ตระกูลใหญ่และสำนักอื่นๆรีบๆเดินทางทันที
มีคนบางส่วน พวกเขามาค้นหาสมบัติล้ำค่าในภาพสะท้อนไท่ซางโบราณ และไม่อยากจะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้
ทุกคนต่างรู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าอีกฝ่ายไม่ตายทั้งหมด การต่อสู้ครั้งนี้ก็คงไม่สิ้นสุด
เย่เซิ่งเทียนไม่ยอมปล่อยสรวงสวรรค์อยู่แล้ว และสรวงสวรรค์ก็ไม่ยอมปล่อยเย่เซิ่งเทียนเหมือนกัน
และทุกคนก็รู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อยู่แล้ว
สรวงสวรรค์อยู่มาหลายพันปีแล้ว แม้แต่ตระกูลลี้ลับก็สู้สรวงสวรรค์ไม่ได้ และไม่มีใครกล้าต่อสู้กับสรวงสวรรค์ด้วย
ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนหนีออกมาได้แล้ว ข้างกายของเขาก็ไม่มีสุดยอดฝีมืออยู่ด้วย เขาจะต่อสู้กับสรวงสวรรค์ได้ยังไง?
โดยเฉพาะมหาพญาเทพ เขาเป็นยอดฝีมือที่ใกล้จะฝึกฝนถึงแดนเทพแล้ว เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกใบนี้ เย่เซิ่งเทียนจะเอาอะไรไปชนะเขา?
อาศัยความคิดเหรอ?
มันตลกมากๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายของพวกเขาก็คือการเป็นเทพ ถ้ามีคนสามารถทำลายสิ่งที่อยู่ด้านหน้าและทำให้พวกเขากลายเป็นเทพได้ สำหรับคนๆนั้นจะเป็นใคร พวกเขาไม่สนใจอยู่แล้ว
สำหรับแผนการต่างๆของมหาพญาเทพนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาอยู่แล้ว
มีชีวิตอยู่ไม่ดีเหรอ?
จะฆ่าตัวตายเหรอ?
พวกเขามีชีวิตมานานมากๆแล้ว เป้าหมายของพวกเขาก็คือกลายเป็นเทพ
สำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่ว่าจะมีคนตายไปมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอยู่แล้ว? ยังไงซะคนที่ตายก็ไม่ใช่พวกเขาอยู่ดี
นี่ก็คือความคิดที่แท้จริงของพวกเขา
นี่ก็คือความคิดจริงๆของตระกูลลี้ลับกับสำนักลี้ลับในตอนนี้
สำหรับข่าวลือว่าฐานะของมหาพญาเทพมีปัญหานั้น เรื่องนี้พวกเขาไม่สนใจอยู่แล้ว
ในเมื่อไม่ได้คิดร้ายกับพวกเขา สุดท้ายแล้วโลกนี้จะเป็นยังไง เรื่องนี้พวกเขาไม่สนใจอยู่แล้ว
ใครเป็นฝ่ายชนะก็สวามิภักดิ์คนนั้น ใครแข็งแกร่งกว่าก็สวามิภักดิ์คนนั้น ขอแค่สามารถกลายเป็นเทพได้ สามารถมีชีวิตยาวนานขึ้นก็พอแล้ว
“เย่เซิ่งเทียนเป็นคนโง่จริงๆ เป้าหมายของมหาพญาเทพก็คือกลายเป็นเทพ ถ้าเย่เซิ่งเทียนยอมมอบมวลสารทิพย์ให้มหาพญาเทพ มหาพญาเทพก็คงจะปล่อยตัวแม่ของเขาอย่างแน่นอน ทำไมต้องต่อต้านมหาพญาเทพด้วย เขาหาเรื่องตายชัดๆ”
พวกเขาโดนสรวงสวรรค์หลอกลวงแล้ว
จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าสรวงสวรรค์ต่อสู้กับเย่เซิ่งเทียน เพราะต้องการมวลสารทิพย์ที่อยู่ในร่างกายของเย่เซิ่งเทียนเท่านั้น
