เย่ว์อิ่นหลงเดินออกไปกับจงหยู่ เพื่อจัดการกับคนตระกูลเซียวที่เหลือ
ตระกูลเซียวในตอนนี้ นอกจากเหล่าจู่ตระกูลเซียวกับเซียวเทียนเฉิงแล้ว ก็ไม่มีใครเป็นคู่ปรับกับเย่ว์อิ่นหลงอีก
กำลังหลักของตระกูลเซียว ส่วนใหญ่ก็ถูกเย่เซิ่งเทียนฆ่าตายไปหมดแล้ว
เมื่อส่งข่าวเสร็จ จงหยู่ก็หันไปพยักหน้ากับเย่ว์อิ่นหลง จากนั้นคนของจงหยู่ก็ค่อยๆ เข้ามา
รอแค่ฟากของเย่เซิ่งเทียนลงมือเท่านั้น
ปู่หอคอยยังอยู่ในห้อง สำรองไว้ คู่ปรับที่สำคัญของเขากับเย่เซิ่งเทียนคือเซียวเทียนเฉิงและหลงจู่ของตระกูลเซียว
จากนั้นครึ่งชั่วโมงกว่า เย่เซิ่งเทียนปักเข็มเงินด้ามสุดท้ายลงบนตัวของเซียวเทียนเฉิง และพูดเบาๆ ว่า “อาการป่วยของคุณค่อนข้างหนัก ปล่อยไว้มานานเกินไป รักษาเพียงครั้งเดียวให้หายเป็นปกติ เป็นเรื่องที่ลำบากมาก ต้องฝังเข็มอย่างน้อยสองครั้งถึงจะดี”
“ขอบคุณหมอเทวดาหลินมากนะ”
จะว่าไปเซียวเทียนเฉิงเป็นคนเจ้าเล่ห์ ดีใจหรือโมโหก็ไม่แสดงออกทางสีหน้า ครั้งนี้เขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน
ความลำบากในอาการป่วยที่ยาวนานของเขา ตอนนี้เขาเริ่มมองเห็นความหวังแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาสูญเสียพลังชีวิตไปอย่างมหาศาล ตอนนี้ก็บรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัด นั้นหมายความว่าหลินเย่รักษาเขาให้ดีขึ้นได้!
“สิบสามเข็มผีทวนความตาย ชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ ฉันต้องขอโทษหมอเทวดาหลินที่ตอนแรกหุนหันพลันแล่นไปหน่อย จากนี้หมอเทวดาคือผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อตระกูลเซียวของฉัน”
สีหน้าเซียวเทียนเฉิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น อาการป่วยของเขา ในที่สุดก็มีความหวังแล้ว
ตราบใดที่รักษาอาการป่วยให้หายได้ เขาก็จะมีเวลาเยอะมากที่จะฝึกฝนกำลังหลักชุดใหม่ให้ตระกูลเซียว
“เชิญหมอเทวดาหลินช่วยตรวจดูอาการของเหล่าจู่ครอบครัวฉันสักหน่อย ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร หมอเทวดาหลินก็คือแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเซียวเรา”
เซียวเทียนเฉิงกล่าว ในเมื่อเย่เซิ่งเทียนสามารถจัดการกับปัญหาการสูญเสียพลังชีวิตของตนได้ ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะมีวิธีช่วยยึดชีวิตให้เหล่าจู่อยู่ต่อก็เป็นได้
ตราบใดที่เหล่าจู่ยังอยู่ ตระกูลเซียวก็จะมั่นคงมาก ไม่มีใครกล้าที่จะต่อกรกับตระกูลเซียวแน่นอน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องทำให้เหล่าจู่มีอายุยืนยาว ไม่งั้นอาจจะมีการเปิดฉากโลกแห่งสงครามได้ มันอันตรายอย่างมากต่อตระกูลเซียว
