Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 779 ถ้าหากผมกลับมาไม่ได้ก็ไม่ต้องรอผมแล้ว
ทั้งสองคนปลอบประโลมกันอยู่ครู่หนึ่ง เย่เซิ่งเทียนถึงจะปล่อยหวางซีออก พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “เรื่องที่บ้านมอบให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วนะ เรื่องทางนี้ผมจัดการไว้อย่างเหมาะสมแล้ว เรื่องต่อจากนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของผม ผมจะทิ้งวิชาฝึกฝนที่เหมาะสมกับคุณไว้ให้ ท่านอดีตจอมพลที่ผมรู้จักให้มา คุณก็ลองให้ซือซือฝึกดูก่อน ช่วงเวลานี้ซือซือกำลังฝึกขั้นพื้นฐานอยู่ ผมทิ้งใบสั่งยาที่หลอมร่างให้คุณ คุณและซือซือใช้ได้ทั้งสอง แม้ว่าแม่เราจะอายุเกินแล้ว แต่ก็ใช้ได้ สามารถยืดอายุขัยได้ ซุปยาต่ออายุทำให้คุณตาของคุณดื่มต่อไป……”
ครั้งนี้ เย่เซิ่งเทียนพูดเยอะ เรื่องที่เขาต้องไปทำต่อจากนี้ แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะมีชีวิตกลับมาหรือไม่
เย่เซิ่งเทียนเงียบขรึมครู่หนึ่ง พูดว่า “ถ้าหากว่าผมไม่กลับมาแล้ว คุณไม่ต้องรอผมแล้ว ทางฝั่งขุนหลวงจะจัดการทุกอย่างให้คุณไว้เรียบร้อย”
หวางซีรีบใช้มืออุดปากของเย่เซิ่งเทียน พูดอย่างปวดใจว่า “อย่าพูดคำพูดที่ไม่เป็นมงคลเช่นนี้ ไม่ว่าคุณจะกลับมาได้หรือไม่นั้นฉันก็จะรอคุณ”
เย่เซิ่งเทียนกอดหวางซีไว้แน่น พูดพร้อมแสร้งยิ้มอย่างสบายๆ “คุณก็ไม่ต้องเป็งกังวลมากเกินไป ผมดวงแข็ง คนที่ตายไม่แน่ว่าจะเป็นผม แต่ว่าก่อนที่จะจากไป ผมจะจัดการพวกต่ำต้อยที่เจ้าเล่ห์ให้หมดสิ้น ต่อไปนะ คุณไม่ต้องใจดีขนาดนี้แล้ว ใจคนยากที่จะคาดเดาได้ ถึงคราวที่ต้องใช้วิธีการโหดเหี้ยมก็ต้องใช้ ความใจดีไว้ให้อภัยเวลาที่คนอื่นทำผิดพลาด คนที่สร้างเรื่องให้คุณ อย่าปล่อยไป ลงมือให้ไว”
หวางซีน้ำตาไหลเต็มหน้า พยักหน้า จดจำไว้ในใจทั้งหมดแล้ว
“เซิ่งเทียน ทางฝั่งตระกูลเย่คุณคิดจะจัดการยังไงต่อ ตระกูลเย่ก็เป็นหมากตัวหนึ่ง ฉันรู้ว่าเรื่องในปีนั้นทำร้ายคุณอย่างมาก แต่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นฉัน ฉันก็เลือกทำเหมือนตระกูลเย่ มีเพียงแค่ทำแบบนั้นถึงจะปกป้องคุณได้……”
เย่เซิ่งเทียนพูดขัดจังหวะคำพูดของหวางซีว่า “ผมไม่สามารถข้ามผ่านอุปสรรคในใจนั้นของผมไปได้ คุณจะจัดการยังไงผมไม่มีความคิดเห็นทั้งนั้น แต่ว่าไม่มีทางติดต่อสัมผัสกับพวกเขาแน่ พอแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรให้น่าพูดกล่าวแล้ว ทางฝั่งหลี่เย็นหรานคุณก็ระวังหน่อยนะ ผมสงสัยว่าหลี่เย็นหรานจะถูกหลอกใช้เป็นเครื่องของตระกูลลี้ลับนั่น”
“ยาตัวนั้นที่ทางฝั่งของพวกหัวเวิ่นยีวิจัยนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว วิธีกาของตระกูลลี้ลับลึกลับและน่ากลัวเกินไปแล้ว แม้แต่ผมเองก็ตกหลุมพรางแล้ว คุณก็ต้องยิ่งระวังตัว ความทรงจำของหลี่เย็นหรานเคยถูกจัดการมาก่อนแล้ว ตอนนี้พละกำลังของผมไม่เพียงพอ ไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ว่าความทรงจำที่ถูกปิดผนึกของหลี่เย็นหรานนั้นคืออะไรกันแน่ สรุปแล้วคุณระวังตัวหน่อย พอแล้ว สิ่งที่คสรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ผมไปแล้วนะ”
