Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 734 บังเอิญพบหวางซี
ว่าไงนะ?
เธอรู้จักไอ้อู๋อย่างงั้นหรอ?
เย่เซิ่งเทียนถึงกับตกใจ
คนที่รู้จักไอ้อู๋มีไม่เยอะมาก
ตกลงเหย้ซูหลิงเป็นใครกัน?
“นายจะเข้ามาไหม?”
เสียงนี้ เป็นเหมือนเสียงร้องไห้ของเหย้ซูหลิง
ถึงแม้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะสงสัยว่าเหย้ซูหลิงเสแสร้งแกล้งทำ แต่ไอ้อู๋มีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวข้องกับแม่ของเขา
เหย้ซูหลิง เหย้ซูหลิง เดี๋ยวนะ เธอแซ่เหย้?
หรือตระกูลลี้ลับกับตระกูลเหย้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกบีบหัวใจ แล้วเดินเข้ามา
“วัยรุ่นสมัยนี้ เล่นลูกใหม่เก่งจริงๆ”
พนักงานแนะนำสินค้าเป็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง มองฉากนี้อยู่ไกลๆ แล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะ
ภายในห้องลองเสื้อ เย่เซิ่งเทียนเห็นเหย้ซูหลิงนั่งลงกับพื้น เจ็บจนน้ำตาไหล ดูเหมือนจะหกล้มจริงๆ
“พยุงฉันขึ้นมาเร็วเข้า”
หางตาของเหย้ซูหลิงมีน้ำตาไหลออกมา ราวกับสายฝน น่าสงสารจริงๆ
เดิมทีเหย้ซูหลิงเป็นหญิงสาวหน้าตาดีอยู่แล้ว ประกอบกับรูปร่างที่เย่อหยิ่ง เป็นตำนานที่ทำให้ผู้ชายบ้าคลั่ง
ในตอนนี้เองสายเดี่ยวเส้นเล็กบนไหล่ของเธอหลุดลงมาที่มือบาง มือหนึ่งปิดหน้าอกไว้ แต่กลับทำให้ภาพตรงหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะล้มตอนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า และไหล่สีขาวราวกับหิมะของเธอเผยออกมา เธอปิดแค่หน้าอกของเธอไว้ ราวกับว่าเธอจงใจยั่วยวนมากกว่า
แต่เย่เซิ่งเทียนไม่มีกะจิตกะใจเชยชม เขาเดินเข้าไปพยุงเธอขึ้นมาอย่างรำคาญใจ แต่กลับถูกเหย้ซูหลิงดึง ทำให้เขาเอนกายล้มตามลงไป
เหย้ซูหลิงหัวเราะอย่างสะใจ แล้วพูดเบาๆว่า“นายหื่นกระหายขนาดนี้เลยหรอ?ฉันคิดว่านายเป็นสุภาพบุรุษเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม”
เย่เซิ่งเทียนพึ่งรู้ตัวว่าตกหลุมพรางของเธอเข้าแล้ว เขาใช้สายตาดุดันจ้องมองไปที่เธอ“อย่าล้อเล่นกับฉันนะ ไม่อย่างงั้นเธอจะไม่มีปัญญารับผลที่ตามมา”
เหย้ซูหลิงเอามือของตัวเองออก แล้วคล้องแขนไว้บนลำคอของเย่เซิ่งเทียน อีกมือหนึ่งจิ้มไปที่หน้าอกของเย่เซิ่งเทียนเบาๆ พลางกล่าวว่า“ฉันอยากรู้ว่าจะเป็นยังไง?”
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว ผู้ชายปกติคนหนึ่ง ได้เห็นเหย้ซูหลิงที่รูปร่างราวกับปีศาจหน้าตาอย่างกับนางฟ้า จะไม่หวั่นไหวได้ยังไง
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกเจ็บคอมาก เขาสะบัดตัวของเหย้ซูหลิงลงพื้น แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า“ใส่เสื้อผ้าซะ แล้วเดินออกมาเอง”
พูดจบ ก็เดินออกจากห้องลองเสื้อทันที
“โอ้ย ก้นของฉัน ไอ้บ้า นายทำให้ฉันเจ็บนะ นายแตะอั๋งฉันเสร็จก็ไม่สนใจงั้นหรอ ถุ้ย ไอ้ผู้ชายสารเลว!”
เหย้ซูหลิงลุกขึ้นยืน แล้วมองแผ่นหลังของเย่เซิ่งเทียนด้วยความโกรธเคือง โกรธจนกัดฟันกระทืบเท้า
คิดไม่ถึงว่าสิ่งนี้จะไม่ทำให้นายหวั่นไหว
หึ เย่เซิ่งเทียน นายเป็นคนบังคับฉันเองนะ
แต่ว่านะ การเอาชนะแบบนี้ได้ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง ถ้าฉันกวักนิ้วเรียกแล้วนายก็เดินตามมาเลย ผู้หญิงอย่างฉันไม่อยากได้หรอกนะ
เย่เซิ่งเทียนเดินออกจากห้องลองเสื้อ ถึงพบสายตาแปลกประหลาดของพนักงานแนะนำสินค้าจ้องมองเขาอยู่
ถึงหน้าจะหนาแค่ไหน ก็เอาไม่อยู่หรอก
ยังมีพนักงานแนะนำสินค้าสองคนแอบซุบซิบนินทาว่า“วัยรุ่นสมัยนี้เปิดกว้างจริงๆ ดูสิเจ็บก้นหมดเลย กล้าเล่นแบบนี้กัน”
“ดูไม่ออกจริงๆนะ หนุ่มหล่อที่ดูเคร่งขรึมขนาดนี้ จะมีรสนิยมแบบนี้”
ถึงแม้ว่าพวกเธอจะพูดกระซิบกัน แต่จากความสามารถในการฟังของเย่เซิ่งเทียน เขาได้ยินมันทุกคำพูด
เขาหน้าแดงทันที แล้วแอบด่าในใจ
ยัยปัศาจเหย้ซูหลิง!
ผ่านไปไม่นาน เหย้ซูหลิงก็เดินออกมาจากห้องลองเสื้อ ด้วยสีหน้าแดงระเรื่อย พนักงานแนะนำสินค้าหลายคนพากันคาดเดาต่างๆนานา
“เอาชุดสูทใส่ถุง……”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดึงดูดความสนใจของเย่เซิ่งเทียน ต่อมา อีกฝ่ายก็สังเกตเห็นเย่เซิ่งเทียนเหมือนกัน
หวางซี!
เมื่อเห็นเย่เซิ่งเทียนกับเหย้ซูหลิง หวางซีก็ถึงกับมึนงง
เมื่อครู่ที่เธอเดินผ่านห้องลองเสื้อ ได้ยินพนักงานแนะนำสินค้าหลายคนพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้เธอจะยังไม่เข้าใจว่า คนที่พนักงานแนะนำสินค้าพูดถึงจะเป็นเย่เซิ่งเทียนกับผู้หญิงคนนั้น!
เย่เซิ่งเทียนชะงักไป เมื่อเห็นสีหน้าของหวางซี เขายังไม่เข้าใจว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น จึงพูดอย่างกลัวความผิดว่า“ซีเอ๋อร์ คุณ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?”