Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 900 จะถ่วงความเจริญของเย่เซิ่งเทียนไม่ได้
คุณทวดอีกคนที่ซือซือพูดถึง คือนายท่านหลี่กั๋วหรงแห่งตระกูลหลี่
ช่วงเวลานี้ ร่างกายของนายท่านหลี่ฟื้นตัวได้ดีมาก ความวุ่นวายของทางฝั่งตระกูลหลี่ก็ถูกปราบไว้แล้ว ไม่มีใครกล้าก่อเรื่องขึ้นอีก
แน่นอนว่า ใจคนหนังท้องกั้น เห็นนอกไม่เห็นใน บางเรื่องก็ยากที่จะพูดได้
แต่อย่างน้อย ตอนนี้พวกเขาไม่กล้า
อสังหาริมทรัพย์ของหลี่ซื่อกรุ๊ป หวางซีก็เป็นคนดูแลจัดการทั้งหมด ผู้นำตระกูลของตระกูลหลี่ กลายเป็นหลี่หลานแล้ว
แม้ว่าหลี่เฟิงค่อนข้างไม่เต็มใจ แต่เรื่องเหล่านั้นที่เขาทำก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาสูญเสียสิทธิ์ที่จะเป็นผู้นำตระกูลโดยสิ้นเชิงแล้ว
และหวางซีทำเรื่องอะไรล้วนแต่ยุติธรรมเสมอ ทางฝั่งตระกูลหลี่ล้วนแต่ยอมรับหวางซี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หวางซีทำให้พวกเขาหาเงินได้
เพียงแค่สามสี่เดือนนี้ ผลกำไรของหลี่ซื่อกรุ๊ปสูงขึ้นกว่าหลายเท่าตัวแล้ว พวกเขามีความสุขที่จะทำไปโดยปริยาย
คำพูดหยอกล้อของซือซือทำให้ทั่วทั้งห้องผู้ป่วยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่มีความสุข
สิ่งที่ทำให้เย่เซิ่งเทียนเป็นกังวลที่สุด ก็ยังคงเป็นซือซือ
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ซือซือเห็นมันทั้งหมดแล้ว
หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา เรื่องแรกที่คิดก็คือผนึกความทรงจำช่วงนี้ของซือซือก่อน หลีกเลี่ยงไม่ให้ซือซือเกิดเงาดำในจิตใจ
แต่ว่าสิ่งที่แปลกก็คือ ซือซือลืมเรื่องนี้ไปเองแล้ว ก็แม้แต่เย่เซิ่งเทียนก็ไม่พบเจอปัญหาใดๆ
แต่ไม่มีปัญหาก็คือปัญหาใหญ่ที่สุด โชคดีที่ทางฝั่งซือซือไม่ได้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่ดีอะไร
ทางเมืองโมตู หลี่กั๋วหรงก็พาคนบางส่วนมาเยี่ยมเยียนเย่จิงหง
แม้ว่าเขาไม่ถามถึงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว แต่จากสติปัญญาที่ฉลาดของชายชราอย่างเขาแล้ว ก็สามารถคาดเดาได้บางอย่าง เพียงแค่ไม่พูดออกมาเท่านั้น
ทางฝั่งเฉียนถัง ผู้นำของตระกูลจ้าว ตระกูลเฉิน ตระกูลอู๋เป็นต้น หลังจากผ่านความเห็นชอบของเย่เซิ่งเทียน ก็มาเยี่ยมเย่จิงหงกันหมดแล้ว
หมิงหวงก็พาคนในตระกูลหมิงบางส่วนมาเยี่ยมเยียน
แม้ว่าเย่จิงหงไม่พอใจคนในตระกูลหมิง แต่ว่าหมิงชุนชิวและหมิงฮุยผู้ร้ายเหล่านี้ได้ตายไปแล้ว เขาก็รู้สึกไม่ดีที่จะพูดว่าหมิงหวงอะไรมากมาย
อีกอย่างเรื่องในตอนนั้น หมิงหวงก็ไม่สามารถควบคุมได้
