Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่778 ล้วนแต่หวังดีกันอีกฝ่ายทั้งนั้น
หวางซีตกตะลึงทั้งตัว เธอกลับหลังหัน มองเห็นเย่เซิ่งเทียนปรากฏตัวที่หน้าประตู
นึกถึงคำพูดเหล่านั้นที่ตัวเองเคยพูดมาก่อน ในใจเจ็บปวด เบ้าตาแดงก่ำทันที
แต่เธอฝืนทน จงใจพูดอย่างเยือกเย็นว่า “คุณมาทำอะไร?ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ไสหัวออกไปซะ”
เย่เซิ่งเทียนไม่สนใจ เข้าไปกอดหวางซีมาไว้ในอ้อมแขนเลย พูดด้วยเสียงที่นุ่มนวลว่า “ซีเอ๋อร์ ไม่เข้าใจเลยว่าคุณจะลำบากไปทำไม ผมรู้เรื่องหมดแล้ว”
หลันรั่วรั่วขยิบตาให้เย่เซิ่งเทียนแล้ว ค่อยๆเดินออกไปแล้วปิดประตู
ได้ฟังคำพูดของเย่เซิ่งเทียน หวางซีก็อดทนไม่ไหวอีกแล้ว กอดเย่เซิ่งเทียนไว้แน่น ร้องไห้พร้อมพูดว่า “ทำไมคุณต้องมาด้วย คุณรู้ไหมว่าฉันจะต้องพยายามมากแค่ไหน ถึงจะทำมาถึงขั้นนี้ได้ ทำไมคุณยังจะต้องกลับมาด้วย”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างสะเทือนอารมณ์ว่า “ยัยบื้อ คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะช่วยผมได้เหรอ?มีแต่ทำให้ผมฟุ้งซ่านมากยิ่งขึ้น”
ในนาทีนี้ หวางซีรับรู้ถึงความอบอุ่นในอ้อมแขนของเย่เซิ่งเทียน พูดคำตำหนิไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว
เธอเข้าใจเย่เซิ่งเทียนได้ ทำมาถึงตำแหน่งของเจ้าเทพนี้ได้ ไม่รู้ว่าจะต้องทุ่มเทมากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเกือบเสียชีวิตไปกว่ากี่ครั้งแล้ว
หวางซีร้องไห้พร้อมพูดว่า “ที่รัก ฉันไม่ต้องการให้คุณเป็นเจ้าเทพอะไรทั้งนั้น และฉันก็ไม่ต้องการให้คุณไปช่วยโลกอะไร ฉันแค่อยากให้คนในครอบครัวเราอยู่อย่างสงบ ฉันไม่ได้อยากเสาะหาอะไรมากมายขนาดนั้น และฉันก็ไม่ได้ต้องการเกียรติอะไร ขอเพียงแค่คุณอยู่เย็นเป็นสุขก็พึงพอใจแล้ว คุณรู้ไหม?”
“จริงๆแล้ว ที่งานแต่งงานนั้นฉันก็เดาตัวตนของคุณออกแล้ว แต่ฉันไม่กล้ายอมรับ เพราะว่าคุณคือเจ้าเทพ และฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงในครอบครัวที่ต่ำต้อย ฉันกลัวว่าตัวเองจะไม่คู่ควรกับคุณ เพราะงั้นจึงขยันอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ฉันพบว่า แม้ว่าคุณเป็นเจ้าเทพ แต่ก็ยังคงมีศัตรูมากมายเช่นเคย ”
“ฉันไม่กล้าจินตนาการว่าคุณมาได้ยังไง ฉันรักและเป็นห่วงคุณมาก แต่ว่าฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย ตอนที่อยู่ครอบครัวหลี่ ฉันรู้ว่าคุณถูกปรักปรำ แต่ฉันอยากจะฉวยโอกาสนั้น ออกไปจากคุณโดยสิ้นเชิง ให้คุณไม่ต้องฟุ้งซ่านเพราะฉันอีก……ที่รัก ขอโทษนะ ฉันไม่ควรพูดจาหยาบคายทำให้คุณเจ็บปวด”
เย่เซิ่งเทียนตบไหล่ของเธอเบาๆ พูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากปล่อยวาง แต่ว่าผมทำไม่ได้ มีบางอย่างที่ผมไม่ได้บอกคุณ เพราะกลัวว่าคุณจะเป็นกังวล ยัยบื้อ ขอเพียงแค่คุณไม่เป็นอะไร ผมก็มีทางฟุ้งซ่าน ยิ่งคุณเป็นเช่นนั้น ผมก็ยิ่งฟุ้งซ่าน”
หวางซีเสียใจภายหลังแล้ว เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองทำผิดพลาดแล้ว
เย่เซิ่งเทียนแสร้งพูดอย่างโมโหว่า “ดีนะ คุณเดาออกตั้งนานแล้ว ยังแสร้งเป็นไม่รู้เรื่อง เห็นผมเป็นคนโง่ใช่ไหม?”