“ฉันคิดว่ามหาพญาเทพใกล้จะฝึกฝนถึงแดนเทพแล้ว เย่เซิ่งเทียนไม่มีโอกาสชนะอยู่แล้ว ครั้งนี้พวกเขาต้องสวามิภักดิ์ต่อสรวงสวรรค์ ตอนนี้ไปสวามิภักดิ์ยังทันอยู่ เรื่องที่มหาพญาเทพใช่เผ่ามนุษย์หรือเปล่านั้น มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ถ้าพวกเราสามารถเป็นเทพได้ ถ้าพวกเราสามารถรอดชีวิตได้ ขอแค่พลังของพวกเราค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นและสามารถฝึกฝนต่อได้ก็พอ พวกเขาต้องการเป็นอมตะ ไม่ได้ต้องการต่อสู้และฆ่าล้าง”
นี่เป็นความคิดของพวกนกสองหัว
พูดกันตามตรง ไม่มีใครคิดว่าเย่เซิ่งเทียนเป็นฝ่ายชนะอยู่แล้ว
เพราะพลังที่เย่เซิ่งเทียนแสดงออกมาก่อนหน้านี้ เขาฝึกฝนถึงแดนทะลุเทพหนึ่งวังเท่านั้น
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาเคยสังหารยอดฝีมือแดนทะลุเทพเก้าวังมาหลายคนแล้ว แต่ยอดฝีมือพวกนั้นก็เป็นแค่ฝึกฝนถึงแดนทะลุเทพหนึ่งวังกับระดับสองเท่านั้น ในสายตาของพวกเขา คนพวกนี้อ่อนแอมากๆ
ถ้าอยากจะแย่งสิ่งของจากสรวงสวรรค์ มันเป็นเรื่องเพ้อฝันเท่านั้น
“พวกเราเก็บซ่อนพลังไว้จะดีกว่า ถ้าไม่ถึงช่วงสุดท้าย พวกเราก็ไม่ควรลงมือ ถ้ามหาพญาเทพเป็นฝ่ายชนะ พวกเราก็คงต้องอดทนต่อไป พวกเราอดทนเพื่อเผ่ามนุษย์ ถ้าพลังของพวกเราแข็งแกร่งมากขึ้นก็จะมีโอกาสอย่างแน่นอน เย่เซิ่งเทียนก็เป็นแค่คนโง่เท่านั้น ตายไปก็ไม่เป็นไร”
นี่คือความคิดของคนบางส่วน ถึงแม้พวกเขาไม่อยากจะสวามิภักดิ์ต่อมหาพญาเทพ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าลงมือเหมือนกัน
พวกเขากำลังรอโอกาสอยู่
พวกเขาหลับใหลมาหลายพันปีจนถึงตอนนี้ ตอนนี้พวกเขาก็ทำได้แค่รอเท่านั้น
สำหรับคนแบบนี้ พวกเขาก็มีข้ออ้างมาแก้ตัวให้กับตัวเองอยู่แล้ว
ถ้าอนาคตพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น บางทีพวกเขาอาจจะพูดว่ามหาพญาเทพแข็งแกร่งกว่าตัวเอง ตัวเองยังคงต้องรอต่อไป
รอต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาก็คงกลายเป็นพวกเศษสวะแล้ว
ถ้ายอมถอยหนึ่งก้าว พวกเขาก็จะหาข้ออ้างให้ตัวเอง และยอมถอยไปเรื่อยๆ
ถ้าถอยไปเรื่อยๆจนไม่มีทางให้ถอยอีกแล้ว พวกเขาก็จะหาข้ออ้างอื่นๆอย่างแน่นอน
คนพวกนี้ไม่ได้เป็นคนโง่ พวกเขาเป็นคนที่ฉลาดมากๆ
เวลาหลายพันปีที่รอมา ความกล้าหาญของพวกเขาได้หายไปหมดแล้ว
ถ้าใช้คำพูดของเย่เซิ่งเทียนก็คือคนพวกนี้กลายเป็นเศษสวะแล้ว
นี่ก็คือสถานการณ์ของตอนนี้ ไม่ใช่เย่เซิ่งเทียนไม่อยากจะร่วมมือกับคนพวกนี้ แต่คนพวกนี้เป็นได้แค่ตัวถ่วงเท่านั้น
สำหรับคนพวกนี้ ต้องทำลายความคิดของพวกเขาก่อน ทำให้พวกเขามองเห็นถึงความโหดเหี้ยม บางทีพวกเขาอาจจะมีความกล้าขึ้นมาบ้าง
“แก แกฝึกฝนถึงแดนทะลุเทพเก้าวังแล้วเหรอ?”
ในวิหารปีศาจ เมื่อมองเห็นเย่เซิ่งเทียนปรากฏตัว และสัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวจากร่างกายของอีกฝ่าย ทำให้เหย้เฉินตกใจจนอ้าปากค้าง
เวลาผ่านไปแค่ไม่นาน เย่เซิ่งเทียนฝึกฝนถึงแดนทะลุเทพเก้าวังได้ยังไง?
มันเป็นเรื่องโกหกใช่ไหม!
มันต้องเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน!