เหย้หมิงพูดด้วยความกระวนกระวายใจ:”นายพลโจวยังไม่ควรลงมือ เพราะเขาคือไผ่ตายใบสุดท้ายของพวกเรา ต้องใช้เขามาต่อกรกับมหาพญาเทพ ถ้าตอนนี้เขาลงมือ ไผ่ตายสุดท้ายของพวกเราก็จะโดนเปิดเผย”
เย่เซิ่งเทียนไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว เขาก็พูดทันที:”ช่างมันเถอะ อย่าคิดฟุ้งซ่านเลย ฆ่าทีละคนๆเลย เมื่อพบคนหนึ่งก็สังหารคนหนึ่ง บอกให้คนของพวกเจ้าส่งข่าวสารมาให้พวกเราอย่างต่อเนื่อง ถ้าหาร่องรอยของคนพวกนั้นเจอ พวกเราก็ไปสังหารคนพวกนั้น ในเมื่อพวกมันได้กระจายและแยกทางกันแล้ว พวกมันคงติดต่อกันไม่ได้อยู่แล้ว นี่คือโอกาสที่ดีมากๆสำหรับพวกเรา ถ้าสามารถสังหารหนึ่งคน ศัตรูของพวกเราก็จะน้อยลงหนึ่งคน”
ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นๆอีกแล้ว ทำให้เหย้เฉินและคนอื่นๆเห็นด้วย
เหย้เฉินครุ่นคิดชั่วครู่และพูด:”ถ้างั้นก็สังหารยอดฝีมือของตระกูลโม่ก่อน ตระกูลโม่กับตระกูลเซียวมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งสองตระกูลยังแต่งงานกันด้วย ตระกูลเซียวเกิดปัญหา ตระกูลโม่คงเกลียดเจ้ามากๆ”
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางทันที
เหย้เฉินบอกให้เหย้ม่อไปค้นหาร่องรอยของตระกูลโม่
ในเวลาเดียวกัน ในหุบเขาแห่งหนึ่ง
คนของตระกูลโม่กำลังพุ่งออกมาจากค่ายกลแห่งหนึ่ง
“ให้ตายเถอะ ค่ายกลของที่นี่วุ่นวายมากๆ! ยังดีที่ได้สมบัติมาแล้ว”
ชายชราร่างผอมจัดระเบียบเสื้อผ้า บนร่างกายของเขายังมีเลือดสดอยู่ด้วย
“ดูเหมือนตรงนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของพวกเราไม่สามารถใช้ได้เลย หลังจากนี้ต้องเตรียมตัวให้พร้อม จะได้ไม่เหมือนครั้งนี้ ครั้งนี้พวกเราได้รับผลกระทบจากค่ายกล ทำให้ตระกูลโม่ของพวกเรามียอดฝีมือแดนทะลุเทพเก้าวังระดับสามเสียชีวิตหนึ่งคน นี่คือบทเรียนที่มีราคาแพงมากๆ”
ชายชราชุดขาวที่อยู่ข้างๆพูดอย่างเคร่งขรึม
คนอื่นๆก็รู้สึกว่าตัวเองดวงซวยมากๆ
จากบันทึกตำราของตระกูลโม่ ตรงนี้มียาทิพย์ที่สามารถเพิ่มอายุได้
แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าค่ายกลอันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งนานแล้ว พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาด้วย เมื่อเข้าไปก็มีคนเสียชีวิตหนึ่งคน ทำให้พวกเขารับมือไม่ทัน
“รีบๆเข้าไปค้นหาซากปรักหักพัง ผนึกของวิหารปีศาจเริ่มอ่อนแอแล้ว ห้ามให้คนอื่นเข้าไปก่อนพวกเราโดยเด็ดขาด”
ชายร่างผมที่ชื่อโม่จงสั่งการทันที
คนอื่นๆพยักหน้า และรีบพุ่งเข้าไปในซากปรักหักพังเลย
ในเวลาเดียวกัน
เหย้เฉินพึ่งได้รับข้อมูลจากเหย้ม่อ เขารีบเอ่ยปากพูด:”คนของตระกูลโม่พึ่งไปที่ซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง เศษกระจกส่องสวรรค์ที่อยู่ในมือของเหย้ม่อได้ตอบสนองแล้ว”
“กระจกส่องสวรรค์เหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนอึ้งไปชั่วครู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินกระจกส่องสวรรค์ กระจกส่องสวรรค์สามารถค้นหาร่องรอยของคนอื่นได้
ตระกูลลี้ลับพวกนี้ร้ายกาจจริงๆ สมบัติล้ำค่าของพวกเขามีเยอะมากๆ