หวางซีจากร้องไห้ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม ตบเย่เซิ่งเทียนเบาๆ พูดว่า “ใครใช้ให้คุณกลายเป็นเจ้าเทพอย่างรวดเร็วภายในคราวเดียวล่ะ?ฉันไม่กล้าเชื่อเลย ตอนแรกที่ฉันช่วยชีวิตคุณ คุณตกระกำลำบากขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าสามสี่ปีต่อมาเจอกันอีกครั้ง คุณก็กลายเป็นเจ้าเทพแล้ว”
“แม่กำชับฉันเป็นพิเศษว่า อย่าเปิดเผยคุณ คุณปิดบังตัวตนก็อาจจะมีความทุกข์ใจ เพราะงั้นพวกเราทำได้เพียงเล่นละครเป็นเพื่อนคุณ แล้วก็นะ มีอย่างหนึ่งที่ฉันแปลกใจมาตลอด ตอนแรกจ้าวเจิ้งติดต่อคุณยังไง?แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่รู้ช่องทางการติดต่อของคุณเลย”
เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยสีหน้าเดิมๆ “ซีเอ๋อร์ สิ่งที่ผมจะพูดกับคุณต่อจากนี้ คุณรู้ก็พอ อย่าเอ็ดไป ตั้งแต่ที่จ้าวเจิ้งเริ่มทำให้คุณลำบากใจ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกับดักอย่างหนึ่ง ตอนแรกก่อนที่ผมกลับมา ได้บอกกล่าวไว้แล้ว ให้พวกเขาแอบช่วยเหลือพวกคุณ”
“ตอนที่ทราบว่าคุณถูกรังแก ระหว่างทางมาผมก็ได้กำชับคนทางนี้ ให้มาช่วยเหลือคุณก่อน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ข้อความของผมไม่ได้ถ่ายทอดต่อ ถูกพลังลึกลับสกัดกั้นไว้อย่างลับๆ และช่องทางการติดต่อของผม ก็เป็นคนเหล่านั้นส่งไปให้จ้าวเจิ้ง ตระกูลหวาง ตระกูลหมิง จ้าวเจิ้งและพวกล้วนเป็นหมากๆหนึ่ง ”
ต่อมา เย่เซิ่งเทียนพูดเรื่องตระกูลเก่าแก่ผู้ดี ตระกูลลี้ลับรอบหนึ่งแล้ว แต่ปิดบังการมีอยู่ของสรวงสวรรค์
สรวงสวรรค์ ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะเล่าให้หวางซีฟัง
ได้ฟังข่าวคราวเหล่านี้ หวางซีตกตะลึงทันที
เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า ยังมีพละกำลังที่น่ากลัวเช่นนั้น อยู่เหนือพลังในโลก
เธอเพียงแค่ได้ยินถึงห้าตระกูลผู้ดีมาก่อน ไม่เคยได้ยินเจ็ดตระกูลเก่าแก่มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลลี้ลับเลย
“งั้นคุณคิดจะทำยังไงต่อ?จะจัดการกับตระกูลลี้ลับไหม?”
ใบหน้าของหวางซีเต็มไปด้วยความกังวล เพียงแค่ห้าตระกูลผู้ดีและเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ก็จัดการยากอยู่แล้ว และเหนือกว่าพวกเขา ยังมีตระกูลลี้ลับอีก
นั่นเป็นตระกูลที่มีอยู่กว่าหนึ่งห้าร้อยปีขึ้นไป
เย่เซิ่งเทียนฝืนยิ้มพร้อมพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมจะต้องจัดการพวกเขา แต่ตอนนี้ผมไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีทางให้ถอยกลับ ผมทำได้เพียงไปจัดการพวกเขา เรื่องข้างในนี้มันซับซ้อนมาก รวมถึงการหายตัวไปของแม่ผม เรื่องเหล่านี้ของตระกูลเย่ ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับตระกูลลี้ลับทั้งนั้น พูดอย่างแม่นยำ เกี่ยวข้องกับเลือดประหลาดในตัวของผม”
เย่เซิ่งเทียนพูดเรื่องเลือดประหลาดให้หวางซีฟังอย่างง่ายๆหนึ่งรอบแล้ว หวางซีลูบแก้มของเย่เซิ่งเทียนพร้อมพูดว่า “เซิ่งเทียน ต่อไปอย่าปิดบังฉันอีกโอเคไหม?เราเป็นครอบครัวเดียวกัน หากเจอความยากลำบากเราก็เผชิญหน้าด้วยกัน อย่าไปเสี่ยงชีวิตเพียงลำพังโอเคไหม?”