้วนทำทั้งหมด อนาคตถึงเย่เซิ่งเทียนจะพลิกกระดานหมาก ก็ยังพอสามารถไกล่เกลี่ยได้ การแย่งชิงอำนาจในครั้งนี้ คนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็นบ้านรอง”
“เย่เซิ่งเทียนก้ไม่ใช่คนหาเรื่องได้ง่ายๆ จนถึงตอนนี้เขายังไม่ลงมือ นั่นหมายความว่าเขากำลังรอจังหวะ ด้วยลักษณะนิสัยของเย่เซิ่งเทียน เขาไม่ออกตัวแรงแต่ถ้าได้ลงมือเขาจะทำอะไรออกมาได้เหลือเชื่อ การเคลื่อนไหวของเขาดุจฟ้าผ่า และวิธีการรู้จักถอยเพื่อเข้าของคุณปู่ใหญ่ ก็คือเย่เซิ่งเทียน เพียงแค่ผมไม่รู้ว่าอิทธิพลของเย่เซิ่งเทียนเป็นอย่างไร ดังนั้นเข้าใจเรื่องนี้ประมาณหนึ่งครับ”
หลี่เซิ่งหัวเราะอย่างมีความสุข“สามารถเข้าใจได้ประมาณหนึ่ง ก็ถือว่าไม่เลวแล้วล่ะ คนที่สามารถดูออกมีไม่กี่คนหรอก ไอ้โง่หลี่เฟิงถูกคนปั่นหัวยังไม่รู้เรื่องเลย คิดว่าตัวเองแย่งอำนาจมาได้แล้วเลยไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ความจริงแล้วการที่เขาได้ตำแหน่งมาเป็นการทำร้ายบ้านใหญ่ทางตรง สำหรับความแข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียน ฮ่าๆ ข้อมูลที่ฉันได้มาก็คือ เขาเป็นตัวแทนของท่านเทพเจ้า!”
“ถึงว่าล่ะ”
หลี่เตี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามว่า“คุณปู่ครับ งั้นต่อไปเราต้องหยุดทุกการเคลื่อนไหว?”
หลี่เซิ่งพูดอย่างยิ้มๆ“แล้วแกคิดว่าเราควรทำอย่างไรดีล่ะ?”
หลี่เตี่ยนพูดอย่างเคร่งขรึม“ในเมื่อเย่เซิ่งเทียนเป็นตัวแทนของท่านเทพเจ้า ถ้าอย่างงั้นถึงตระกูลซ่งจะได้รับการหนุนหลังจากตระกูลกู่ และไม่กล้าทำอะไรที่เกินไป แน่นอนว่า ถ้าหากว่าตระกูลซ่งไม่รู้ตัวตนของเย่เซิ่งเทียน ค่อยว่าไปอย่าง แต่เย่เซิ่งเทียนจะต้องใช้ประโยชน์จากตัวตนนี้ลงมือกับตระกูลซ่ง ไม่แน่อาจจะใช้โอกาสนี้ทำลายตระกูลซ่งไปด้วยก็ได้”
“ตอนที่ฉันไปเมืองเฉียนถังได้ตรวจสอบชัดเจนแล้ว คนเหล่านั้นกับบรรดาตระกูลทั้งหลายที่ลงมือกับหวางซี ถ้าไม่ขอโทษสำนึกผิดแล้วถูกบริษัทหัวหยวนกลืนกิน ไม่งั้นก็จะถูกทำลาย เห็นได้ว่าเย่เซิ่งเทียนไม่ใช่คนที่จะยอมประนีประนอมง่ายๆ”
“นิสัยของเขาเผด็จการ แต่วิธีการเหล่านั้นของตระกูลซ่ง แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่รู้ตัวตนของเย่เซิ่งเทียน ดังนั้นครั้งนี้มีความเป็นไปได้มากว่าจะเสียเปรียบ ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกทำลาย ก็ต้องดูว่าท่านเทพเจ้าคิดยังไง”
“ความคิดของผมก็คือ ในเมื่อญาติห่างๆอย่างเราได้มาซึ่งผลประโยชน์แล้ว สู้เราเอาหุ้นของคุณปู่ใหญ่ออกมาดีกว่าไหมครับ แล้วส่งมอบให้หวางซี พวกเขาก็รู้ดีว่า ญาติห่างๆอย่างเราไม่มีสิทธิ์พูดอะไร ขอแค่เราสานสัมพันธ์กับหวางซี ก็จะได้รับความเมตตาจากเย่เซิ่งเทียน”
เมื่อฟังการวิเคราะห์ของหลี่เตี่ยนจบ หลี่เซิ่งก็รู้สึกประทับใจมาก“สมกับที่เป็นหลานชายฉันจริงๆ ฉันสามารถมอบหมายให้แกทำภารกิจต่อไปได้อย่างวางใจ วางมือให้แกจัดการต่อ ไม่ต้องยับยั้งชั่งใจ ฉันสนับสนุนทุกการตัดสินใจของแก”
ถึงอย่างไรหลี่เตี่ยนก็ยังอายุน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของคุณปู่ ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เขารอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว
ในขณะเดียวกัน ข่าวนี้ได้แพร่ไปทั่วทั้งตระกูลหลี่แล้ว
ข่าวว่าเย่เซิ่งเทียนถูกตระกูลซ่งจับตัวไป คนพวกนั้นในตระกูลหลี่ต่างพากันดีใจ โดยเฉพาะคนของบ้านสาม อาศัยจังหวะนี้ในการกดขี่คนของบ้านใหญ่
หลี่เฟิงพึ่งพบว่า เย่เซิ่งเทียนถูกจับตัวไป หลังจากคุณท่านถูกบีบให้ออก ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้รับอำนาจและปลประโยชน์ที่สมควรจะได้รับ ในทางกลับกันยังถูกกดขี่อีกด้วย
เขาได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านไม่กี่วัน ชีวิตของเขาก็เริ่มเป็นทุกข์
“หลี่เฟิง มอบตำแหน่งเจ้าบ้านออกมาซะ อย่าพยายามแบ่งแยกไม่ออกนะ ฉันไว้หน้าเรียกหรอกนะถึงเรียกว่าลุงใหญ่ ถ้าไม่ไว้หน้าลุงก็ไม่มีค่าอะไรหรอก!” หลี่เผิงเฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ พาคนเข้ามาบีบบังคับอย่างโอหัง
“คุณปู่ของฉันได้ติดต่อกับตระกูลซ่งแล้ว ที่เย่เซิ่งเทียนถูกจับตัวไป ก็เป็นเพราะแผนการของคุณปู่ของฉันกับตระกูลซ่ง ตอนนี้พวกลุงเป็นปรปักษ์กับฉัน ก็เท่ากับเป็นปรปักษ์กับตระกูลซ่ง คนที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลซ่งคือใคร พวกลุงน่าจะรู้ดีนะ?ตำแหน่งเจ้าบ้านนี้ฉันขอแล้วกัน”
“ใครเป็นปรปักษ์?ใครเห็นด้วย?”
หลี่เฟิงกัดฟันกรอด“หลี่เผิงเฉิง แกบังอาจจองหองเกินไปแล้วนะ!แกกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าของฉัน ฉันเป็นญาติผู้ใหญ่ของแกนะ ตอนนี้ยังเป็นเจ้าบ้านของตระกูลหลี่!”
เพี๊ยะ!
บอดี้การ์ดคนหนึ่งตบหน้าของหลี่เฟิงจนล้มลงกับพื้นทันที แล้วคว้าแหวนแมนจูหยกที่เป็นสัญลักษณ์อำนาจของเจ้าบ้านไป จากนั้นก็ยื่นส่งให้กับหลี่เผิงเฉิง
หลี่เผิงเฉิงรีบแหวนแมนจูหยกสวมไปที่นิ้วโป้ง แล้วหัวเราะอย่างยโสโอหัง“ไอ้โง่ แกคิดว่าแกเป็นใครห้ะ แกก็เป็นแค่หุ่นเชิดเท่านั้นแหละ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าบ้านรึไง?จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!”