Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่753 ประตูหอคอยเปิด
ตุงตุงตุง
เสียงที่ราวกับเคาะประตูแผ่ซ่านมาจากบนพื้น มีอะไรบางอย่างกำลังจะออกมาจากด้านล่างแล้ว
เย่เซิ่งเทียนจัดการมือเลือดไปพลางทุบประตูหอคอยอย่างบ้าคลั่งไปพลาง
ไม่รู้ว่าประตูหอคอยใช้วัสดุแบบไหน แข็งผิดปกติ เย่เซิ่งเทียนใช้พลังที่มีทั้งหมด ไม่สามารถเขย่าประตูหอคอยได้เลยแม้แต่น้อย
มือเลือดบนพื้นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ หนาแน่นมองดูแล้วขนหัวลุกซู่ เหมือนหัวหอมที่ปลูกในพื้นดิน อีกอย่างมือเลือดทุกมือเหมือนว่ากำลังวิวัฒนาการ เกิดความผันผวนของพลังงานแล้ว
สถานการณ์เร่งรีบอย่างมาก
แม้ว่าตอนนี้มือเลือดจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขา แต่ไม่ว่ายังไงก็ฆ่าไม่หมด!
หรือว่าต้องตายอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?
เย่เซิ่งเทียนแอบพร่ำบ่น คิดไม่ถึงว่าการเดินทางมาเมืองพุทธในครั้งนี้ กลับเป็นอันตรายเช่นนี้ และยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีสถานที่ที่โหดร้ายเช่นนี้อยู่ด้วย
สิ่งที่ยิ่งแปลกประหลาดคือ ที่นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นดินแดนภายในเมืองพุทธ แต่วิธีการปิดกั้นภายในหอคอย เป็นวิชาการปิดผนึกของลัทธิเต๋าแห่งต้าเซี่ย
พูดได้ชัดว่าหอคอยโบราณที่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดทั่วทุกที่นี้ มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นการสร้างขึ้นมาคนต้าเซี่ยในสมัยโบราณ
แต่ว่า ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนไม่สนใจที่จะคิดเรื่องเหล่านี้ จะออกไปได้ยังไงต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
“ลูกศิษย์ที่รัก รีบมาหาฉันทางนี้ มีเพียงฉันเท่านั้นที่ช่วยนายได้”
ภายในน้ำเสียงของปีศาจขนเขียวเต็มไปด้วยความหมายของความรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจมัน จัดการกับมือเลือดต่อไป
เสียงกระแทกชนจากที่พื้นดังมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มสั่นไหวขึ้นมา
ดูเหมือนว่าใช้เวลาไม่นาน สิ่งของที่อยู่ด้านล่างก็จะออกมาแล้ว
“หรือว่าที่เป็นหอผนึกปีศาจงั้นเหรอ?มีความแปลกประหลาดมากขนาดนี้”
เย่เซิ่งเทียนถูกมือเลือดมือหนึ่งจับไว้ ทันใดนั้นก็เจ็บข้อเท้าขึ้นมาระยะหนึ่ง เขารีบสับฆ่ามือเลือดทันที
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เขาตกใจ พลังของมือเลือดแข็งแกร่งจนถึงระดับที่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้เขาได้แล้ว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป มือเลือดวิวัฒนาการไม่หยุดหย่อน เขาก็จะต้านทานไว้ไม่ไหวแล้ว
“นี่มันสิ่งของบ้าบออะไรกันแน่!”
เย่เซิ่งเทียนทำได้เพียงกระโดดอย่างไม่หยุดหย่อน ทางประตูหอคอยเปิดไม่ออก จะต้องคิดหาวิธีการอื่น
หรือว่าทำได้เพียงไปชั้นสองงั้นเหรอ?
ไม่ได้
ปีศาจขนเขียวแปลกประหลาดยิ่งกว่ามือเลือดเหล่านี้อีก อยู่ห่างกันขนาดนี้ยังสามารถได้กลิ่นเหม็นเน่าจากตัวของเขาได้
สิ่งที่ยิ่งน่ากลัวกว่าคือ มือเลือดเหล่านี้ไม่ปรากฏตัวในสถานที่ที่อยู่ใกล้กับทางเข้าชั้นสอง อีกอย่างก็ไม่ไปทางนั้นด้วย
นี่ก็เห็นได้ชัดว่าปีศาจขนเขียวน่ากลัวยิ่งกว่ามือเลือด
“บนสวรรค์มีเก้าชั้น แต่ละชั้นก็เป็นที่อยู่ของ เทพเจ้า นรกมี18ขุม แต่ละขุมก็มีวิญญาณผีล่องลอย ระหว่างนั้นมีทั้งผีและเทพ เพียงแต่คนธรรมดาทั่วไปแบ่งแยกได้ไม่ชัดเจน ”
เสียงเพลงที่แปลกประหลาดล่องลอยภายในชั้นหนึ่ง ทำให้เย่เซิ่งเทียนตึงเครียดขึ้นมาทันที
เสียงเพลงที่แหลมคมแทรกซึมเข้าไปในทุกที่ ทำให้เย่เซิ่งเทียนขนลุกขนพองไปทั้งตัวแล้ว
นี่เป็นเพลงประกอบของเพลงสถาปนาเทวดาเวอร์ชันเก่าที่ถูกสงวนไว้ เสียงที่มืดครึ้มน่าสะพรึงกลัวยิ่งทำให้ภาพฉากในตอนนี้เปลี่ยนเป็นน่ากลัวยิ่งขึ้น
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกทึ่งในใจ คนที่ร้องเพลงนี้คือปีศาจขนเขียว เขาถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงรู้จักเพลงนี้ได้?
“ปีศาจขนเขียว แม้แต่แกเองก็ลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองเป็นใคร?แกนี่ช่างน่าสงสารจริงๆ!”
และในเวลาเช่นนี้ เย่เซิ่งเทียนพูดถากถางปีศาจขนเขียว
มีความเป็นไปได้มากว่าปีศาจขนเขียวจะเป็นคนปัจจุบัน ไม่เช่นนั้นจะรู้บทเพลงนี้ได้ยังไง?
มันเป็นใครกันแน่?
“ปากแข็งก็ไม่มีประโยชน์ เข้ามาในนี้แล้ว ไม่มีใครออกไปได้”
ปีศาจขนเขียวพูดหลอกล่ออย่างไม่หยุด “มีเพียงฉันที่สามารถช่วยนายได้ ฉันก็คือตาเฒ่าหลินอาจารย์ของนาย ลูกศิษย์ที่รัก มาหาฉันตรงนี้ มีเพียงฉันที่ช่วยนายได้”
ปีศาจขนเขียวเหมือนเป็นร่างที่รวมความชั่วร้าย เสียงของมันก็ชั่วร้าย สายตาก็ชั่วร้าย เหมือนว่าเกิดมาเพื่อความชั่วร้ายเลย
และในเวลานี้ จู่ๆก็มีเสียงดังปัง ประตูหอคอยถูกเปิดออกแล้วทันที
ในใจของเย่เซิ่งเทียนตกใจมาก ได้ยินเพียงเสียงของเย่ว์อิ่นหลงดังขึ้น “พี่เทียน พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”