เหย้เฉินรีบอธิบาย:”อันที่จริงมันก็เป็นแค่เศษกระจกเท่านั้น สมัยนั้นเจ็ดตระกูลพิทักษ์ครอบครองกระจกส่องสวรรค์ร่วมกัน เพื่อเอาไว้ตรวจสอบทางเข้าโลกชูร่า เมื่อเวลาผ่านไป กระจกส่องสวรรค์แตกสลาย ทำให้ตระกูลต่างๆได้เศษกระจกส่องสวรรค์ไปครอบครอง เมื่อพวกเขาอยู่บริเวณใกล้ๆกันและใช้เศษกระจกส่องสวรรค์ออกมา เศษกระจกส่องสวรรค์อื่นๆก็จะมีการตอบสนอง”
“บอกให้ฝั่งนู้นจับตาดูให้ดีๆ พวกเราจะรีบไปตอนนี้เลย”
เย่เซิ่งเทียนไม่ลังเลเลย ในเมื่อมีโอกาสแบบนี้ เขาก็ต้องคว้ามันไว้ให้ได้
เจ็ดตระกูลพิทักษ์ในสมัยนั้นมีตระกูลซุน ตระกูลโม่ ตระกูลโจว ตระกูลเซียว ตระกูลเฟิง ตระกูลเย่ ตระกูลเหย้ ตระกูลเย่นั้นซวยที่สุด เพราะโดนหกตระกูลร่วมมือกันและโดนฆ่าล้างตระกูล
หลังจากโดนฆ่าล้างตระกูลแล้ว พวกเขาค้นพบว่าตระกูลเย่ไม่ได้เป็นตระกูลที่ทรยศพวกเขา
หกตระกูลนี้เกิดการแก่งแย่งชิงดีกันและคิดร้ายต่อกัน
ตอนนี้มีโอกาสฆ่าล้างยอดฝีมือของตระกูลโม่ เย่เซิ่งเทียนไม่ปล่อยโอกาสนี้อยู่แล้ว
จู่ๆเหย้หมิงก็พูด:”พวกเขาไปที่เมืองโม่หรือเปล่า?”
“เมืองโม่?”
เย่เซิ่งเทียนไม่เข้าใจสิ่งของเหล่านี้เลย เขาหันหน้าไปมองเหย้เฉินโดยไม่รู้ตัว
เหย้เฉินรีบเอ่ยปากพูด:”เจ็ดตระกูลพิทักษ์ สมัยนั้นเป็นเมืองโบราณทั้งเจ็ดแห่งที่เฝ้าทางเข้าโลกชูร่าเอาไว้ และสร้างอยู่ในไท่ซางโบราณ หลังจากผนึกสวรรค์แล้ว ไท่ซางโบราณก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เจ็ดตระกูลพิทักษ์เกิดการแก่งแย่งชิงดีกันและมีคนตายไปจำนวนมาก และสถานที่แห่งนี้ก็เกิดเรื่องแปลกๆขึ้น ทำให้พวกเขาย้ายออกจากสถานที่แห่งนี้”
จิตใจของเย่เซิ่งเทียนสั่นไหว:”ถ้าพูดแบบนี้ก็แปลว่าตระกูลเย่ของเราก็มีเมืองโบราณอันหนึ่งอยู่ตรงนี้ใช่ไหม?”
เหย้เฉินถอนหายใจและพูด:”ใช่แล้ว มีเมืองโบราณทั้งเจ็ดอยู่ แต่มันได้กลายเป็นสถานที่อันตรายและน่ากลัวมากๆ บางทีมันอาจจะโดนพลังของโลกชูร่าปกคลุมไปแล้ว คนของตระกูลโม่บ้าไปแล้วใช่ไหมถึงกล้าไปที่เมืองโม่ สหายน้อยเย่ ฉันขอเตือนให้เจ้าอย่าไปสถานที่ตรงนั้น ประการแรกเพราะเมืองโบราณของตระกูลเย่โดนทำลายไปนานแล้ว มันไม่มีอะไรเหลือไว้เลย ประการที่สองเพราะสมัยนั้นเมืองโบราณมีความเกี่ยวข้องกับโลกชูร่า มันกลายเป็นสถานที่อันตรายมากๆ ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรตรงนั้นหรือเปล่า”
เย่เซิ่งเทียนพูดเบาๆ:”ค่อยพูดกันทีหลัง ตอนนี้ไปที่เมืองโม่ก่อน ในเมื่อคนของตระกูลโม่กล้าไปที่เมืองโม่ มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน คนของตระกูลโม่สามารถรับมืออันตรายพวกนั้น ถ้าเมืองโบราณโดนพลังของโลกชูร่าปกคลุม ทำไมตระกูลโม่ถึงรับมือได้? ตระกูลโม่ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน”
เหย้หมิงพูดด้วยความไม่พอใจ:”เจ้าพูดถูกแล้ว พวกเราไม่รู้วิธีรับมือกับเรื่องประหลาดพวกนั้น แต่ตระกูลโม่กลับมีวิธีรับมือ ตระกูลโม่ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน รีบๆลงมือก่อน ค่อยดูว่าพวกมันมีปัญหาจริงๆไหม”
เหย้หมิงพูดได้ถูกใจเย่เซิ่งเทียนมากๆ พวกเขาต้องจับตัวอีกฝ่ายไว้ก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน
เหย้เฉินเดินนำทางอยู่ด้านหน้า และพุ่งไปที่เมืองโม่อย่างรวดเร็ว