เย่เซิ่งเทียนหลงเหลือใบหน้ายิ้มแย้มที่เจิดจรัสไว้ให้หวางซี หันหลังเดินจากไป
หวางซีไม่กล้าแม้แต่จะไปส่ง เธอกลัวว่าตัวเองจะทรุด
เธอรู้หมดแล้ว เข้าใจหมดแล้ว เพียงแค่เก็บไว้ในใจไม่ได้พูดออกมา
ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนริเริ่มเผยบางอย่างกับเธออย่างตรงไปตรงมา เธอถึงได้รู้ว่า สิ่งที่เขาต้องเผชิญคือการมีอยู่แบบไหน
“ถ้าหากคุณกลับมาไม่ได้แล้ว รอซือซืออายุ18ปี ฉันจะไปหาคุณ”
หวางซีเช็ดน้ำตา ในใจแอบสาบาน ตัดสินใจว่า จะต้องพัฒนาบริษัทหัวหยวนขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน เธอจะต้องตั้งใจฝึกให้ดี พยายามช่วยสามีของตัวเองให้ได้
เย่เซิ่งเทียนออกจากบริษัทหัวหยวน รีบไปยังเฉินเฟิงทันที
“คุณชายเย่ คนยังอยู่ ไม่เคยจากไปไหนเลย แต่ว่าคนของเฉาซื่อ กรุ๊ปมาครั้งหนึ่งแล้ว”
เฉินเฟิงบอกสถานการณ์ช่วงนี้กับเย่เซิ่งเทียน
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเยือกเย็นว่า “เบื้องหลังของการลงทุนจากต่างประเทศของเฉาซื่อ กรุ๊ป เกรงว่าก็คือองค์กรgod นายกลับไปเถอะ เรื่องนี้นายไม่เหมาะที่จะเข้าแทรกแซง จะนำความวุ่นวายที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาให้นายได้”
เฉินเฟิงกังวลในใจ แม้ว่าเขาไม่เข้าใจว่าคำพูดของเย่เซิ่งเทียนหมายความว่ายังไง แต่รู้ว่าเย่เซิ่งเทียนก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำร้ายเขา
แต่นี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะตีสนิทกับเย่เซิงเทียน เขาไม่ยินยอมที่จะปล่อยไปเช่นนี้
ดังนั้นจึงพูดอย่างระวังว่า “คุณชายเย่ ฉัน ฉันอยากอยู่ข้างกายคุณ ขอให้คุณได้โปรดให้โอกาสฉันสักครั้ง”
เย่เซิ่งเทียนตกตะลึง มองไปที่เฉินเฟิงพร้อมพูดว่า “นายฉันเป็นเพื่อนเก่าแก่กัน นายต้องคิดให้ดีนะ เรื่องที่ฉันจะทำอาจจะเสียชีวิตได้ องค์กรgodก็ไม่ถือว่าอะไร เมื่อนายมาสนิทสนมกับฉัน ตระกูลของนายอาจจะถูกคนฆ่าทั้งตระกูล”
“นายกลับไปปรึกษากับตระกูลของนายให้ดีๆสักหน่อยดีกว่า ถ้าหากทั้งตระกูลเฉินของนายตัดสินใจที่จะตามฉันไป ฉัน ปฏิบัติต่ออย่างยุติธรรมต่อตระกูลเฉินของนายแน่ ”
แต่ว่าแม้ตระกูลเฉินของพวกนายจะมีพละกำลังเล็กน้อย ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงตระกูลธรรมดา สิ่งที่เคยสัมผัสมาก็ไม่มาก แม้ว่าเป็นหมากให้คนเขา ก็ไม่มีอันตรายที่ถูกฆ่าทั้งตระกูล ตามฉันไป ชีวิตแทบจะเป็นอันตรายอย่างมาก
เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมพูดว่า “คุณเย่ ตระกูลเฉินของฉันยินดีที่จะเดิมพัน นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของฉันเพียงคนเดียว เป็นการตัดสินใจของทั้งตระกูล เพียงแค่เมื่อก่อนฉันได้ทำเรื่องที่โชว์โง่เหล่านั้นไปแล้ว เพราะงั้นไม่รู้ควรจะเอ่ยพูดอย่างไร ตอนนี้กว่าจะมีโอกาสเช่นนี้ไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากยอมแพ้ ตระกูลเฉินก็ไม่อยากยอมแพ้ คนเราต่างก็ขึ้นจะปีนป่ายขึ้นไป พวกเราตระกูลเฉินก็เช่นกัน”
เห็นเขาแน่วแน่ขนาดนี้ เย่เซิ่งเทียนพยักหน้าแล้ว “งั้นก็ได้ ไปกับฉันไม่มีโอกาสให้เสียใจภายหลังแล้ว แต่ว่าฉันรับรองคุณได้อย่างหนึ่ง ขอเพียงแค่ฉันรอดชีวิต จะปฏิบัติต่อตระกูลเฉินของพวกคุณอย่างเป็นธรรม”