“ให้รักษาหน่ะได้ แต่ต้องเก็บตำราวิชาเพิ่มเติมด้วย”
เย่เซิ่งเทียนแกล้งทำท่าทีไม่สนใจ แต่อันที่จริงเขาก็คิดอย่างนั้นเอาไว้แล้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่ใช้วิชาต้องห้ามของตระกูลเย่ เขาต้องการทำลายแดนทะลุเทพ แต่สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่สามารถทำลายด่านสุดท้ายได้
แดนทะลุเทพขั้นแปด ตอนที่ใช้วิชาต้องห้ามอยู่นั้น เขาเองก็แตกสลายไปด้วย แม้ว่าจะเป็นการยืมแรงจากคนนอก แต่อย่างน้อยก็มีเป้าหมาย
ตราบใดที่แดนทะลุเทพขั้นแปดอยู่เหนือสวรรค์ ยังไงก็ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นตอนที่เผชิญหน้ากับเหล่าจู่ของตระกูลเซียวในวันนั้น คงไม่มีมีพลังแบบนั้นหรอก
เซียวเทียนเฉิงแอบด่าในใจ หลินเย่ช่างอวดดีจริงๆ
แต่ตอนนี้ต้องขอร้องหลินเย่ ชักสีหน้าก็ไม่ดี เลยแสร้งทำเป็นยิ้มและตอบว่า “หมอเทวดาหลินเชิญพูดเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนแสร้งทำท่าทีไม่สนใจและพูดว่า “ตำราวิชาของแดนทะลุเทพ ฉันไม่ได้สนใจแล้ว ถ้าจะให้ฉันยืดชีวิตเหล่าจู่ตระกูลของคุณ ฉันอยากได้ประสบการณ์การบำเพ็ญตนแดนทะลุเทพของเหล่าจู่ตระกูลคุณ ตอนนี้ฉันวางแผนไว้ว่าจะเก็บรวบรวมผู้มีประสบการณ์การบำเพ็ญตนผู้แข็งแกร่งของแดนทะลุเทพสักสิบคน เพื่อวางแผนฝ่าฟันอุปสรรคในอนาคต”
เซียวเทียนเฉิงกระพริบตาปริบปริบ เรื่องนี้เขาไม่สามารถตัดสินใจเองได้ เลยตอบกลับไปว่า “หมอเทวดาหลินกรุณารอสักครู่ ฉันไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้เองได้ ต้องขอคำแนะนำจากเหล่าจู่”
เย่เซิ่งเทียนตอบอย่างหงุดหงิดว่า “ไปเถอะ วิชาการแพทย์ของฉัน หาจากมีประสบการณ์การบำเพ็ญตนผู้แข็งแกร่งของแดนทะลุเทพสักกี่เล่มก็ไม่ได้หรอก ถ้าพวกคุณรู้สึกลำบากใจ งั้นพวกเราก็ยุติแต่เพียงเท่านี้แล้วกัน”
เซียวเทียนเฉิงรีบไปขอคำแนะนำจากเหล่าจู่ตระกูลเซียว
ขอแค่สามารถยืดอายุให้เหล่าจู่ได้ หนังสือการฝึกจิตของดินแดนทะลุเทพหนึ่งเล่มมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร
วิญญาณหอคอยพูดว่า “เด็กน้อย นายนี่โหดเกินไปแล้ว นายพึ่งจะทำลายคนจำนวนไม่น้อยของตระกูลเซียวจนตายไป ตอนนี้นายจะยังโกงเขาอีกหรือ? ถ้าเซียวเทียนเฉิงผู้นี้รู้ตัวตนของนายจริงๆ แล้วหล่ะก็ ฉันว่านายไม่ต้องลงมืออะไร เขาคงโกรธจนตายไปเองเสียด้วยซ้ำ!”
เย่เซิ่งเทียนแสดงความอาฆาตพูดว่า “นี้มันพึ่งเริ่มต้นเองนะ”