เขายิ่งโทษตัวเอง ว่าตอนนั้นไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบ
คิดว่าตัดความสัมพันธ์ไปมาหาสู่กันแล้ว ก็จะรักษาเย่เซิ่งเทียนสองแม่ลูกไว้ได้
ผลสุดท้ายกลับว่าไม่ได้สมความปรารถนา มรทางกลับกันยิ่งน่าเศร้า
หมิงหวงรู้แล้วว่าเย่ห้าวตายแล้ว แต่เขายังคงรับผิดแทนพ่อและพี่ พูดว่า “นายท่าน เรื่องในปีนั้น ตระกูลหมิงของเราผิดไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อและพี่ของฉันถูกผลประโยชน์ปิดบังความจริง ก็ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ โชคดีที่พวกเขาได้รับกรรมตามสนองแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ ฉันยังต้องขอโทษคุณ”
เย่จิงหงถอนหายใจพร้อมพูดว่า “พวกเราล้วนแต่มีความผิดทั้งนั้น บางเรื่อง ใช่ว่าพวกเราจะควบคุมได้ นี่เป็นชีวิตของเรา ความโลภตามธรรมชาติของมนุษย์ คุณยืนกรานเส้นขีดจำกัดความใจดีของตัวเองได้ ดีมาก เรื่องของปีนั้นค่อนข้างซับซ้อน ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป คนที่มีชีวิตอยู่จะต้องมองไปข้างหน้าอยู่เสมอ ก็แค่ทำให้เย่เซิ่งเทียนเด็กคนนี้ทุกข์ยากแล้ว เรื่องหลังจากนี้ คงต้องรบกวนคุณช่วยหวางซีมากๆหน่อย คาดว่าหลังจากนี้ทางฝั่งเซิ่งเทียนจะยุ่งมากขึ้น”
หมิงหวงรีบพยักหน้า “วางใจเถอะ นายท่าน ฉันเชื่อว่าเย่เซิ่งเทียนจัดการเรื่องเหล่านั้นได้”
ทั้งสองคนไม่กล้าเอ่ยเรื่องของหมิงยู่ กลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายเสียใจ
สิ่งที่พวกเขาต้องทำตอนนี้ ก็คือสามัคคีกันขึ้นมา ไม่เป็นตัวถ่วงความเจริญเย่เซิ่งเทียน
ต่างก็รู้ว่าต่อจากนี้เย่เซิ่งเทียนต้องเจอกับอะไร แม้ว่าหมิงหวงจะไม่ได้รู้ชัดเจนมากขนาดนั้น แต่ก็คาดเดาได้ใกล้เคียงมาก
สิ่งที่พวกเขาทำได้ ก็คือไม่ทำให้เย่เซิ่งเทียนฟุ้งซ่าน
เดินมาถึงขั้นนี้ในวันนี้ได้ มันก็ไม่ง่ายเลยจริงๆ
พูดเรื่องในปีนั้นให้ชัดเจนได้ คลี่คลายลงได้ ก็ยิ่งไม่ง่ายเลย
นี่ก็เป็นเรื่องในปีนั้นที่สรวงสวรรค์เป็นคนลงมือทำ ถ้าหากเป็นความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายจริงๆ งั้นวันนี้พวกเขาก็ไม่สามารถนั่งด้วยกันได้
แตกคอกันกลายเป็นศัตรูระหว่างญาติ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทางที่จะคลี่คลายได้
หมิงหวงคลี่คลายกับเย่หงจิงได้ ก็เป็นเพราะว่าทางสองฝั่งไม่ได้มีความแค้นมากมายอะไร
บวกกับผู้ร้ายอย่างหมิงชุนชิวชดเชยสิ่งที่ทำไปทั้งหมดกับหมิงฮุยแล้ว คนกลุ่มนี้ของตระกูลหมิงที่ออกโรงมาช่วยในปีนั้น ถูกเย่เซิ่งเทียนและหมิงหวงฆ่าตายแล้ว
เพราะงั้นวันนี้พวกเขาทั้งสองฝ่ายจึงนั่งร่วมกันได้
ไม่เช่นนั้น ไม่มีความเป็นไปได้นี้